อย่างที่หลาย ๆ คนน่าจะทราบกันว่าสิ่งที่เรียกว่าอนิเมะนั้นมีประวัติศาสตร์และความยาวนาน และ ถือได้ว่าอีกหนึ่งวัฒนธรรมของญี่ปุ่นที่ถูกเผยแพร่เข้ามาสู่ประเทศไทยอย่างยาวนาน จนทำให้คนในทุกรุ่นล้วนแล้วแต่ผ่านตาสิ่งที่เรียกอนิเมะมาบ้างไม่มากก็น้อย และหนึ่งในอนิเมะยุค 80 ที่ตอนนั้นถือได้ว่าเป็นอนิเมะที่ค่อนข้างโดนใจเหล่าเด็กผู้ชายเป็นอย่างมากก็คงจะหนีไม่พ้น
อนิเมะอย่าง Saint Seiya
ซึ่งสิ่งที่ทำให้อนิเมะอย่าง Saint Seiya ฮิตเป็นอย่างมากในตอนนั้นก็เพราะว่าเรื่องราวที่เล่าถึงมิตรภาพของเพื่อนที่ยอมตายแทนกันได้ แถมเนื้อเรื่องก็ยังมีการผสมผสานเทพนิยายกรีกเข้ามา รวมถึงตัวละครก็ค่อนข้างดีไซน์ได้คลาสสิกแบบสุด ๆ นอกจากนั้นบรรดาเหล่าชุดที่เหล่าเซนต์ใช้ก็เป็นอะไรที่โคตรเท่ แต่ทว่าในความเท่เหล่านั้นเอง ถ้าเรามานั่งมองกันให้ดี ๆ แล้วจริง ๆ เรื่องราวของ Saint Seiya เองก็ยังมีจุดที่ไม่ค่อยสมเหตุสมผลอยู่หลาย ๆ อย่างเลย ซึ่งในตอนเด็ก ๆ นั้นเราอาจจะไม่ได้สนใจมันเท่าไหร่ แต่ทว่าในปัจจุบันเมื่อเราหยิบมันมาดูอีกครั้ง สิ่งหนึ่งที่ต้องตามมาเลยนั่นก็ความอีหยั่งวะของเนื้อเรื่องนั่นเอง ดังนั้นวันนี้เราจึงจะมาพูดเรื่องราวสุดอีหยั่งวะที่เกิดขึ้นเรื่องของ Saint Seiya กัน
เอาละมาว่ากันที่เรื่องราวสุดอีหยั่งวะที่เรามักจะเจอในอนิเมะอย่าง Saint Seiya กัน โดยเรื่องแรกเลยนั่นก็คือ ความหน้าตาดีของบรรดาเหล่าตัวละครต่าง ๆ ซึ่งบอกเลยว่าเราอยากให้คุณลองสังเกตเรื่อง Saint Seiya กันดี ๆ ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เราได้เห็นตัวละครที่หล่อ เท่ ตัวละครเหล่านั้นจะต้องเก่งแบบจัด ๆ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เราเห็นตัวละครที่หน้าตาไม่ได้ดีเมื่อไหร่ ต่อให้บรรดาเหล่าตัวละครเหล่านั้นอยู่ในกลุ่มพระเอกก็ตามตัวละครนั้นจะโคตรกากเลย
ถ้าจะยกตัวอย่างให้เห็นภาพเรายกตัวอย่าง โกลเซนต์อัลเดบารัน รวมไปถึงบรรดาเหล่า สเปคเตอร์ผู้น่ากลัวจากขุมนรกอีกหลายต่อหลายตัว และตัวละครที่แม้หน้าไม่หล่อแต่หัวใจโคตรหล่ออย่าง คาชิออส ที่ยอมแม้กระทั่งตายเพื่อปกป้องเซย่าจากการต่อสู้กับไอโอเรีย ส่วนในทางกลับกันนั้นบรรดาเหล่าตัวละครที่หน้าหวาน หน้าหล่อในเรื่อง Saint Seiya มักจะการันตีฝีมือได้ว่าไม่มีทางแพ้ง่าย ๆ อย่างแน่นอน
ความอีหยั่งวะเรื่องต่อมาที่เราจะได้เห็นในเรื่อง Saint Seiya นั่นก็คือเรื่องราวของท่าสุดโหดอย่าง เอ็กซ์คาลิเบอร์ ซึ่งในเรื่องนั้นได้มีการเครมเอาไว้ว่า ชูร่า นั้นมีท่าไม้ที่ชื่อว่า เอ็กซ์คาลิเบอร์ โดยเขาจะใช้แขนขวาของเขาในการอัดอากาศออกไปให้เป็นเหมือนกับใบมีด และเขาก็ได้เคลมเอาไว้ว่า คมมีดอากาศนั้นมีความคมระดับเดียวกับดาบเอ็กซ์คาลิเบอร์ในตำนานที่สามารถตัดทุกสิ่งทุกอย่างให้ขาดได้ ซึ่งตัวของ ชูร่า ก็ใช้ท่านี้ใจการตัดชุดคล็อธของชิริวจนหมด แต่ทว่าถ้ามันคมเหมือนที่ ชูร่า ได้เคลมเอาไว้จริง ๆ ป่านนี้ร่างกายของ ชิริว ของขาดเป็นส่วนแล้วละ
ส่วนซึ่งผลสรุปการต่อสู้ของคู่นี้นั่นก็คือ ชิริวได้ตัดสินใจใช้ท่ามังกรทะยานพาร่างของตัวเองและชูร่าลอยออกไปสู่นอกโลก ซึ่งเพราะชูร่าได้เห็นจิตใจที่ภักดีต่อเอเธน่าของ ชิริว เขาจึงตัดสินใจสละชุดคล็อธของตัวเองให้ชิริวเพื่อกลับสู่โลก และ ยอมให้ตัวเลยสลายกลายเป็นผงในอวกาศ และ เป็นการจบการต่อสู้ของคู่นี้ในเรื่อง Saint Seiya
ความอีหยั่งวะอีกหนึ่งอย่างที่เราว่ามันแปลกมาก ๆ ในเรื่อง Saint Seiya นั่นก็คือของ ฟรีซซิ่ง คอฟฟิ่น หรือโลงน้ำแข็งที่ไม่มีวันละลายนั่นเอง โดยเนื้อเรื่องของโลงน้ำแข็งนี้จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับตัวละครอย่าง เฮียวงะ ที่เขานั้นไม่อาจจะสลัดเรื่องหน้าที่ของเขากับบุญคุณของอาจารย์ได้และทำให้เกิดการลังเลในการต่อสู้ จนทำให้ในที่สุดคามมิวก็ได้ตัดสินจับเฮียวงะแช่แข็งด้วยท่าที่เรียกว่า ฟรีซซิ่ง คอฟฟิ่น แล้วนำไปไว้ที่ปราสาทราศีตุลย์เพื่อที่จะไม่ทำให้ตัวของเฮียวงะนั้นถูกเหล่าโกลด์เซนต์คนอื่น ๆ ว่า
แถมตัวเขายังบอกอีกด้วยว่าพลังน้ำแข็งอันนี้ของเขาต่อให้ 12 โกลด์เซนต์รวมพลังกันก็ไม่อาจทำอะไรได้ แต่ทว่าเมื่อ เซย่า ชิริว และ ชุน ได้เดินทางมาถึงปราสาทดังกล่าว กลับกลายเป็นว่า ชิริว นั้นสามารถที่ใช้ดาบของไลบร้าคล็อธทำลายได้แบบซะดื้อ ๆ เลยซะงั้น แถมมันยังนำมาสู่ซีนในตำนานของอนิเมะ Saint Seiya อย่างการที่ ชุน กับ เฮียวงะ นอนเปลือยกายถ่ายทอดพลังคอสโม่ให้แก่กัน
ความอีหยั่งวะอีกหนึ่งอย่างที่เราว่ามันแปลกมา ๆ ในเรื่อง Saint Seiya นั่นก็คือความวุ่นวายของ ไดมอนด์ ดัสท์ กับท่าเต้น Swan Lake ของเฮียวกะ ซึ่งถ้าใครติดตามเรื่อง Saint Seiya ในเวอร์ชันอนิเมะมาคุณน่าจะรู้ว่าการที่บรรดาเหล่าเซนต์แต่ละคนจะใช้ท่าได้นั้น จะต้องมีการขยับเนื้อขยับตัวเพื่อรีดเร้นพลังคอสโม่ที่อยู่ในร่างกายของตัวเอง อย่างเช่นตัวเอกของเรื่อง อย่างเซย่า ก็จะมีการวาดมือเป็นรูปกลุ่มดาวม้าบินก่อนเพื่อที่จะใช้ท่า แต่ทว่าคนที่อาการน่าจะหนักที่สุดนั้นก็คือ เฮียวกะที่ท่าของเขามันจะออกสเต็ปที่เวอร์วังเกินคนอื่นไปสักหน่อย แถมบางฉากหลังจากที่เจ้าตัววาดลวดลายเสร็จแล้วพอต่อยออกมากลับไม่โดนคู่ต่อสู้ซะอย่างงั้น เรียกว่าทำเอาไอ้ท่าทางก่อนหน้านี้เสียเวลาเปล่าของจริง และนั่นแหละมั้งจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ภาคหลังท่าเพื่อรีดเร้นพลังคอสโม่ได้หายไปจากเรื่อง
อีกหนึ่งสิ่งที่เราว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่เมคเซ้นส์เอาซะเลยสำหรับเรื่อง Saint Seiya นั่นก็คือ ใครที่ไม่ใช่พวกพระเอกแล้วมีฝีปากจัดจ้าน มันสามารถบ่งบอกได้เลยว่าไอ้บรรดาเหล่าตัวละครตัวนั้นรับรองอยู่ไม่นานแน่นอน ซึ่งเรื่องเหล่าจะเห็นอยู่ตลอดเวลาที่พวกของเซย่านั้นเผชิญหน้ากับศัตรู เพราะมันมักจะมีบรรดาเหล่าตัวละครฝั่งร้ายที่ชอบดูถูก ดูแคลน ตัวละครฝั่งเซย่าอยู่เสมอ แถมแค่ดูถูกยังไม่พอ พี่แกยังบรรยายสรรพคุณท่าที่ตัวเองใช้ รวมถึงชุดเกราะ และ อาวุธสุดเวอร์วังต่าง ๆ แต่ทว่าเพราะไอ้การอธิบายเหล่านี้นี่แหละที่ทำให้สุดท้ายแล้วบรรดาเหล่าตัวละครเหล่านั้น ๆ ก็ต้องพ่ายแพ้ไปในที่สุดนั่นเอง
อีกหนึ่งสิ่งที่เราว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่เมคเซ้นส์เอาซะเลยสำหรับเรื่อง Saint Seiya นั่นก็คือ ประโยคสุดฮิตอย่าง “ฉันไม่อยากทำร้ายใคร” โดยประโยคนี้เรามักจะได้ยินจากปากของ ชุน อยู่เสมอ ๆ โดยตัวละครของชุนนั้นมันถูกดีไซน์ออกมาให้คล้าย ๆ กับสาวน้อยแสนสวยคนหนึ่ง ดังนั้นแม้ว่าเรื่องนี้จะเต็มไปด้วยบรรดาเหล่าตัวละครหนุ่ม ๆ ชุน ก็มักจะเปรียบเหมือนเป็นดอกไม้งามท่ามกลางเหล่าหนุ่ม ๆ
แต่ถึงหน้าของเขาจะหวานเจี๊ยบขนาดไหนก็ตาม ความสามารถของเขาก็โหดไม่แพ้กับตัวละครอื่น ๆ ใน Saint Seiya โดยเขามีท่าไม้ตายที่โคตรโหดอย่าง เนบิวลา สตรีม ซึ่งท่านี้จะเป็นการปล่อยวังวนอากาศอ่อน ๆ ล้อมรอบตัวคู่ต่อสู้ และจากนั้นตัวของชุนก็มักจะพูดออกมาว่า “ยอมแพ้เถอะ ฉันไม่อยากทำร้ายใคร” แต่หากคู่ต่อสู้ขัดขืนท่านี้เมื่อไหร่ ความรุนแรงของ เนบิวลา สตรีม จะเปลี่ยนเป็น เนบิวล่า สตอร์ม และทำลายคู่ต่อสู้อย่างง่ายดายนั่นเอง
อีกหนึ่งความอีหยั่งของ Saint Seiya ซึ่งเป็นเรื่องต่อเนื่องมาจากเรื่องเมื่อกี้เลยนั่นก็คือประโยคที่มาจาก ชุน เช่นกัน โดยประโยคนั้นก็คือ “พี่ฮะ” ซึ่งแม้ว่าตัวของชุนนั้นจะมีท่าในการต่อสู้ให้เลือกมากมาย โดยท่าส่วนใหญ่นั้นจะเกี่ยวข้องกับโซ่ที่ตัวเขาใช้
แต่ไม่ว่าอย่างไรสุดท้าย ชุน ก็มักที่จะพลาดท่าอยู่เสมอ และ ในช่วงเวลาที่ชุนพลาดท่านั้นเอง ชุน ก็มักจะตะโกนออกมา “พี่ครับ” หรือ “พี่ฮะ” และเมื่อไหร่ก็ตามที่ ชุน ตะโกนคำนี้ออกมา พี่ชายของเขาอย่าง อิคคิ ก็มักจะโผล่ออกมาเสมอ เพื่อช่วยน้องชายเขา และ สุดท้ายมันก็จะตามมาด้วยประโยคอย่า “พี่ครับ พี่มาจริงๆด้วย ผมรู้แล้วว่าพี่ต้องมา”
แต่เรื่องราววสุดไม่เมคเซ้นส์ของเรื่อง Saint Seiya ยังไม่หมดเพียงเท่านี้หรอกนะ เอาไว้เดี๋ยวครั้งหน้าเราจะพาทุก ๆ คนไปพบกับเรื่องราวที่อีหยั่งยิ่งกว่านี้ขึ้นไปอีก ซึ่งมันจะมีอะไรอีกบ้าง เอาเป็นว่าเดี๋ยวครั้งหน้าเราค่อยมาดูกันต่อ
เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> ป๊อกเด้งออนไลน์ ขั้นต่ำ 5 บาท