หนึ่งในอนิเมะหุ่นยนต์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดและยังเป็นหนึ่งในอนิเมะหุ่นยนต์ที่ครองใจแฟน ๆ ทั่วโลกได้อย่างไม่ยากเย็นนัก เราเชื่อว่าชื่อของอนิเมะอย่าง กันดั้ม จะต้องเป็นหนึ่งในรายชื่อที่ใครหลาย ๆ คนจะต้องพูดถึงอย่างแน่นอน ซึ่งสาเหตุที่ทำให้อนิเมะเรื่องนี้สามารถครองหัวใจของคนหลายรุ่นมาได้อย่างยาวนานก็เพราะ ตั้งแต่ครั้งแรกของหุ่นยนต์ในเรื่องกันดั้มปรากฏตัว ความเท่ และ ความสมจริงของมันก็เอาชนะหัวใจของคนดูไปได้เป็นที่เรียบร้อย และ เมื่อกระแสความนิยมมีมากมายขนาดนี้มีเหรอที่ อนิเมะอย่างกันดั้มจะไม่ทำภาคต่อออกมา ซึ่งตั้งแต่กันดั้มภาคแรก ลากยาวมาจนถึงปัจจุบันนี้แต่ละภาคก็มีความสนุก และ ปรับระดับความเหมาะสมของเนื้อเรื่องไปเรื่อย ๆ แต่หนึ่งในภาคที่มันโดนใจใครหลาย ๆ คนจนกลายเป็นที่พูดถึงมาจนถึงปัจจุบันนี้แม้ว่ามันจะจบไปแล้วก็ตามนั่นก็คือ Gundam SEED Destiny
ซึ่งเพราะเนื้อเรื่องที่ค่อนข้างจะสนุก รวมถึงยังมีคาแรคเตอร์ตัวละครที่คนข้างโดนใจสาว ๆ จึงทำให้ภาคนี้เป็นภาคที่ได้รับการพูดถึง แต่นอกจากปัจจัยดังกล่าวแล้วอีกหนึ่งอย่างที่ทำให้กันดั้มในภาคนี้ถูกพูดถึงอย่างมากนั่นก็คือหุ่นต่าง ๆ ในเรื่องที่ออกแบบมาได้ค่อนข้างเท่เป็นอย่างแม้กระทั่งเหล่าหุ่นตัวประกอบ ดังนั้นในครั้งนี้เราจึงจะขอพาทุก ๆ ไปพบกับจัดอันดับเครื่องจักร และหุ่นยนต์จากภาค SEED Destiny ที่โดนใจบรรดาเหล่าคอกันดั้มมากที่สุดกัน
แต่ก่อนที่จะเริ่มอ่านนั้นเราได้เคยจัดอันหุ่นสุดเท่ในภาคนี้เอาไว้ในบทความก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งคุณสามารถที่จะย้อนไปดูความเท่ของหุ่นยนต์เหล่านั้นกันก่อนได้ ส่วนถ้าใครเคยอ่านแล้ว ตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้วละที่เราจะมาดูหุ่นยนต์สุดเท่จากเรื่อง Gundam SEED Destiny กันต่อ
เอาละมาเริ่มกันที่หุ่นสุดเท่ของ Gundam SEED Destiny ตัวแรกที่เราจะพูดถึงครั้งนี้กันเลยดีกว่าโดยหุ่นยนต์ตัวแรกที่เราจะพูดถึงนั่นก็คือหุ่นยนต์ของทางฝั่งซาฟต์ อย่าง Slash Zaku Phantom ซึ่งจริง ๆ แล้วเจ้าหุ่นยนต์ตัวนี้หน้าจะเหมือนกับหุ่น Zaku ทั่วไปที่เราได้เห็นในเรื่องนี้นี่แหละ แต่ทว่าเจ้า Zaku Phantom จะมีสมรรถนะที่สูงกว่ามาก ๆ แถมยังมาพร้อมกับแพ็คข้างหลังที่เรียกว่า Slash Wizard pack และเสริมอาวุธเพิ่มเข้าไปอย่าง Hydra Gatling Beam Cannon และที่เด็ดไปกว่านั้นก็คือ อาวุธขวานขนาดใหญ่อย่าง Beam Axe ที่ใช้เป็นอาวุธหลักนั่นเอง โดยผู้ที่ขับหุ่นยนต์ตัวนี้นั่นก็คือ Yzak Jule เอสไพล็อตทางฝั่งซาฟต์ในภาค Gundam Seed เพื่อนร่วมรุ่นของอัสรัน ที่ตอนนี้กลายเป็นผู้บัญชาการกองยานแล้วนั่นเอง
หุ่นสุดเท่ตัวต่อมาใน Gundam SEED Destiny ที่โดนใจใครหลาย ๆ คนนั้นก็คือหุ่นอย่าง Strike Rouge ซึ่งเจ้าหุ่นตัวนี้มีหน้าตาเหมือนกับ Strike กันดั้มในภาค Seed ทุกประการเพราะว่ามันถูกสร้างมาพร้อมกันนั่นเอง แต่ทว่าสิ่งที่มันทำให้เจ้าตัวนี้แตกต่างไปก็คือสีสันของมัน โดยเจ้า Strike Rouge นั้นจะมาพร้อมกับสีชมพูเกือบทั้งตัว แถมในภาคเดสทินี่นั้นมันจะมาพร้อมกับแพ็คหลังอันใหม่ที่ชื่อว่า Ootori จึงทำให้มันยิ่งเหมือนกับ Strike มากยิ่งขึ้น และเพราะสีสันชมพูจ๋าขนาดนี้จึงทำให้ผู้ขับนั้นจะต้องเป็นผู้หญิงอย่างแน่นอน และ คนที่ขับเจ้าหุ่นยนต์เครื่องนี้ก็คือ คางาริ ซึ่งในภาคนี้เธอนั้นยังเป็นถึงผู้นำของออร์บอีกด้วย
หุ่นสุดเท่ตัวต่อมาใน Gundam SEED Destiny ที่โดนใจใครหลาย ๆ คนนั้นก็คือหุ่นอย่าง Impulse Gundam โดยเจ้าหุ่นยนต์ตัวนี้คือ หุ่นยนต์ตัวหลักในช่วงแรกของภาคนี้เลยทีเดียว ซึ่งเจ้าหุ่นยนต์ตัวนี้จะมีลักษณะคล้าย ๆ กับ Strike กันดั้ม เพราะว่าจะมีแพ็คอเนกประสงค์ให้ 3 งานถึง 3 แพ็คนั่นก็คือ แพคที่ใช้ดาบ แพคที่ใช้ปืน และ แพ็คบูสเตอร์ ซึ่งเรามักจะเห็นร่างบูสเตอร์บ่อยที่สุด แต่สิ่งที่มันเหนือกว่า Strike Gundam นั่นก็คือ เจ้าหุ่นยนต์ตัวนี่จะมีความสามารถในการถอดประกอบร่างด้วยการใช้ยานบินเป็นตัวควบคุม ซึ่งความสามารถในการถอดประกอบร่างได้นี้เองที่ทำให้ มันสามารถที่จะล้มสุดยอดหุ่นอย่าง Freedom Gundam ลงไป โดยผู้ที่ขับมันคนแรกนั่นก็คือ Shinn Asuka ก่อนที่มันจะถูกโยกไปให้ Lunamaria Hawke ขับภายหลังที่ ชินย้ายไปขับ Destiny Gundam
หุ่นสุดเท่ตัวต่อมาใน Gundam SEED Destiny ที่โดนใจใครหลาย ๆ คนนั้นก็คือหุ่นอย่าง Gouf Ignited โดยจริง ๆ แล้วเจ้าหุ่นยนต์ของตัวนี้ก็เหมือนกับบรรดาเหล่าหุ่น Gouf รุ่นเดียวกันเองนั่นแหละ แต่มันจะถูกเพิ่มสเปคเครื่องให้สูงขึ้น เนื่องจากผู้ขับนั้นเป็นถึงไพล็อตระดับสูงของกองทัพ Zaft อย่าง ไฮเน่ นั่นเอง ซึ่งแม้ว่าเจ้าหุ่นนี้จะไม่ได้มีความสามารถอะไรพิเศษมากมายนอกจากแส้ความร้อนสูง แต่เพราะความเท่ของคนขับที่มีข้อคิดดี ๆ ให้กับชิน รวมถึงสีของหุ่นที่มาในโทนสีส้ม ซึ่งค่อนข้างสวยเอามาก ๆ นี่แหละ จึงทำให้เจ้าหุ่นตัวนี้ได้รับความนิยมค่อนข้างสูง แต่ก็น่าเสียดายที่สุดท้ายแล้วเจ้าหุ่นตัวนี้ก็โดนหั่นครึ่งร่างไปพร้อมกับคนขับ
หุ่นสุดเท่ตัวต่อมาใน Gundam SEED Destiny ที่โดนใจใครหลาย ๆ คนนั้นก็คือหุ่นอย่าง Saviour Gundam โดยเจ้าหุ่นยนต์นี้เป็นหุ่นยนต์ในช่วงแรกเริ่มของเอสไพล็อตอีกคนที่ผ่านสงครามในภาคก่อนหน้าอย่าง อัสรัน นั่นเอง ซึ่งเจ้าหุ่นยนต์นี้ถูกผลิตขึ้นเพื่อส่งมอบให้กับเขาโดยเฉพาะ และ มันยังคงเอกลักษณ์ของอัสรันเอาไว้ด้วยการที่จะทำให้มันสามารถที่จะเปลี่ยนร่างไปมาระหว่างการเป็นหุ่นยนต์ กับ เครื่องบินได้นั่นเอง แถมเจ้าหุ่นตัวนี้ก็ยังมีอีกหนึ่งอาวุธทีเด็ดนั่นก็คือปืนใหญ่พลังงานสูงติดตั้งเอาไว้บริเวณแพคหลังของมันนั่นเอง แถมมันยังมีความคล่องตัวค่อนข้างสูง แต่ก็น่าเสียดายที้สุดท้ายเจ้าหุ่นตัวนี้ก็ต้องถูกหั่นเป็นชิ้น ๆ จากการที่ อัสรัน พยายามขับเจ้าหุ่นเครื่องนี้ไปหยุด คิระ ที่กำลังขับ Freedom อยู่นั่นเอง
หุ่นสุดเท่ตัวต่อมาใน Gundam SEED Destiny ที่โดนใจใครหลาย ๆ คนนั้นก็คือหุ่นอย่าง Infinite Justice ซึ่งเจ้าหุ่นยนต์ตัวนี้คืออีกหนึ่งหุ่นยนต์ของ อัสรัน ซึ่งถูกนำมาใช้ในช่วงท้าย ๆ ของเรื่องแล้ว แต่ทว่าครั้งนี้อัสรันกลับไม่ได้ขับมันให้กับทางฝั่งซาฟต์อีกต่อไป เพราะว่าเขาได้ย้ายมาอยู่ฝั่งเดียวกับฝั่งคิระ และ ดูเหมือนว่าเมื่อเขาขับเจ้าหุ่นยนต์ตัวนี้
ฝีมือการขับอันแท้จริงของเขาก็แสดงออกมา โดยเจ้ากันดั้มตัวนี้ได้พัฒนาต่อยอดมาจากหุ่นยนต์ในภาคเก่าของเขาอย่าง Justice Gundam และความสามารถของเจ้าหุ่นยนต์ตัวนี้ก็บอกเลยว่ามันคือนักสับตัวยง เพราะว่าตามส่วนต่าง ๆ ของหุ่นจะมีบีมเซอร์เบอร์ติดอยู่ โดยเฉพาะตรงขาที่เพียงเตะใส่หุ่นยนต์ศัตรูก็สามารถทำให้หุ่นยนต์ฝั่งตรงข้ามขาดเป็น 2 ท่อนได้แล้ว
หุ่นสุดเท่ตัวต่อมาใน Gundam SEED Destiny ที่โดนใจใครหลาย ๆ คนนั้นก็คือหุ่นอย่าง Destiny Gundam โดยเจ้าหุ่นตัวนี้ก็นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งหุ่นยนต์ที่มีสมรรถนะเครื่องค่อนข้างสูง โดยตัวของมันนี้ได้ถูกสร้างขึ้นมาโดยอ้างอิงข้อมูลการต่อสู้จาก Impulse Gundam จึงทำให้มันมีอาวุธต่าง ๆ สำหรับการต่อสู้คล้าย ๆ กัน นอกจากนั้นแล้วมันยังมีบีมที่มือ และ บีมบูมเมอแรงที่บริเวณหัวไหล่อีกด้วย และอีกหนึ่งความสามารถของเจ้าหุ่นตัวนี้นั่นก็คือการเร่งความเร็ว
และ อนุภาคของปีกที่เปล่งประกายออกมาจากทำให้เกิดภาพติดตานั่นเอง โดยผู้ขับเจ้าหุ่นยนต์คนนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่น นอกจากคนที่เกือบจะได้เป็นพระเอกของภาคอย่าง ชิน อาสึกะ นั่นเอง
หุ่นสุดเท่ตัวต่อมาใน Gundam SEED Destiny ที่โดนใจใครหลาย ๆ คนนั้นก็คือหุ่นอย่าง Strike Freedom Gundam ซึ่งเจ้าหุ่นตัวนี้ถูกสร้างขึ้นหลังจากที่ Freedom ได้ถูกทำลายจากการที่ คิระ ได้ต่อสู้กับ ชิน อาสึกะ ซึ่งหุ่นตัวนี้ยังคงอ้างอิงรูปทรงจากตัวเดิมแต่ที่เพิ่มเติมขึ้นมานั่นก็คือการใส่ปืนใหญ่เอาไว้บริเวณท่อง นอกจากนั้นแล้วบริเวณตรงปีกของมันยังใช้อาวุธระยะไกลอย่าง บิท ได้อีกด้วย แถมเมื่อมันปล่อยบิทออกไปจากปีกแล้ว ตัวหุ่นยนต์ก็จะเบาลงและทำให้มันสามารถเร่งความเร็วได้มากขึ้นอีกด้วย นอกจากนั้นข้อต่อที่เป็นสีทองของมันยังมีความสามารถเดียวกับหุ่นยนต์อย่าง
อาคาซึกิ ที่สามารถสะท้อนบีมต่าง ๆ ออกไปได้อีกด้วย ซึ่งเพราะความเทพของมัน และ คนขับนี่เอง จึงทำให้เจ้าหุ่นตัวนี้แทบจะไม่มีความเสียหายอะไรเลยจนจบภาค
และนี่ก็คือจัดอันดับเครื่องจักร และหุ่นยนต์จากภาค SEED Destiny ที่โดนใจบรรดาเหล่าคอกันดั้มมากที่สุด ซึ่งเราได้นำมาฝากทุก ๆ คน แล้วคุณละมีหุ่นยนต์ตัวไหนในกันดั้มภาคนี้ที่ชื่นชอบบ้าง