อย่างที่เราได้เคยย้ำเอาไว้หลาย ๆ ครั้งภายในบทความของเว็บไซต์เราเอาไว้ว่า ในปัจจุบันนี้อนิเมะนั้นค่อนข้างมีเนื้อหาที่หลากหลาย รวมถึงมีเนื้อหาที่ลึกซึ้ง และ เข้มข้นขึ้นไปตามกาลเวลา และนั่นเองจึงทำให้อนิเมะหลาย ๆ เรื่องได้สร้างปมปริศนาเอาไว้มากมายภายในเรื่อง ซึ่งบรรดาเหล่าแฟนอนิเมะเองก็ไม่ต่างกับแฟน ๆ ของภาพยนตร์ หรือ สื่ออื่น ๆ เพราะพวกเขามักจะคิดวิเคราะห์เรื่องราว หรือ ทฤษฎีต่าง ๆ เพื่อออกมาคุยกันก่อนที่อนิเมะหลาย ๆ เรื่องจะเฉลยความจริงออกมา
ซึ่งในบางครั้งทฤษฎีที่พวกเขาวิเคราะห์ออกมานั้นก็เป็นอะไรที่จริงจังและน่าคล้อยตาม แต่ทว่าในบางทฤษฎีเหล่านั้นก็เป็นอะไรที่ดูแล้วไม่น่าเป็นไปได้สุด ๆ เลย จึงทำให้ในครั้งนี้เราจะขอพาทุก ๆ คนไปพบกับการ รวมทฤษฎีการวิเคราะห์ของบรรดาเหล่าแฟน ๆ อนิเมะที่บางทีก็แม่น บางทีก็มั่ว กัน ซึ่งจะมีทฤษฎีอะไรบ้าง และ แต่ละอย่างมันจะจริงตามที่ผู้สร้างได้ตั้งใจเอาไว้ตั้งแต่แรกหรือไม่ เอาเป็นว่า เราไปเริ่มเรื่องราวในครั้งนี้กันเลยดีกว่า
พ่อซาโตชิเป็นใครกันแน่ จากเรื่อง Pokemon

สำหรับแนวคิดนี้ถือได้ว่าเป็นทฤษฎีที่ยังไม่สามารถหาคำตอบได้จนถึงปัจจุบันนี้แม้ว่า ซีรีส์เรื่อง Pokmon ในเวอร์ชันของ
ซาโตชิจะจบลงไปแล้วก็ตาม ซึ่งสิ่งที่บรรดาเหล่าแฟนของอนิเมะเรื่องนี้อยากเห็นมากที่สุดก็คงหนีไม่พ้น ใครกันแน่ที่เป็นพ่อของซาโตชิ และเมื่อมันไม่มีการเฉลยใด ๆ เลยมันก็ทำให้เรื่องนี้มีบรรดาเหล่าแฟน ๆ ทั้งทฤษฎีเอาไว้มากมาย
โดยคนแรกที่หลาย ๆคนเชื่อว่าน่าจะเป็นไปได้ที่สุดนั่นก็คือ ดร.โอคิโด ศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโปเกมอน เพราะว่าเขาคนนี้ถือได้ว่าเป็นผู้ชายอีกคนที่ไม่ว่าจะเป็นเวลาไหนก็ตามเขาก็มักจะอยู่กับแม่ของซาโตชิเสมอ แถมเวลาที่ตัวของซาโตชิกลับมาบ้านทีไร เราก็จะพบว่าเขานั้นมักจะไป ๆ มาๆ กับแม่ของซาโตชิเป็นประจำ
แต่อีกทฤษฎีหนึ่งที่แปลกไม่แพ้กันนั่นก็คือ แท้จริงแล้วพ่อของซาโตชิคือ โปเกมอนอย่าง บาเรียด โดยเจ้าบาเรียดนี้จะมีหน้าที่เป็นเหมือนกับคนใช้ในบ้านซาโตชิ แต่ที่หลาย ๆ คนบอกว่าเจ้านี่อาจจะเป็นพ่อซาโตชิก็ได้นั่นก็เพราะว่า เจ้าโปเกมอนตัวนี้นี่ติดหนึบกับแม่ของซาโตชิยิ่งกว่าตัวไหน ๆ แถมเมื่อไหร่ก็ตามที่ในเรื่องมีฉากเกี่ยวกับแม่ซาโตชิ เจ้าโปเกมอนตัวนี้ก็มักจะโผล่ออกมาด้วยเสมอ และมันก็มันจะแสดงความสัมพันธ์อันสนิทสนมจนทำให้คนดูเข้าใจผิดอยู่บ่อย ๆ
ซึ่งแม้ว่าบรรดาเหล่าแฟน ๆ ตั้งทฤษฎีต่าง ๆ มากมายแต่สุดท้ายแล้วทางผู้สร้างของเรื่องก็ไม่ได้มีการตอบ หรือ ยืนยันใด ๆ กับเรื่องนี้เลย
ซูเล็ตต้า เมอร์คิวรี่ คือร่างโคลน และ ตัวจริง คือ แอเรียล จากเรื่อง Mobile Suit Gundam The Witch from Mercury

สำหรับกันดั้มในภาคนี้ถือได้ว่าเป็นกันดั้มอีกภาคที่ภายนอกนั้นช่างเป็นภาพลักษณ์ที่สวยงาม แต่เนื้อหาภายในนั้นกลับเป็น
อะไรที่ดำมืด และ รุนแรงเป็นอย่างมาก แถมเนื้อเรื่องก็ยังเต็มไปด้วยปริศนามากมาย และหนึ่งในปริศนาที่หลาย ๆ คนต่างตั้งคำถามตั้งแต่ต้นเรื่องนั่นก็คือ จริง ๆ แล้วตัวของนางเอกอย่าง ซูเล็ตต้า เมอร์คิวรี่ นั้นเป็นใครกันแน่
ซึ่งสาเหตุที่ทำให้หลาย ๆ คนตั้งคำถามนั่นก็เพราะว่า ในอนิเมะตอนที่ 0 นั้น เราจะได้เห็นบรรดาเหล่าตัวละครหลาย ๆ ตัวที่มีอายุอยู่พอสมควร และ นั่นเองก็รวมถึงตัวของ ซูเล็ตต้า ที่ตอนนั้นเธอมีอายุเพียงแค่ 4 ขวบเท่านั้น แต่ทว่าเมื่อตัวของซีรีส์ได้ดำเนินเรื่องมาในตอนที่ 1 เราก็พบว่าตัวละครหลาย ๆ ตัวที่ปรากฏตัวในตอนที่ 1 นั้นมีอายุค่อนข้างมากหลายคนแล้วจนทำให้แฟน ๆ คิดว่าเนื้อเรื่องตอนที่ 1 กับตอนที่ 0 นั้นน่าจะกินเวลาห่างกันหลายปีเลยทีเดียว แต่กลับกลายเป็นว่า ซูเล็ตต้า ที่ปรากฏตัวออกมานั้นมีอายุเพียงแค่ 17 ปีเท่านั้น แถมยิ่งเนื้อเรื่องดำเนินไปเรื่อง ๆ มันก็จะยิ่งตอกย้ำความชัดเจนว่า เหตุการณ์ในตอน 0 กับตอนที่ 1 นั้นมีระยะเวลาห่างกันมากถึง 21 ปีเต็ม
จึงทำให้หลาย ๆ คนมองว่าซูเล็ตต้าที่เราได้เห็นนั้นอาจจะไม่ใช่ตัวจริง และ ตัวจริงนั้นก็อาจจะถูกจับยัดใส่หุ่นยนต์อย่าง
แอเรียลไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเราขอบอกว่าคนที่คิดทฤษฎีนี้นั้นถือว่ามองเกมออกได้ดีทีเดียว เพราะเมื่อไม่กี่ตอนล่าสุดทางเรื่องก็ได้มีเฉลยทฤษฎีดังกล่าวออกมาแล้วว่าในร่างของหุ่นยนต์แอเรียลนั้นมีซูเล็ตต้าเป็นโค้ดดาต้าอยู่ภายใน และ
ซูเล็ตต้าที่เราเห็นก็คือตัวโคลนอย่างที่หลาย ๆ คนเดาเอาไว้ และเมื่อทฤษฎีนี้ถูกยืนยัน มันเลยยิ่งทำให้โทนเรื่องนั้นยิ่ง
ดาร์คขึ้นไปอีกหลายเท่าตัวเลยละ
พระเจ้าในเรื่องจริง ๆ คือ เคียว จากเรื่อง The Melancholy of Haruhi Suzumiya
มีใครเคยคิดไหมว่าคนที่มีพลังระดับพระเจ้านั้นจะมาในรูปแบบของหญิงสาวนักเรียนแสนธรรมดาคนหนึ่ง ซึ่งสิ่งสิ่งนั้นมันได้เกิดขึ้นแล้วกับเด็กสาวที่มีชื่อว่า สึซึมิยะ ฮารุฮิ โดยเธอคนนี้ได้ก่อตั้งชมรมที่มีชื่อว่า SOS เพื่อที่จะค้นหามนุษย์ต่างดาว ,
ผู้เดินทางจากอนาคต และ รวมไปถึงคนที่มีพลังจิต แต่พยายามเท่าไหร่เธอก็ยังไม่เจอคนเหล่านี้สักที ทั้ง ๆ ที่จริง ๆแล้ว บุคคลที่อยู่รายล้อมเธอนั้นคือสิ่งที่เธอตามหาทั้งหมด ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นตัดสินใจมาอยู่ใกล้ ๆ กับตัวของฮารุฮิเพื่อสังเกตพลังระดับพระเจ้าที่อยากแก้ไขอะไรก็ได้เพียงแต่เธอไม่รู้ตัวเท่านั้นเอง
ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดในเรื่องนั้นจะถูกเล่าผ่าน เคียว โดยเขานั้นจะรู้ความจริงทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นเรื่องพลังของฮารุฮิ หรือบรรดาเหล่าเพื่อน ๆ รอบตัว แต่ทว่าบรรดาเหล่าแฟน ๆ ที่ดูอนิเมะเรื่องนี้กลับมีอีกทฤษฎีหนึ่งนั่นก็คือแท้จริงแล้วพลังทั้งหมดมันไม่ได้เกิดมาจากฮารุฮิหรอก แต่จริง ๆ แล้วมันมาจากตัวของเคียวนั่นแหละ ซึ่งสาเหตุที่บรรดาเพื่อนทั้งหมดต่างเข้ามาพูดความจริงกับเคียวนั่นก็เพื่อกระตุ้นให้เขาใช้พลังในการแก้ไขเรื่องราววุ่น ๆ ที่ฮารุฮิก่อให้กลับมาเหมือนเดิมต่าง ๆ
แต่ถึงยังไงแล้วสุดท้ายทฤษฎีเรื่องนี้ก็ยังไม่ได้มีการยืนยันจากคนเขียน และทำให้หลักฐานที่เห็นประจักษ์ที่สุดนั่นก็คือ ฮารุฮิ คือพระเจ้ายังคงเป็นเรื่องจริงมาจนถึงทุกวันนี้
พลังของไซตามะ จากเรื่อง One Punch Man
อนิเมะเรื่องนี้ถือได้ว่าเป็นอนิเมะอีกหนึ่งเรื่องที่วาดพระเอกหลักของเรื่องได้หน้าตาตัวประกอบแบบสุด ๆ แต่ถึงยังไงก็ตามความสามารถอันแข็งแกร่งของ ไซตามะ เองก็เป็นเรื่องจริง โดยที่มาของพลังเขานั่นก็คือ การที่ตัวของไซตามะวิดพื้น 100 ครั้ง ซิทอัพ 100 ครั้ง ลุกนั่ง 100 ครั้ง และ วิ่ง 10 กิโลเมตร แต่ถึงตัวของไซตามะจะพูดที่มาของพลังเขาไว้ชัดเจนแล้วก็ตาม ก็ยังมีบรรดาเหล่าแฟน ๆ อีกหลายคนที่ไม่เชื่อว่าที่มาของพลังนี้คือของจริง
โดยสาเหตุนั้นก็มาจากเนื้อเรื่องในช่วงของการต่อสู้กับกาโร่ที่ทำให้เราได้รู้จักกับตัวละครระดับพระเจ้า ซึ่งแค่พลังเศษเสี้ยวเดียวผู้ที่ได้รับพลังมาก็จะแข็งแกร่งแบบผิดหูผิดตา จึงทำให้หลาย ๆ คนคิดว่า ความแข็งแกร่งของไซตามะก็น่าจะมาจากการได้รับพลังจากพระเจ้าไปแบบไม่รู้ตัวเช่นกัน
ซึ่งเรื่องราวของที่มาขอพลังนั้นจะเป็นอย่างไรเราก็ต้องไปรอดูการเฉลยในอนาคต
แต่การรวมทฤษฎีการวิเคราะห์ของบรรดาเหล่าแฟน ๆ อนิเมะที่บางทีก็แม่น บางทีก็มั่ว ยังไม่หมดแต่เพียงเท่านี้หรอกนะ เพราะว่ายังมีอีกหลายเรื่องเลยทีเดียว เอาไว้เดี๋ยวเราค่อยมาต่อกันในครั้งหน้า