เรื่องของการเมืองนั้นถือได้ว่ามันคือส่วนหนึ่งของชีวิตคนเราไปแล้ว เพราะไม่ว่าคุณจะอยู่ประเทศไหนก็ตามสิ่งที่เกี่ยวกับการเมืองก็จะอยู่กับคุณทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นค่าโทรศัพท์ที่ใช้โทร ข้าวของต่าง ๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำ และ รวมไปถึงน้ำประชาที่ใช่ประกอบชีวิตของคุณเช่นกัน และเพราะความใกล้ชิดของการเมืองนี้เองที่ทำให้บางทีเรื่องราวเหล่านั้นมันก็ถูกสะท้อน และ วิพากย์วิจารณ์ในรูปแบบอื่น ๆ ไม่ว่าจะผ่านทางเพลง การพูดปราศัย และ อนิเมะ โดยสิ่งเหล่านั้นอาจจะไม่ได้สะท้อนออกมาเป็นภาพรวมของอนิเมะ แต่มันก็ยังมีอนิเมะหลาย ๆ เรื่องที่แอบแฝงประเด็นทางการเมืองเอาไว้ จึงทำให้ในวันนี้เราจะขอพาทุก ๆ คนไปพบกับเรื่องราว อนิเมะแนวการเมือง ที่มีเนื้อหาค่อนข้างร้อนแรง และ น่าติดตามเป็นอย่างมาก ซึ่งมันจะมีเรื่องอะไรบ้างนั้น เอาเป็นว่าเราไปดูกันเลย
สำหรับอนิเมะแนวการเมืองเรื่องแรกที่เราอยากจะพาทุก ๆ คนไปรู้จักกันนั่นก็คือ
อนิเมะที่มีชื่อเรื่องว่า Code geass โดยเรื่องราวของ Code geass นั้นจะเล่าถึงเรื่องราวของโลกในปี 2010 ซึ่งมีประเทศอยู่ประเทศหนึ่งที่ชื่อว่า บริททาเนีย ได้มีเทคโนโลยีในการสร้างกองทัพหุ่นยนต์ล้ำสมัยที่ชื่อว่า ไนท์แมร์เฟรมขึ้น และด้วยความแข็งแกร่งของเจ้าหุ่นนี้เองที่ทำให้หลาย ๆ ประเทศยอมตกเป็นเมืองขึ้นของ บริททาเนีย แต่ทว่าประเทศญี่ปุ่นนั้นกลับเลือกที่จะต่อต้านและแพ้สงครามจนทำให้ บริทาเนียใช้อำนาจของตัวเอง ลบชื่อญี่ปุ่นออกจากแผนที่โลก และตั้งชื่อใหม่ให้กับญี่ปุ่นเป็น Area 11 และ ทำให้คนญี่ปุ่นถูกเรียกว่า อีเลฟเว่น
แต่ความเข้มข้นที่ทำให้เรื่องนี้กลายมาเป็นอนิเมะแนวการเมืองสุดเดือดได้นั่นก็คือ ราชวงศ์บริททาเนียนั้นได้ฆ่าแม่ของพระเอกอย่าง ลูลูซ มันจึงทำให้ตัวของเขาต้องหลบหนีออกมาพร้อมน้องสาวเพื่อมาอาศัอยู่กับชาว Area 11 แต่ทั้งหมดนี้มันเป็นเพียงแค่การเตรียมการเพื่อที่จะแก้แค้นเท่านั้น จนกระทั่งวันหนึ่งตัวของ ลูลูซ ก็ได้พบกับสาวคนหนึ่งผู้ที่มามอบพลังในการสั่งการจิตใจใครก็ได้ให้กับเขา และนั่นเองมันจึงทำให้เขาใช้พลังนี้ในการไล่ถล่มบริททาเนีย โดยเขาได้สร้างตัวตนอีกคนหนึ่งขึ้นมานั่นก็คือ ซีโร่
ซึ่งในเรื่องนี้เราจะได้เห็นแนวคิดหลาย ๆ ที่เกี่ยวกับการเมือง โดยฝั่งของลูลูซเองก็พยายามเดินเกมอย่างชาญฉลาดพร้อมทั้งวางแผนการรบต่าง ๆ เพื่อดึงเอาราชวงศ์ที่เป็นจุดสูงสุดของอำนาจทางการเมืองลงมาเพื่อบีบขยี้ให้เละ มันจึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมเรื่องนี้ถึงกลายเป็นอนิเมะแนวการเมืองอีกเรื่องที่น่าดูไม่ใช่ย่อยเลยละ
อนิเมะแนวการเมืองอีกเรื่องหนึ่งที่เราอยากแนะนำให้คุณดูนั่นก็คือเรื่อง Tensei shitara Slime Datta Ken หรือชือภาษาไทยที่หลาย ๆ คนคุ้นหูนั่นก็คือ เกิดใหม่ทั้งที่กลายเป็ยสไลม์เสียแล้ว โดยเรื่องราวนั้นจะเล่าถึง มิคามิ มนุษย์เงินเดือนแสนธรรมดาที่ตัวเองยังซิงอยู่ แต่ทว่าวันหนึ่งเขาพบว่าแฟนรุ่นน้องของเขากำลังจะถูกคนร้ายแทง มันจึงทำให้เขาเอาตัวเข้าไปขวางเอาไว้และเสียชีวิต แต่แล้วจู่ ๆ แทนที่ตัวเขาควรจะตาย เขากลับเกิดใหม่ยังอีกโลกที่เต็มไปด้วยเวทมนต์ และเหล่าสัตว์ประหลาดสุดแสนแฟนตาซี
ซึ่งจุดเด่นของ อนิเมะแนวการเมือง เรื่องนี้นั่นก็คือตัวเอกของเรื่องอย่าง ริมุรุ นั้นถือได้ว่าเป็นตัวละครที่ค่อนข้างมีพลังเกินธรรมดาไปมากทั้ง ๆ ที่เป็นเพียงสไลม์ธรรมดาเท่านั้น จึงทำให้ตัวของเขาสามารถที่จะรวบรวมบรรดาเหล่าพรรคพวกคนอื่น ๆ เข้ามาได้มาเรื่อย ๆ และเพราะการรวบรวมนี้เองจึงส่งผลให้เขาต้องขยายพื้นที่อยู่อาศัยของตัวเองมากขึ้นเรื่อย ๆ จนนำพาไปสู่การสร้างอณาจักรของตัวเองขึ้นมา
และแน่นอนว่าเมื่อสร้างอณาจักรขึ้นมานี้เองที่ทำให้มันต้องมีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งความสนุกของอนิเมะแนวการเมืองของเรื่องนี้แหละก็จะทำให้เราได้เห็นว่าริมุรุนั้นสร้างอณาจักรของตัวเองได้อย่างไร และ มีวิธีบริหารคนในเมือง รวมถึงคัดเลือกสินค้าเด่น ๆ ของเมืองเพื่อนำไปค้าขายแลกเปลี่ยนกับเมืองอื่น ๆ อย่างไรบ้าง
อนิเมะแนวการเมืองอีกเรื่องหนึ่งที่เราอยากแนะนำให้คุณดูนั่นก็คือเรื่อง Overlord จอมมารพิชิตโลก โดยเรื่องราวนั้นจะเล่าถึงโลกในอนาคตที่มีการเล่มเกมในโลกเสมือนด้วยระบบ VR โดยตัวของ โมมอนกะ ที่เป็นหัวหน้ากิลของมหาสุสานนาซาริก นั้นเป็นอีกคนหนึ่งที่ชอบเล่นเกมนี้เป็นอย่างมาก แต่แพราะความนิยมที่เสื่อมถอยของเกมทำให้สุดท้ายแล้ว เกมที่เขาเล่นอยู่ก็ต้องปิดเซิฟลง มันเลยทำให้ตัวของ โมนอกะ ตัดสินใจล็อคอินเข้ามาอยู่ในเกมวันสุดท้าย แต่ทว่าเมื่อถึงเวลาเซิฟเวอร์ปิด โมมอนกะกลับไม่ได้ถูกตัดออกจากเกมเหมือนที่เขาคิดไว้ หนำซ้ำบรรดาเหล่า NPC ต่าง ๆ ในเกมก็เริ่มเคลื่อนไหว และ มีความนึกคิดเป็นของตัวเอง และนั่นเองก็ทำให้ตัวของ โมมอนกะ ที่ตอนนี้อยู่ในบทบาทของ ไอนซ์ อูล โกว์น ต้องหาทางกลับบ้านให้ได้ โดยเริ่มออกสำรวจดินแดนต่าง ๆ
และสิ่งที่ทำให้เรื่องนี้กลายเป็นอนิเมะแนวการเมืองที่ค่อนข้างน่าสนใจนั่นก็เพราะการออกสำรวจดินแดนต่าง ๆ ของพระเอกนี่แหละ ซึ่งเอาจริง ๆ แล้วตัวของพระเอกนั้นมีดีแค่พลังเวทย์ที่ค่อนข้างแข็งแกร่งกว่าคนอื่น แต่ทางด้านแผนการต่าง ๆ นั้นเขาแทบจะไม่ได้วางแผนอะไรเลยด้วยซ้ำ แต่มันกลับโชคดีตรงที่ว่าการวางแผนแต่ละขั้นนั้นเขาขอเพียงแค่พูดลอย ๆ บรรดาเหล่า NPC ที่เป็นลูกสมุนของเขาก็จะไปตีความต่อเอง และ การตีความแต่ละครั้งมันก็ให้ผลลัพธ์ที่สุดเวอร์วังออกมาจนเหลือเชื่อเลยละ
ซึ่งมันเวอร์ถึงขนาดที่ว่าจู่ ๆ พระเอกก็สามารถยึดราชอณาจักรอื่นมาเป็นของตัวเองได้แบบชิว ๆ เลย
อนิเมะแนวการเมืองอีกเรื่องหนึ่งที่เราอยากแนะนำให้คุณดูนั่นก็คือเรื่อง Dr.stone โดยเรื่องนี้จะเล่าถึงเรื่องราวของ อิชิกามิ เซ็นคู เด็กหนุ่มที่มีความคลั่งไคล้ในวิทยาศาสตร์เป็นอย่างมาก โดยเขามักจะเอาเรื่องที่ทดลองไปให้เพื่อนสมองกล้ามอย่าง ไทจู ดูอยู่เสมอ จนกระทั่งวันหนึ่งจู่ ๆ ก็เกิดลำแสงประหลาดทำให้มนุษย์โลกทุกคนกลายเป็นหิน แต่หลังจากหลายปีต่อมาตัวของ เซ็นคู ก็ได้พื้นกลับมาอีกครั้ง และนั่นเองก็ทำให้ตัวขอเขาเริ่มสร้างวิทยาการของมนุษยใหม่ขึ้นอีกครั้งด้วยความรู้ทางวิทยาศาสตร์ของเขา
ซึ่งจุดเด่นที่ทำให้เรื่องนี้มีความเกี่ยวข้องกับ อนิเมะแนวการเมือง นั่นก็เพราะว่าหลังจากที่พระเอกของเราเริ่มปลุกคนที่กลายเป็นหินได้มากขึ้น มันก็ทำให้มนุษย์หลย ๆ คนคิดที่จะตั้งอณาจักรของตัวเองขึ้น และ รวบรวมเอาคนที่มีความคิดเห็นเหมือนกันมาไว้ด้วยกัน จนทำให้อณาจักรแต่ละฝั่งนั้นเริ่มมีความไม่ลงรอยกัน และ เกิดสงคราม
ระหว่างอณาจักรขึ้น ซึ่งมันก็เหมือนกับสงครามจริงที่เกิดขึ้นในโลกปัจจุบันของเราเลย
และก็มาถึงอนิเมะแนวการเมืองเรื่องสุดท้ายที่เราจะขอแนะนำให้ทุกคนได้ดูกันแล้ว โดยเรื่องสุดท้ายที่เราขอแนะนำนั่นก็คือเรื่อง Attack on Titan โดยเรื่องราวนั้นจะเล่าถึงปี ค.ศ. 845 ที่มนุษย์ชาตินั้นถูกสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์คุกคาม โดยพวกเขาได้เรียกสิ่งมีชีวิตนั้นว่า ไททัน ซึ่งการคุกคามนี้นี่เองที่ทำให้มนุษย์กลุ่มสุดท้ายหนีและถอยร่นพร้อมกับสร้างกำแพงขนาดสูงหลายเมตรเพื่อป้องกันเหล่าไททัน แต่แล้วกำแพงที่มนุษย์คิดว่าปลอดภัยนั้นวันหนึ่งก็ถูกโจมตีจากไททันมีที่มีขนาดสูงถึง 60 และ เมื่อกำแพงถูกพังทลายลง บรรดาเหล่าไททันจากนอกกำแพงก็แห่กันเข้ามาฆ่าผู้คน และ หนึ่งในคนที่โดนฆ่าก็คือ แม่ของ เอเลน เยเกอร์ จนทำให้ตัวของเอเลน นั้นเกิดความแค้น และ หวังจะกวาดล้างไททันให้หมดไปนั่นเอง
ซึ่งเรื่อง Attack on Titan นั้นถือได้ว่าอินเมะแนวการเมืองที่ค่อนข้างชัดเจนมากกว่าเรื่องอื่นๆ อยู่พอสมควร เพราะในรื่องนี้มันจะมีการเล่าเรื่องทั้งระบบบริหารภายในเมือง รวมถึงการทำสงครามระหว่างอณาจักร และรวมไปถึงการก่อกบฏกันเองระหว่างมนุษย์อีกด้วย
และนี่ก็คือเรื่องราวของ อินเมะแนวการเมือง ชั้นดีที่เราอยากให้คุณลองดู ซึ่งเชื่อเถอะว่าแม้จะมีเนื้อหาเกี่ยวกับการเมืองซึ่งเป็นเรื่องที่ค่อนข้างซีเรียสก็ตามแต่ความสนุกแต่ละเรื่องนั้นจะทำให้คุณไม่มีทางผิดหวังแน่นอน