ปัจจุบันนี้เราต้องยอมรับกันด้วยความสัจจริงเลยว่าเพราะเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เข้ามานี้เองมันได้ส่งผลให้หลาย ๆ สิ่งนั้นสามารถพัฒนาไปข้างหน้าได้อย่างก้าวกระโดด และ ไอ้เทคโนโลยีเหล่านั้นนี่เองที่มันไม่ได้พัฒนาให้กับมนุษย์ในเพียงแค่แง่ของการใช้ชีวิตเท่านั้น แต่เทคโนโลยีเหล่านั้นยังเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้วงการอนิเมชั่นนั้นพัฒนาไปข้างหน้าค่อนข้างมากอีกด้วย โดยเราจะเห็นได้จากการที่วงการอนิเมะเรื่องมีการ์ตูนที่มีส่วนผสมของการใช้ 3D มากขึ้น แต่ใช่ว่าผลลัพธ์เหล่านั้นจะถูกสะท้อนออกมาแค่นั้น เพราะว่ามันยังถูกสะท้อนผ่านการทำเอฟเฟครวมถึงฉากอันงดงามในอนิเมะเรื่องต่าง ๆ อีกด้วย
และ หนึ่งในอนิเมะที่มีฉากอันงดงามรวมถึงเนื้อเรื่องที่ค่อนข้างประณีตที่เราอยากจะมาพูดถึงในครั้งนี้ มันก็เป็นคิวของเรื่อง Weathering with You ฤดูฝัน ฉันมีเธอ
Weathering with You ฤดูฝัน ฉันมีเธอ จะเล่าถึงเรื่องราวของเด็กหนุ่มมัธยมปลายที่มีชื่อว่า โมริชิมะ โฮดากะ
ซึ่งเขาได้ตัดสินใจหนีออกจากบ้านซึ่งอยู่ในเมืองเล็ก ๆ ในชนบทแห่งหนึ่งมาใช้ชีวิตเพียงลำพังในโตเกียว ซึ่งแม้ว่าเขาจะใช้ชีวิตที่ดูเหมือนเรียบง่าย แต่จริง ๆ แล้วตัวของเขานั้นหาเลี้ยงชีพด้วยการเป็นเบ๊ให้กับนิตยสารรวมสิ่งลี้ลับ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาจึงได้เริ่มสังเกตว่าที่เมืองซึ่งเขาอาศัยอยู่นั้นมีสิ่งผิดปกติบางอย่าง ซึ่งมันน่าอัศจรรย์เสียจนคนในเมืองต่างก็คิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติ และการตามสืบเรื่องนี้นี่เองที่มันได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นให้ตัวของเขาได้พบกับ อามาโนะ ฮินะ สาวน้อยปริศนาที่มีความสามารถในการควบคุมสภาพอากาศได้ และ การได้รู้จักเธอในครั้งนี้นี่เองที่มันได้นำพามาถึงการเปลี่ยนของโลกใบนี้ไปตลอดกาล
ซึ่งถ้าคุณยังไม่เคยดูเรื่องนี้แหละเคยดูอนิเมะอย่างเรื่อง Your Name มาแล้ว คุณก็คงจะเดาไม่ยากใช่ไหมว่า Weathering with You ฤดูฝัน ฉันมีเธอ นั้นเป็นฝีมือของใคร ใช่แล้วละอนิเมะเรื่องนี้นั้นเป็นผลงานลำดับที่ 6 ของผู้กำกับด้านอนิเมะที่โด่งดังที่สุดในยุคนี้อย่าง ชินไค มาโกโตะ ผู้ที่เคยสร้างสรรค์ผลงานแสนโรแมนติกที่ทำเอาหลาย ๆ คนตราตรึงใจกันมาแล้วในเรื่อง Your Name ที่ออกฉายไปในปี 2016
ซึ่งถ้าหากคุณมองกันดี ๆ แล้วคุณจะพบว่าผลงานของ ชินไค มาโกโตะ มันมักจะทำงานกับความสัมพันธ์ที่ห่างไกลกัน โดยมีเส้นของเวลามากันขวางเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง 5 Centimeters Per Second: A Chain of Short Stories About Their Distance ที่ระยะเวลาห่างเพียงแค่วินาทีก็แสดงให้เห็นถึงความทรงจำแสนไกล หรืออีกเรื่องหนึ่งอย่าง Voices of a Distant Star ซึ่งเป็นหนังสั้นที่เล่าถึงระยะเวลาความห่างของอวกาศ และ ความเร็วของเวลามาเกี่ยวข้อง ซึ่งสำหรับเรื่อง Weathering with You ฤดูฝัน ฉันมีเธอ นี้เองตัวของ ชินไค ก็ยังไม่ทิ้งคอนเซ็ปต์ระยะห่างของความสัมพันธ์ และเขายังเพิ่มเงื่อนไขให้ตัวละครมากขึ้นไปอีกด้วย
โดยสิ่งแรกที่เราอยากจะชมเรื่องนี้นั่นก็คือบรรดาเหล่าคาแรคเตอร์ ซึ่งบอกเลยว่าครั้งนี้ตัวของ ชินไค ได้ทีมระดับมือาอาชีพตบเท้าเข้ามาช่วยทำงานกันมากขึ้น มันจึงทำให้ลายเส้นของชินไคได้รับการพัฒนามากขึ้น เพราะจากที่ตัวเขาเคยวาดเองจนทำให้เป็นสไตล์เฉพาะตัวที่มันจะดูแข็ง ๆ นิ่ง ๆ ซึ่งแม้ว่ามันจะสวยและเหมาะกับเนื้อแบบจมดิ่งลึกลงไปในห้วงอารมณ์
แต่ทว่าลายเส้นแบบนี้มันกลับทำให้เรารู้สึกว่ามันขาดรสชาติในการเล่ารูปแบบอื่น ๆ ไป ซึ่งพองานของเขาเริ่มมีทีมงานอื่น ๆ เข้ามาช่วยทำ เราก็เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า ผลงานของ ชินไค นั้นเริ่มให้อารมณ์ และ ความรู้สึกที่ค่อนข้างหลากหลายมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น Your Name ที่เราเคยเห็นผ่าน ๆ ตากันมา แถมลายเส้นเหล่านี้นี่แหละที่มันทำ Weathering with You ฤดูฝัน ฉันมีเธอ นั้นมีความครบรสไม่ว่าจะสนุก เศร้า รวมถึงความเป็นแฟนตาซี
อีกสิ่งหนึ่งที่เราคิดว่าอนิเมะของชินไคสามารถทำมาได้อย่างโดดเด่นโดยตลอดตั้งเรื่อง Your Name แล้วนั่นก็คือการใช้งานดนตรีประกอบ ซึ่งในเรื่อง Weathering with You ฤดูฝัน ฉันมีเธอ เองก็ยังมีการจับคู่กับวง Radwimps ที่พวกเขาเคยสร้างเพลงสุดแสนประทับให้กับเรื่องก่อนหน้านี้มาแล้ว ซึ่งในครั้งนี้ Radwimps ก็ขับร้องเพลงเพราะ ๆ ให้กับเรื่องอย่างเพลง Is There Still Anything That Love Can Do? ซึ่งเป็นเพลงที่จะเล่าเรื่องราวผ่านทางมุมมองของพระเอกที่รู้สึกว่าตัวเองนั้นไร้ค่าในโลกใบนี้ ส่วนอีกเพลงหนึ่งนั่นก็คือ We’ll Be Alright ซึ่งเป็นเพลงที่เล่าถึงความรู้สึกที่อยากจะบอกว่าต่อให้เกิดอะไรขึ้น ถ้ามีเธอและฉันอยู่เคียงข้างกัน ทุก ๆ อย่างก็จะไม่เป็นไร ซึ่งไอ้เพลง We’ll Be Alright นี้ยังถูกใช้เป็นเพลงหลักประกอบเรื่อง มันเลยยิ่งทำให้เรื่องนี้ดูทรงพลังมากขึ้นไปอีกพอสมควรเลยทีเดียว
อีกหนึ่งอย่างที่เรารู้สึกว่าถ้าปล่อยผ่านไม่ชมก็คงจะไม่ได้นั่นก็คือ ความมีมิติของภาพ ซึ่งเทคนิคการสร้างภาพในเรื่อง Weathering with You ฤดูฝัน ฉันมีเธอ ถือว่าทำออกมาได้ดีและมันมีพลังมากกว่าเรื่อง Your Name ซึ่งเป็นผลงานก่อนหน้าเรื่องนี้อยู่ค่อนข้างมากเลยทีเดียว เพราะว่ามันมีฉากสวยแปลกตา รวมถึงความตื้นลึกที่น่าสนใจ แถมการ
เคลื่อนกล้องของเรื่องนี้ก็ยังยกระดับมากขึ้นจนทำให้เราถึงขั้นว้าวออกมาได้ แถมคีย์หลักของอย่าง เม็ดฝน บอกเลยว่างามหยด และงานละเอียดทุกเม็ดเลยจริง ๆ ซึ่งการทำพวกเม็ดฝน หรือ เงาสะท้อนในน้ำแบบนี้บอกเลยว่ามันเป็นงานที่ค่อนข้างต้องอาศัยความประณีตอยู่พอสมควร และยิ่งเรื่องนี้มันใช้สภาพอากาศของเรื่องเป็นคีย์หลักในการดำเนินเรื่องราว มันจึงยิ่งทำให้บรรยากาศต่าง ๆ โดยรวมของเรื่องนั้นสวยงามทั้งการลงสี และ แสงมากจริง ๆ
แต่เมื่อมีสิ่งดี มันก็ต้องมีสิ่งที่ด้อยเป็นของคู่กัน ซึ่งสิ่งที่ด้อยนั่นก็คือ ความกลมกล่อมของเนื้อหา ซึ่งแม้ว่าเนื้อหาของ Weathering with You ฤดูฝัน ฉันมีเธอ จะถูกความงดงามของบรรยากาศต่าง ๆ เคลือบเอาไว้ แต่ทว่าหากคุณค่อย ๆ ปอกเปลือกสิ่งเหล่านั้นออกทีละนิด คุณจะพบว่าการเล่าเรื่องนั้นมันวนเวียนอยู่แค่กับ ชีวิตพระเอก ชีวิตนางเอก น้องชายนางเอก และ ชีวิตของเจ้าของบริษัทที่พระเอกทำงานอยู่เพียงเท่านั้น ซึ่งถามว่ามันเยอะไปไหม เราก็บอกว่ามันเยอะไป แถมการเล่าเรื่องราวเหล่านี้ออกมากมันก็ยังไม่สามารถที่จะทำออกมาได้กลมกล่อมพอ
ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ตัวละครเหล่านี้ยังไม่สามารถทำให้เรื่อง Weathering with You ฤดูฝัน ฉันมีเธอ กลมกล่อมได้พอนั่นก็เพราะว่า ตัวหนังนั้นยังมีประเด็นให้เล่นอยู่ค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นการพลิกตลบหลังเพื่อหักมุม หรือ จุดเหนือธรรมชาติ ต่าง ๆ ที่สามารถสร้างความแฟนตาซีให้กับเรื่องได้แบบค่อนข้างว้าว แต่ทว่าเมื่อทั้งหมดนี้มันกลับมารวมกับปมดารม่าต่าง ๆ กลับกลายเป็นว่าความมีพลังของตัวมันเองดันเบียดกัน จนทำให้สุดท้ายแล่วคุณค่าต่าง ๆ เหล่านั้นก็ไม่สามารถที่จะแสดงพลังออกมาได้เต็มที่ จนกลายเป็นสิ่งที่ทำให้เราต้องเลือกระหว่างจะดราม่าจัด หรือ แฟนตาซี จัดกันแน่
แต่ถ้าถามว่าหนังเรื่อง Weathering with You ฤดูฝัน ฉันมีเธอ นั้นสมควรดูไหม เราขอบอกตรงนี้เลยว่า มันเป็นอะไรที่ค่อนข้างต้องดูเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เพราะแค่ฉากรวมถึงบรรยากาศต่าง ๆ ในเรื่องก็สามารถพาคุณให้อิ่มเอมไปกับเรื่องนี้แบบไม่รู้ลืมได้แล้วล่ะ
เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> เว็บบาคาร่า