นับได้ว่าการ์ตูนแนวเลิฟคอมเมดี้ถือว่ายังเป็นอะไรที่ขายได้เรื่อย ๆ สำหรับคอมังงะอนิเมะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรักในรั้วโรงเรียนพร้อมกับสาว ๆ ที่มาเป็นตัวเลือกอีกเยอะแยะมากมาย หรือที่เรารู้จักกันดีว่า ฮาเร็มนั่นเอง โดยส่วนใหญ่การ์ตูนแนวนี้มักมีสงครามกองอวยให้เห็นอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะเรื่องที่ยังไม่ได้ปักธงไหนว่าใครจะเข้าวิน เมื่อมีผู้แพ้และผู้ชนะแบบนี้แน่นอนว่าย่อมต้องมีคนปวดใจไม่น้อยเลยทีเดียว ด้วยศีลธรรมอันดีที่มีมาโดยตลอดทำให้พระเอกจำเป็นต้องเลือกนางเอกเพียงคนเดียวเท่านั้น หรือไม่ก็ไม่เลือกใครเลย ทว่า Kanojo mo Kanojo หรือ จะคนไหนก็แฟนสาว นั้นแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าคุณจะอวยสาวคนไหน พวกเธอได้เข้าวินอย่างแน่นอน !
Kanojo mo Kanojo เป็นผลงานมังงะของอาจารย์ HIROYUKI ตีพิมพ์ในนิตยสาร Shuukan Shounen Magazine ของสำนักพิมพ์ Kodansha ปัจจุบันออกมาแล้ว 8 เล่มด้วยกันยังไม่จบ และดูทรงว่าเรื่องราวยังอีกยาวไกล โดยฉบับภาษาไทยได้แปลและจัดจำหน่ายโดยสำนักพิมพ์รักพิมพ์ในชื่อว่า จะคนไหนก็แฟนสาว ก่อนจะถูกดัดแปลงเป็นอนิเมะโดยสตูดิโอ Tezuka Productions ที่เหมือนจะหันมาจับแนวนี้มากขึ้น มีผลงานมาแล้วอย่าง 5-toubun no Hanayome และ Dagashi Kashi ภายใต้การกำกับของ Kuwahara Satoshi มีทั้งหมด 12 ตอน ฉายตอนแรกเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2021 ที่ผ่านมา
ตัวละคร
Mukai Naoya พากย์เสียงโดย คุณ Enoki Junya
Saki Saki พากย์เสียงโดย คุณ Sakura Ayane
Minase Nagisa พากย์เสียงโดย คุณ Waki Azumi
Hoshizaki Rika พากย์เสียงโดย คุณ Taketatsu Ayana
Kiryuu Shino พากย์เสียงโดย คุณ Takahashi Rie
เรื่องย่อ
หลังจากที่พยายามสารภาพรักมาตั้งแต่ชั้นประถม ในที่สุด Mukai Naoya ก็ได้คบกับ Saki Saki อย่างสมใจอยาก ทว่ายังไม่ทันที่ความสัมพันธ์จะก้าวหน้า จู่ ๆ เขาก็ถูกเด็กสาวหน้าตาน่ารักคนหนึ่งที่ชื่อ Minase Nagisa มาสารภาพรักและขอคบกันซะอย่างนั้น ทั้งที่มีแฟนอยู่แล้ว และกำลังจะปฏิเสธแล้ว แต่เมื่ออีกฝ่ายเล่าถึงความพยายามที่จะอยากเป็นแฟนของเขานั้นเล่นทำเอาหวั่นไหวจนไม่อยากเสียเธอไป ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย รักษาผิวพรรณ ทำงานพิเศษ รวมไปถึงเสน่ห์ปลายจวักเป็นเลิศ จนสุดท้าย Naoya ตัดสินใจที่จะจับมือกับ Nagisa เพื่อไปบอก Saki ว่าขอคบซ้อนเพราะอยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน !
แน่นอนว่าคนสติดีอย่าง Saki ไม่มีทางยอมอยู่แล้ว ทว่าทันทีที่พบเจอกับ Nagisa ความน่ารักกลับพุ่งเข้ามาอย่างบาดตาบาดใจเสียจนอยากคบกับ Nagisa เสียเอง แต่ก็ยังยืนกรานว่ายังอยากคบซ้อนทั้งสองคน ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เมื่อลูกตื๊อเกินพิกัดบวกกับสัญญาจากปาก Naoya ว่าจะไม่ทำให้พวกเธอเสียใจที่ตัดสินใจคบซ้อนและมีความสุขให้ได้นั้นทำให้ Saki ใจอ่อนและยอมตกลง แต่ยังไม่จบแค่นั้น เพื่อความสัมพันธ์อันดีของพวกเขาทั้งสามคน Naoya จึงคิดแผนสร้างความสนิทสนมระหว่างพวกเขาด้วยการให้พวกเธอย้ายมาอยู่ที่บ้านของเขาด้วยกันซะเลย !
การใช้ชีวิตอยู่ของทั้งสามคนเริ่มต้นขึ้น แต่ Saki ไม่อยากให้ใครรู้ความสัมพันธ์คบซ้อนของพวกเขาจึงกำชับว่าต้องปิดเป็นความลับ ไม่ให้ใครรู้ แม้ทุกคนจะตกลงรักษาสัญญากันอย่างดีแต่ยังไม่วาย Naoya ชอบปากสว่างไม่รู้ตัว แถมความรักที่เป็นความลับเริ่มจะไม่ค่อยลับเอาเสียแล้ว และพวกเขาจะรับมือกับความยุ่งเหยิงที่จะเกิดขึ้นตามมาอย่างไร ต้องลองติดตามกัน
คุ้มค่าแก่การดูหรือไม่ ?
จะดูเรื่องนี้ ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่า ควรโยนทิ้งสามัญสำนึกและถอดสมองออกไปเสีย เพราะเรื่องนี้ไม่มีแก่นสารใด ๆ เลยแม้แต่นิดเดียว คนดูสายฮาเร็มไม่ดูถือว่าพลาดอย่างแรง คุณจะไม่ต้องปวดใจที่เมนตัวเองไม่เข้าวินหรือไม่สมหวังกับพระเอกเพราะพี่แกเก็บไว้ครบทุกคน ไม่มีสงครามกองอวยอะไรทั้งนั้น ทุกคนรักใคร่สามัคคีกันอย่างกลมเกลียว แม้กระทั่งเนื้อหายังไม่มีความดราม่าใด ๆ เข้ามาเจือปน ซ้ำยังมีแต่ความไร้สาระ อัดแน่นไปด้วยความกาวที่จะทำให้ปอดโยกได้ตลอดเวลาที่รับชม หากจะหาอนิเมะคลายเครียดสักเรื่องแล้วล่ะก็ ขอแนะนำเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ในเรื่องแลดูไม่มีใครปกติสักคน มีความสุดโต่งในหลาย ๆ ด้านจนหัวเราะซ้ำแล้วซ้ำเล่า แถมงานภาพยังสวยงามเหมือนถอดออกมาจากต้นฉบับทำให้เรื่องนี้ดูลงตัวในทุกด้าน พร้อมกับเพลงเปิดที่ฟังแล้วติดหูจนต้องไปหาฟังอีกรอบ ขอบอกเลยว่าเรื่องนี้งานดีจริง ๆ
สรุป
เพราะเป็นอนิเมะแก๊กจึงทำให้คะแนนด้านเนื้อหาของเรื่องไม่ค่อยมีเยอะมากนัก จึงได้คะแนนระดับกลาง ๆ ซึ่งสมกับตัวเรื่อง โดยเว็บไซต์ Myanimelist ให้คะแนนเรื่องนี้อยู่ที่ 6.69 และ IMDb ให้ 6.6 คะแนน ซึ่งเป็นคะแนนที่ไม่ได้รู้สึกเสียดายหรือพลิกโผเท่าไหร่ ใครที่เน้นการเสพเนื้อเรื่องแล้วอาจจะไม่ใช่แนว เพราะแม้จะเป็นเรื่องราวชีวิตประจำวันของการคบซ้อนแล้วแต่ก็มีจังหวะตบมุกกับโบ๊ะบ๊ะแทบจะตลอดทั้งตอนทำให้บางซีนก็ยังไม่ไปไหนไกล โดยเฉพาะ Saki ที่ตอนแรกอาจเห็นใจเธอในฐานะแฟนคนแรก แต่ไป ๆ มา ๆ กลายเป็นตัวตบมุกของเรื่องไปซะอย่างนั้น ใครที่ต้องการรับชมสามารถติดตามได้ที่ Youtube ช่อง Muse Thailand และ IQIYI กันได้เลย