ตอนจบที่แท้จริงของโดราเอมอนที่ไม่ได้มีเพียงแค่แบบเดียว

วงการอนิเมะนั้นถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งวงการที่มีการพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นทั้งทางด้านเนื้อหา และ รวมไปถึงงานด้านภาพต่าง ๆ ซึ่งการพัฒนาด้านต่าง ๆ เหล่านี้มากขึ้นก็ยิ่งทำให้ฐานกลุ่มคนดูที่ชื่นชอบอนิเมะนั้นขยายมากขึ้นตามไปด้วย แต่ถึงแม้ว่าวงการนี้จะมีการพัฒนาที่ค่อนข้างเร็ว และ ก้าวกระโดดขนาดไหนก็ตาม แต่ทว่ากลับมีอนิเมะอยู่เรื่องหนึ่งที่เรื่องนี้มันกลับสร้างความนิยมให้กับคนได้ทุกเพศ ทุกวัย และยังคงเป็นอนิเมะที่ฮิตตลอดกาลที่ไม่ว่าคนกี่รุ่น ต่อกี่รุ่นก็ต้องรู้จัก 

โดยอนิเมะเรื่องนั้นก็คือ อนิเมะของเจ้าแมวแห่วโลกอนาคตสีตัวสีฟ้าอย่างเจ้า โดราเอมอน นั่นเอง 

และเพราะความยาวนานของเจ้าแมวไร้หูตัวนี้นี่แหละที่ทำให้หลาย ๆ คนรู้สึกว่า สุดท้ายแล้วอนิเมะเรื่องนี้มันจะไปจบลงที่ตรงไหน และ มันจะจบในรูปแบบใดกันแน่ เพราะว่าตัวอาจารย์ผู้ที่วาดเรื่องราวของเจ้าโดราเอมอนก็เสียชีวิตไปเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว แต่ทว่าหลาย ๆ อาจจะยังไม่เคยรู้ว่าแท้จริงแล้วอนิเมะอย่างเรื่องโดราเอมอนนั้นเคยมีตอนจบอย่างเป็นทางการโดยที่ไม่ใช่เหล่าบรรดาเหล่าแฟน ๆ วาดกันเองมาแล้ว แถมเชื่อหรือไม่ว่าจริง ๆ แล้ว ตอนจบที่แท้จริงของโดราเอมอนที่ไม่ได้มีเพียงแค่แบบเดียว เหมือนที่เราเคยเห็นกันอีกด้วย

แต่ก่อนที่คุณจะมาเริ่มพิสูจน์เรื่องราวเหล่านี้คุณสามารถที่จะย้อนกลับไปดูตอนจบของโดราเอมอนใน 2 ครั้งแรกเพื่อทำความเข้าใจ และ เข้าใจถึงจุดต้นกำเนิดของตอนจบทั้งหมดกันก่อนได้ ส่วนสำหรับใครที่กำลังรออ่านเนื้อหาตอนจบที่เหลือของโดราเอมอนอยู่แล้วละก็ เอาเป็นว่าตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้วละที่เราจะพาทุก ๆ คนไปพบกับเรื่องราวของตอนจบโดราเอมอนที่เหลือกันต่อ ซึ่งมันจะจบลงในรูปแบบไหนบ้าง เอาเป็นว่าเราไปเริ่มกันเลย

ตอนจบโดราเอมอนอย่างเป็นทางการแบบที่ 3

ซึ่งตอนจบครั้งนี้จะเป็นการตีพิมพ์ครบ 3 ปี ในปี 1973 ซึ่งมีคนข้างน้อยเอามาก ๆ ที่เคยเห็นตอนจบแบบนี้ โดยก่อนที่เนื้อเรื่องจะเข้าสู่ตอนจบครั้งที่ 3 นั้น ตัวเนื้อเรื่องที่ผ่านมาทั้งครั้งที่ 1 และ 2 นั้นจะถูกรวบรวมเอาไว้ในหนังสือของสำนักพิมพ์ Tentomushi Comics และสาเหตุที่มันทำให้ตอนจบครั้งนี้หาอ่านยากนั่นก็เพราะว่า สำนักพิมพ์นั้นไม่สามารถหาตอนจบรูปแบบนี้มาตีพิมพ์ได้นั่นเอง จึงทำให้แทบไม่มีใครได้รู้เลยว่าตอนจบแบบที่ 3 นั้นจบลงอย่างไร โดยถ้าคุณจะรู้ตอนจบของเวอร์ชั่นนี้ได้ คุณก็ทำได้เพียงแค่ถามเรื่องราวเหล่านั้นจะเด็ก ๆ ในยุคปี 1973 ที่เคยได้อ่านมันเท่านั้น

ตอนจบโดราเอมอนอย่างเป็นทางการแบบที่ 4

หลังจากที่เหล่าเด็ก ๆ ในยุคนั้นได้อ่านตอนจบแบบที่ 3 เรียบร้อยแล้วในปีต่อมาในก็คือปี 1974 ตอนจบแบบที่ 4 ก็ถูกเขียนออกมา ซึ่งในสมัยนั้นอาจารย์ฟูจิโกะเองก็ได้มีการเขียนเรื่อง โดราเอมอน แยกไปอยู่ในนิตยสารรายสัปดาห์เป็นที่เรียบร้อย และเนื้อเรื่องในนิตยสารรายสัปดาห์กับเนื้อหาในฉบับที่ทำเพื่อให้เด็กประถมได้ก็มีเนื้อหาที่แตกต่างกันค่อนข้างมาก แถมช่วงเวลานั้นตัวเนื้อหาของโดราเอมอนก็ได้ได้ถูกทำเป็นอนิเมชั้นฉายทางทีวีแล้วด้วย จึงทำให้ในตอนนั้นเมื่อหนังสือการ์ตูนฉบับของเด็กประถมจบลง มันเลยทำให้ตัวเนื้อหาของอนิเมะในยุคนั้นต้องจบลงตามไปด้วย โดยเนื้อหาการจบในตอนนั้นก็บอกเลยว่ามันสุดแสนธรรมดา นั่นก็คือ ตัวของโดราเอมอนได้เดินทางกลับไปยังโลกอนาคต และ ได้มีการแอบมาดูโนบิตะบ้างเป็นบางครั้ง 

ตอนจบโดราเอมอนอย่างเป็นทางการแบบที่ 5

ตอนจบรูปแบบนี้ก็น่าจะเป็นตอนจบในรูปแบบที่ใครหลาย ๆ คนคุ้นเคย เพราะอย่างที่เราเกริ่นไปว่าตัวเนื้อหาของอนิเมะนั้นต้องจบลงเช่นกัน มันจึงทำให้ตัวของอาจารย์ต้องเขียนตอนจบในเวอร์ชั่นอนิเมะ โดยเนื้อหานั่นก็คือ โดราเอมอนนั้นจำเป็นที่จะต้องเดินทางเพื่อกลับโลกอนาคต ซึ่งแม้ว่าโนบิตะจะเสียใจเอามาก ๆ ก็ตาม แต่เขาก็เคารพการตัดสินใจของโดราเอมอน และ ทำการจัดงานเลี้ยงอำลากับคุณพ่อ คุณแม่ ของโนบิตะ และก่อนที่ทั้งคู่จะจากกันตัวของ โนบิตะก็ไปท้าสู้กับไจแอนท์จนในที่สุดฝ่ายไจแอนท์ก็ตัดสินใจไม่สู้กับโนบิตะและขอยอมแพ้ไป ซึ่งการเอาชนะไจแอนท์ได้ในครั้งนี้คือสิ่งที่โนบิตะทำเพื่อให้โดราเอมอนรู้ว่าตัวเองนั้นสามารถที่จะอยู่ได้โดยไม่ต้องมีโดราเอมอนมาคอยปกป้องอีกต่อไปแล้ว และนั่นเองก็ทำให้ตัวของโดราเอมอนสามารถกลับไปยังโลกอนาคตได้อย่างสบายไป  

และตอนจบแบบนี้นี่เองที่เป็นตอนจบที่แท้จริงของอาจารย์ฟูจิโกะเขียน ก่อนที่เขาจะเริ่มต้นเขียนการ์ตูนเรื่องใหม่ในเวลาต่อมา แต่หลายปีหลังจากนั้นตัวของอาจารย์ก็ยังคงคิดถึงโดราเอมอนอยู่ และนั่นเองก็ทำให้เขาตัดสินใจกลับมาเขียนโดราเอมอนอีกครั้งพร้อมกับชื่อตอนว่า  “โดราเอมอนกลับมาแล้ว” 

ตอนจบโดราเอมอนในยุคสมัยใหม่

และหลังจากที่เราได้เล่าถึงเรื่องราวของตอนจบทั้ง 5 แบบของโดราเอมอนที่ได้ปรากฏขึ้นในวงการอนิเมะแล้ว จริง ๆ แล้วในยุคสมัยใหม่นั้นก็ยังมีการสร้างตอนจบของโดราเอมอนขึ้นมาอีกหนึ่งแบบนั่นก็คือในปี 2014 โดยครั้งนี้มันถูกสร้างออกมาในรูปแบบของภาพยนตร์ที่มีชื่อว่า Stand by Me Doraemon ซึ่งในเวอร์ชั่นนี้บอกเลยว่าสามารถที่จะเรียกน้ำตาของแฟน ๆ โดราเอมอนทั้งรุ่นเก่า และ รุ่นใหม่ได้อย่างดีเลยทีเดียว โดยเนื้อหานั้นจะถูกอ้างอิงมาจาการเปลี่ยนอนาคตของ

โนบิตะเหมือนทุก ๆ ครั้ง จนทำให้โดราเอมอน และ โนบิตะเริ่มทะเลาะกันและไม่ชอบหน้ากันมากขึ้นเรื่อย ๆ และทำให้เหลนของโนบิตะอย่าง เซวาชิ ต้องตั้งโปรแกรมที่จมูกโดราเอมอนให้เมื่อถึงเวลาใดเวลาหนึ่งตัวของโดราเอมอนจะต้องเดินทางกลับอนาคตโดยไม่มีเงื่อนไขและไม่สามารถขัดคำสั่ง และพอถึงเวลานั้นโดราเอมอนก็ต้องเดินทางกลับตาโปรแกรมที่ตั้งเอาไว้

ซึ่งบอกเลยว่าเรื่องนี้ในเวอร์ชั่นของภาพยนตร์ที่เป็นการใช้ภาพ 3 มิติมาช่วยในการเล่าเรื่องนั้นมันสามารถช่วยดึงอารมณ์ของเนื้อเรื่องในช่วงนั้นได้อย่างดีเลยละ ซึ่งใครที่จิตใจไม่แข็งแกร่งพอบอกได้เลยว่าเตรียมเสียน้ำตากันได้เลย แต่ถึงมันจะค่อนข้างดึงอารมณ์มากขนาดไหนก็ตาม แต่ทว่าตอนจบในเวอร์ชั่นนี้กลับไม่ถูกนับเป็นตอนจบอย่างเป็นทางการ เพราะว่ามันไม่ได้มาจากความคิดของอาจารย์ฟูจิโกะนั่นเอง แถมเนื้อหานี้มันก็ยังถูกดัดแปลงมาจากตอนจบรูปแบบที่ 5 ในเวอร์ชั่นการ์ตูน แต่ถึงอย่างนั้นแล้วแฟน ๆ โดราเอมอนก็ไม่ได้ใจร้าย เพราะว่าพวกเขายังนับตอนจบรูปแบบนี้เป็นตอนจบรูปแบบที่ 5 ที่มีเนื้อหาต่างกันออกไปนิดหน่อย แถมบรรดาเหล่าแฟน ๆ ของเจ้าแมวสีฟ้ายังบอกว่า ตอนจบแบบนี้คือตอนจบที่พวกเขาชอบที่สุดอีกด้วย

และเรื่องราวที่เราเอามาเล่าให้ฟังกันนี้คือก็คือสิ่งที่สามารถพิสูจน์ถึง ตอนจบที่แท้จริงของโดราเอมอนที่ไม่ได้มีเพียงแค่แบบเดียว  ให้ทุก ๆ ได้รับทราบกัน ซึ่งพอคุณอ่านมาถึงตรงนี้แล้ว คุณละชอบตอบจบของโดราเอมอนแบบไหนมากที่สุด