การที่อนิเมะดี ๆ สักเรื่องนั้นจะเกิดกระแสจนกลายเป็นที่พูดถึงได้นั้นนอกจากจะมีเนื้อเรื่องที่สนุก ตื่นเต้น เร้าใจ ไม่เกรงใจแล้วอีกสิ่งหนึ่งที่จะต้องโดดเด่นเป็นอันดับต่อ ๆ มานั่นก็คือบรรดาเหล่าฉากจำต่าง ๆ นั่นเอง ซึ่งฉากจำบางเรื่องนั้นยังกลายเป็นฉากจำที่ทำให้อนิเมะรุ่นใหม่ ๆ ต้องเลียนแบบ จนทำให้หลาย ๆ คนต่างพากับเรียกการเลียนแบบเหล่านั้นว่า กฎของอนิเมะ กันเลยทีเดียว นั่นก็เพราะว่าฉากเหล่านั้นปรากฏขึ้นมาเมื่อใด บรรดาเหล่าคนดูทั้งหลายก็น่าจะพอรู้ชะตากรรมของตัวละครแบบเดาได้ทันทีเลยนั่นเอง และเพราะไอ้ฉากจำต่าง ๆ นี้เองที่ทำให้มันได้เกิดหัวข้อในวันนี้ขึ้น เพราะว่าในครั้งนี้เราจะพาทุก ๆ คนไปพบกับเรื่องราวของการอย่าทำแบบนี้เหมือนในอนิเมะ ถ้าคุณไม่อยากที่จะตาย หรือ แพ้ในเรื่อง ซึ่งท่า และ ฉากเหล่านั้นจะเป็นอย่างไร เอาเป็นว่าเราไปเริ่มดูกันเลยดีกว่า
กางมือออกมาเท่ากับแพ้แล้วจากเรื่อง Pokemon
เอาละมาเริ่มกันที่ ฉาก และ ท่าจำในอินเมะ แบบแรกกันเลยดีกว่า โดยเราจะขอเสนอเรื่องราวจาก Pokemon นั่นเอง ซึ่งก่อนที่เราจะมาพูดถึงท่าในตำนานนั้นเราต้องขอแสดงความยินดีให้กับเด็กหนุ่มจากเมืองมาซาระที่ในที่สุดเขาก็สามารถจะคว้าแชมป์โลกมาครองได้สำเร็จหลังจากที่พลาดแชมป์จนคนดูเจ็บใจมาหลายต่อหลายครั้งแล้วนั่นเอง และไอ้การคว้าแชมป์โลกของซาโตชิในครั้งนี้นี่เองที่มันได้ทำให้มีคนตั้งข้อสังเกตว่า มันมีท่าอยู่ท่าหนึ่งที่ไม่ว่าใครทำ คนคนนั้นก็จะแพ้แน่นอน โดยท่านั้นก็คือท่ากางแขนนั่นเอง
โดยหลาย ๆ นั้นได้สังเกตเห็นในรอบการคัดเลือกว่ามีอยู่หลายตัวละครมาก ๆ ที่ได้ทำท่าผายมือแบบนี้ออกและเมื่อเสร็จสิ้นการแข่งขันตัวละครเหล่านั้นก็จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ แถมตัวละครที่แพ้ในครั้งนี้ยังเป็นถึงแชมป์ระดับภูมิภาคอีกหลายต่อหลายตัวเลยอีกด้วย แถมที่สำคัญมาก ๆ เลยนั่นก็คือ ตัวละครที่ถูกปูบทออกมาว่าเป็นแชมป์ไร้พ่าย และมีตัวละครอย่างลิซาร์ดอน
ผู้เก่งกาจเป็นคู่หูอย่างดันเต้ เองก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ทำท่านี้เช่นกัน และสุดท้ายแล้วในศึกชิงแชมป์ครั้งสุดท้าย เขาคนนี้ก็แพ้ให้กับพระเอกของเรื่องอย่าง ซาโตชิ เข้าจริง ๆ
เหล่าตัวร้ายผู้ใข้อาวุธเสียงจากเรื่อง Saint Seiya
ฉาก และ ท่าจำในอินเมะ เรื่องต่อมาที่เราจะขอพูดกันนั่นก็คือ บรรดาเหล่าผู้ใช้เสียงเพลงในเรื่อง Saint Seiya ที่เก่งเกินไปหลายเบอร์นั่นเอง ซึ่งแน่นอนแหละว่าอนิเมะเรื่องนี้นั้นถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งอนิเมะที่สามารถปลุกสัญชาตญาณลูกผู้ชายของเราให้ลูกไหม้ได้อย่างมาก เพราะว่ามันเป็นอนิเมะที่วัดกันด้วยกำปั้น และ ความถึกของแต่ละฝ่าย แต่ถึงแบบนั้นแล้วก็ตาม อีกสิ่งหนึ่งที่เราถือได้ว่ามันเป็นสิ่งที่อยู่คู่กันนั่นก็คือ บรรดาเหล่าตัวละครที่มีอาวุธเป็นเครื่องดนตรีต่าง ๆ นั่นเอง
แต่กลับกลายเป็นว่าเจ้าบรรดาเหล่าตัวละครพวกนั้นกลายเป็นตัวขโมยซีนชั้นเลิศของเรื่อง Saint Seiya กันเลยทีเดียว เพราะว่านอกจากวิธีการโจมตีจากอาวุธที่ไม่น่าจะโจมตีได้ รวมถึงใบหน้าที่บอกเลยว่าบางคนก็หล่อ และ บางคนก็สวยซะเหลือเกินนี้เอง จึงทำให้พวกเขาขโมยซีนได้ทุกครั้งเวลาที่ปรากฏตัวออกมา แต่ทว่าสุดท้ายแล้วถึงจะเก่งแค่ไหนก็ตาม พวกเขาเหล่านั้นก็ไม่อาจที่จะต้านทานพลัง และ ความอึดของกลุ่มพระเอกได้จนทำให้สุดท้ายแล้วก็ต้องแพ้ไป ดังนั้นมันจึงเป็นฉาก และ ท่าจำในอินเมะ อีกอย่างหนึ่งของเรื่องนี้ที่จะต้องมีตัวละครใช้เครื่องดนตรีมาพ่ายแพ้ให้เราดูนั่นเอง
การชี้นิ้วเข้าหาตัวของเบจิต้า จากเรื่อง Dragon Ball
ฉาก และ ท่าจำในอนิเมะ เรื่องต่อมาที่เราจะขอพูดกันนั่นก็คือ ท่าชี้นิ้วเข้าหาตัวเองของ เบจิต้า นั่นเอง หากเรื่องแรกเราพูดถึงท่ากางแขนของบรรดาเหล่าเทรนเนอร์ใน pokemon ที่ไม่ว่าทำเมื่อไหร่ ก็การันตีความพ่ายแพ้ได้แน่นอน ท่าชี้นิ้วเข้าหาตัวเองของเบจิต้าเองก็ไม่ต่างอะไรกันสักเท่าไหร่ แถมหลัง ๆ แล้ว เบจิต้า นั้นยังเริ่มได้รับฉายากระสอบทรายแห่งจักรวาล Dragon Ball เข้าไปเสียแล้ว เพราะเขามักจะโผล่ออกมาเป็นเครื่องทดสอบพลังให้กับบรรดาเหล่าตัวร้าย ก่อนที่จะให้ซุนโกคู ของเราตามมาปราบทีหลัง
แต่ถึงแบบนั้นแล้วเจ้าชายแห่งดาวไซย่านั้นก็ยังไม่สามารถทิ้งนิสัยเดิมได้เพราะว่าเขาคนนี้เป็นคนที่มักจะพูดจาอวดเก่ง และ โอหังอยู่เสมอ และเมื่อเขามั่นใจในตัวเองมาก ๆ เขาก็มักที่จะชี้นิ้วใส่ตัวเองพร้อมกับมีคำพูดประมาณฉันคนนี้นี่แหละที่จะเป็นคนจัดการแกเองโผล่ตามมาอยู่เสมอ ๆ แต่สำหรับคนดูนั้นมันก็เหมือนกับการเป็นสัญญาณให้เตรียมตัวดู เบจิต้า ลงไปนอนกองกับพื้นนั่นเอง
ผู้ใส่หน้ากากความลับ และ เหลี่ยมเยอะจากเรื่อง Gundam
ฉาก และ ท่าจำในอินเมะ อีกหนึ่งอย่างที่เราอยากจะขอพูดถึงกันนั่นก็คือ บรรดาเหล่าตัวละครสวมหน้ากากในซีรีส์กันดั้มนั้นไม่สามารถไว้ใจได้เลยสักตัว ซึ่งถ้าเราพูดถึงซีรีส์ของกันดั้มแล้วสิ่งแรกที่หลาย ๆ คนจะต้องนึกถึงเป็นอันดับแรก ๆ นั่นก็คือการรบของหุ่นยนต์ต่าง ๆ และตัวละครเด่นของซีรีส์ที่บรรดาเหล่าแฟน ๆ กันดั้มรุ่นแรกต่างให้การยอมรับว่าเขานั้นเด่นไม่แพ้พระเอกของเรื่องเลยนั่นก็คือ ชาร์ล อัสนาเบิล ซึ่งนอกจากความสามารถในการขับหุ่นของเขาแล้ว ตัวของชาร์ลนั้นยังเป็นคนแรกของซีรีส์นี้ที่ใช้วิธีการสร้างตัวตนให้ลึกลับด้วยการสวมหน้ากาก
และหลังจากปรากฏการณ์ของชาร์ลนี้เองที่ทำให้ในซีรีส์กันดั้มต่างมีตัวละครสวมหน้ากากออกมาอย่างมากมายไม่เว้นแม้กระทั่งภาคล่าสุดอย่าง Mobile Suit Gundam The Witch from Mercury แต่ถึงแม้ว่าตัวละครที่สวมหน้ากากนั้นจะแตกต่างกันไปตามแต่ละภาค ทว่าสิ่งที่ตัวละครเหล่านี้มีเหมือน ๆ กันเลยนั่นก็คือ ความไม่น่าไว้วางใจ เพราะตามประวัติศาสตร์ของอนิเมะอย่างกันดั้มนั้น ส่วนใหญ่คนที่สวมหน้ากากเหล่านี้มักจะกลายเป็นฝ่ายร้ายซะส่วนมาก หรือบางทีมันก็อาจจะกลายเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้เกิดเรื่องร้ายแรงแบบคาดไม่ถึงในตอนจบก็เป็นได้
การแหกปากจากอนิเมะหลาย ๆ เรื่อง
ฉาก และ ท่าจำในอินเมะ อีกหนึ่งอย่างที่เราอยากจะขอพูดถึงกันนั่นก็คือ การแหกปาก โดยเราเชื่อว่าคออนิเมะหลาย ๆ ท่านน่าจะพอทราบกันดีว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เราได้เห็นตัวละครตัวไหนตัวหนึ่งแหกปากตะโกนออกมาแบบสุดเสียง นั่นแหละคือเวลาที่บรรดาเหล่าตัวร้ายจะต้องขวัญผวา เพราะมันคือช่วงเวลาที่พระเอกของเราจะงัดพลังทั้งหมดที่มีออกมาใช้แล้วนั่นเอง
แต่สำหรับเว็บไซต์ของเราที่ได้นั่งทำการสังเกตอยู่พักใหญ่ เราก็พบว่า การแหกปากตะโกนของตัวเอกนั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 หมวดหมู่ โดยอย่างแรกนั่นก็คือการแหกปากเพื่อปลุกพลัง โดยอนิเมะที่ทำให้หลาย ๆ คนเห็นภาพมากที่สุดนั่นก็คือ อนิเมะอย่าง Dragon Ball นั่นเอง ส่วนแบบที่ 2 นั้นจะเป็นการแหกปากออกมาเพราะว่าพวกเขานั้นโกรธแบบสุดขีดเนื่องจากของ หรือ คนที่เขารักมีอะไรเกิดขึ้นนั่นเอง และนั่นเองมันจะทำให้พลังของเขานั้นไหลทะลักออกมาจนตัวร้ายต้องตกใจ ส่วนอย่างที่ 3 นั้นก็คือ การแหกปากโวยวายพร้อมกับความโมโหที่ไม่ว่าอะไรก็พร้อมจะพุ่งเข้าใส่ตลอดเวลา แต่ถึงว่าท่าทางเหล่านี้จะมาคนละรูปแบบกัน แต่สุดท้ายไอ้การแหกปากนี้เองนี่แหละที่มันจะกลายเป็นกุญแจสำคัญสู่ชัยชนะ
และทั้งหมดนี้ก็คือสิ่งที่อย่าทำแบบนี้ในอนิเมะถ้าคุณไม่อยากที่จะตาย หรือ แพ้ในเรื่อง โดยสิ่งเหล่านี้ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่คุณหยิบเอาเรื่องไหนขึ้นมาดูมันก็มักจะมีฉากเหล่านี้โผล่ให้เห็นอยู่เป็นประจำในทุก ๆ ครั้ง แล้วตอนนี้สำหรับคุณละ นึกออกหรือยังว่ามันมีฉากไหนที่คุ้น ๆ ตาของคุณกันอยู่มั่ง