“อย่าไว้ใจหัวชมพู” เป็นคำที่กล่าวขึ้นมาในช่องคอมเมนต์ของการ์ตูนเรื่องหนึ่ง ที่ภาพปกกับเนื้อหาแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ความสดใสน่ารักเหมือนอนิเมะชีวิตวัยรุ่นได้หายวับทันทีที่ดูตอนแรกจบ เมื่อเปิดดูตอนต่อไปจนกระทั่งตอนสุดท้ายก็พบว่านี่โดนหน้าปกหลอกเข้าให้แล้ว และเมื่อเห็น Key Visual ของเรื่องนี้ก็ถึงบางอ้อ มันมาแบบนี้แต่แรกแล้วนี่นา แม้จะเคยเห็นผ่าน ๆ ว่ามีคนเกลียดตัวละครน้องหัวชมพูกันอย่างคับคั่งแต่พอได้สัมผัสจริงแล้วก็รู้สึกว่า อืม .. สมควรอยู่หรอก เป็นอนิเมะที่ดูแล้วทำเอาลุ้นทุกตอนจนเกือบลืมหายใจ ตัวเอกของเราฉลาดกันเหลือเกิน เล่นเอาตอนดูต้องคอยกำหมัดตัวเกร็งกันเลยทีเดียว
Munou na Nana หรือ แผนลับดับศัตรูเป็นผลงานมังงะของอาจารย์ Looseboy ผนึกกำลังกับอาจารย์ Furuya Iori เป็นผู้วาดภาพ ตีพิมพ์ในนิตยสาร Shounen GanGan ของสำนักพิมพ์ Square Enix โดยฉบับภาษาไทยได้สำนักพิมพ์สยามอินเตอร์เป็นผู้แปลและจัดจำหน่าย ในส่วนของอนิเมะนั้นได้ทีมงานจากสตูดิโอ Bridge ที่เคยสร้างผลงานมาแล้วอย่าง Fairy Tail และ Shaman King (2021) โดยมี Ishihira Shinji เป็นผู้กำกับ ฉายเมื่อฤดูหนาวปี 2020 รวมทั้งสิ้น 13 ตอนด้วยกัน ความยาวตอนละประมาณ 23 นาที ขอบอกเลยว่าดูรวดเดียวทั้ง 13 ตอนรู้สึกเวลาผ่านไปไวเอามาก ๆ
ตัวละคร
Hiiragi Nana พากย์เสียงโดย คุณ Ookubo Rumi
Onodera Kyouya พากย์เสียงโดย คุณ Nakamura Yuuichi
Nakajima Nanao พากย์เสียงโดย คุณ Shimono Hiro
Inukai Michiru พากย์เสียงโดย คุณ Nakahara Mai
Tachibana Jin พากย์เสียงโดย คุณ Yusa Kouji
เรื่องย่อ
เมื่อ 50 ปีที่แล้วมีโลกได้ค้นพบถึงการมีอยู่ “ศัตรูของมนุษยชาติ” พวกมันคอยทำลายและสังหารมนุษย์ที่อยู่บนโลกอย่างไม่เลือกหน้า และวิธีการที่จะรับมือกับมันได้คือต้องใช้ “ผู้ที่มีพลังพิเศษ” ซึ่งพวกเขามีพลังที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการใช้น้ำแข็ง ใช้ไฟ ย้อนเวลา อ่านใจได้ โดยไม่สนใจกฎของฟิสิกส์ ทางการจึงได้ก่อตั้งโรงเรียนสำหรับฝึกซ้อมรบในเกาะร้างห่างไกลจากเมืองตัวเมืองชื่อว่าโรงเรียน เอลีท เป็นที่รวมตัวของเหล่าเยาวชนผู้มีพลังพิเศษดังกล่าว และนั่นทำให้ Nakajima Nanao ผู้ที่ไม่มั่นใจในตัวเองรู้สึกเป็นแกะดำและเป้าหมายของการถูกกลั่นแกล้งอยู่เสมอ เพื่อน ๆ มักเรียกเขาว่า “ไร้พลังคุง”
ขณะที่ชีวิตในรั้งโรงเรียนของ Nakajima Nanao เต็มไปด้วยความอึดอัด วันหนึ่งก็มีนักเรียนใหม่สองคนย้ายเข้ามา คนหนึ่งคือ Onodera Kyouya เด็กหนุ่มผู้เงียบขรึมและดูไม่เป็นมิตรกับใคร การที่ปกปิดพลังพิเศษของเขาทำให้เข้าถึงยากมากขึ้น และอีกคนคือ Hiiragi Nana สาวน้อยหัวชมพูทวินเทลสดใส ใบหน้ายิ้มแย้ม พร้อมเป็นมิตรกับทุกคน เธอประกาศกลางชั้นเรียนว่าพลังพิเศษของเธอคือ การอ่านใจ
Hiiragi Nana ตีสนิทกับ Nakajima Nanao อย่างไม่ทันตั้งตัว และดูเหมือนเด็กหนุ่มเองก็ชอบเด็กสาวอยู่ไม่น้อย พวกเขาใกล้ชิดกันและได้เปิดเผยความในใจที่ Nakajima Nanao อึดอัดมาโดยตลอด เขาคือลูกชายของตระกูลบริษัทยักษ์ใหญ่ ถูกคาดหวังจากคนในครอบครัวเป็นอย่างมาก แต่การที่เขาไม่สามารถตอบสนองความต้องการของคนที่บ้านได้ทำให้ถูกมองว่าไร้ค่า ดังนั้นเพื่อพิสูจน์ตัวเองเขาจึงตัดสินใจตอบรับเข้าเรียนที่โรงเรียนเอลีทแห่งนี้ เขาต้องการกำจัดศัตรูของมนุษยชาติ อยากสร้างผลงานให้โลกจดจำ และเขาได้เปิดเผยความในใจให้เด็กสาวฟังอย่างหมดเปลือก ระหว่างที่ความสัมพันธ์ของ Nakajima Nanao และ Hiiragi Nana เป็นไปได้ด้วยดี วันหนึ่ง Nakajima Nanao ได้หยุดเรียนกะทันหัน เขาหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย และนั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวบนเกาะเล็ก ๆ แห่งนี้
ควรค่าแก่การดูหรือไม่ ?
หากชอบเรื่องสืบสวนสอบสวนและเฉือนคมกันระหว่างตัวละครในคราบนักเรียนมัธยมปลายแล้วล่ะก็เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่ควรลิสต์ไว้ดู คนที่ไม่ได้อ่านมังงะมาก่อนต้องบอกว่าดูตอนแรกไปก็อึ้งกิมกี่ ไม่คิดว่าเรื่องจะพลิกไปขนาดนั้น และการปรากฏตัวของนางเอกเท่ากับความหายนะของตัวละครที่เหลือในเรื่องเลยทีเดียว ภาพจำของเราเวลาดูอนิเมะเรื่องไหนแล้วคนที่มีบทในตอนแรกคือชูโรงของเรื่อง แต่เรื่องนี้ไม่ใช่แบบนั้น ตัวเอกฝ่ายชายกลับเป็นนักเรียนที่ย้ายเข้ามาใหม่ Onodera Kyouya ไม่มีใครรู้เป้าหมายของเขา แต่รับรองว่าการมีตัวตนอยู่ของเขานั้นค่อนข้างเป็นปัญหาสำหรับตัวเอกฝ่ายหญิงอย่าง Hiiragi Nana มากเลยทีเดียว
ตลอดทั้งเรื่องมีอะไรให้ลุ้นตลอดเวลา การหายสาบสูญของเพื่อนร่วมชั้น การที่โรงเรียนไม่ค่อยสนใจนักเรียน และการฝึกซ้อมที่แบบขอไปทีนั้นเล่นทำเอาเกิดความสงสัยว่าพวกนักเรียนไม่เอะใจอะไรกันบ้างเชียวหรือ ทุกคนบนเกาะมีพลังพิเศษที่ค่อนข้างสูญเปล่าในหลาย ๆ เหตุการณ์ ทั้งเกาะมีเพียง Hiiragi Nana คนเดียวที่ไร้พลัง อาวุธที่เธอมีคือจิตวิทยา เรียกว่าเป็นเรื่องที่สนุกแต่ยังขาดความสมเหตุสมผลในบางอย่าง
สรุป
ไม่ค่อยแปลกใจที่เรตติ้งใน IMDb ของเรื่องนี้จะอยู่ที่ 7.1 และ Myanimelist 7.24 คะแนน ถือว่าเปิดตัวได้ดีในตอนแรก สร้างความประทับใจได้มากพอสมควร แต่ถึงอย่างนั้นเนื้อเรื่องโดยรวมกลับยังไม่ปังหรือว้าวเท่าไหร่ หากใครต้องการติดตามสามารถหาดูได้ที่ช่อง Youtube ช่อง Muse Thailand และ LINE TV แบบซับไทยกันได้เลย
เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> ดัมมี่