หลังจากวันขึ้นปีใหม่ในทุกปี ที่ญี่ปุ่นจะมีงานวิ่งแข่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ Hakone Ekiden เป็นการแข่งวิ่งจากโตเกียวไปจนถึงภูเขาฮาโกเนะระยะทางขาไปและขากลับรวม 217.9 กิโลเมตร จัดขึ้นทั้งหมด 2 วัน โดยผู้ที่สามารถลงแข่งขันได้จะต้องศึกษาอยู่มหาวิทยาลัย หนึ่งทีมต้องมีสมาชิก 10 คน ซึ่งการแข่งขันจะถ่ายทอดสดออกอากาศทั่วทั้งญี่ปุ่น หากผู้เข้าแข่งขันคนใดคนหนึ่งไม่สามารถวิ่งให้ครบในระยะทางที่รับผิดชอบได้จะต้องถูกตัดสิทธิ์ทั้งทีมเพราะในการวิ่ง ผู้เข้าแข่งขันจะต้องส่งต่อสายสะพายที่เรียกว่า Tasuki ให้กับผู้วิ่งคนถัดไปนั่นเอง
เรื่องราวของประเพณีการแข่งขันนี้จึงกลายเป็นแรงบันดาลใจให้อาจารย์ Miura Shion ได้สร้างสรรค์ผลงานนิยายที่มีชื่อเรื่องว่า Kaze ga tsuyoku fuiteiru ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ Shinchosha เมื่อวันที่ 22 กันยายน ปี 2006 นั่นเอง ก่อนที่จะถูกดัดแปลงเป็นมังงะ และฉบับหนังโรง ก่อนจะนำมาทำเป็นอนิเมะโดยสตูดิโอ Production I.G ที่เคยมีผลงานอนิเมะกีฬามาแล้วอย่าง Haikyuu!! และ Kuroko no Basket ภายใต้การผลิตของ Matsushita Keiko และ Morihiro Fumi กำกับโดย Nomura Kazuya และออกแบบตัวละครโดย Chiba Takahiro ฉายตอนแรกเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2018 จำนวนทั้งหมด 23 ตอนด้วยกัน
ตัวละคร
Kiyose Haiji พากย์เสียงโดย คุณ Toyonaga Toshiyuki
Kurahara Kakeru พากย์เสียงโดย คุณ Ootsuka Takeo
Hirata Akihiro พากย์เสียงโดย คุณ Hoshino Takanori
Iwakura Yukihiko พากย์เสียงโดย คุณ Okitsu Kazuyuki
Jou Tarou พากย์เสียงโดย คุณ Enoki Junya
Jou Jirou พากย์เสียงโดย คุณ Uemura Yuuto
Kamara Musa พากย์เสียงโดย คุณ Kabumoto Hideaki
Kashiwazaki Akane พากย์เสียงโดย คุณ Irino Miyu
Sakaguchi Youhei พากย์เสียงโดย คุณ Kitazawa Riki
Sugiyama Takashi พากย์เสียงโดย คุณ Uchiyama Kouki
เรื่องย่อ
หลังจากสิ้นเนื้อประดาตัวเพราะถูกกินเรียบจากไพ่นกกระจอก ทำให้ Kurahara Kakeru นักศึกษาชั้นปีที่หนึ่งของมหาวิทยาลัย Kansei ตัดสินใจขโมยขนมปังจากร้านสะดวกซื้อ ในขณะที่เขากำลังวิ่งหนีไปตามถนน จู่ ๆ ก็มีจักรยานคันหนึ่งไล่ตามมาพร้อมกับชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีชื่อว่า Kiyose Haiji ทันทีที่ถูกจักรยานขนาบข้าง Kiyose Haiji ก็เอ่ยถาม Kurahara Kakeru ด้วยความตื่นเต้นว่า “นี่ นายชอบวิ่งเหรอ”
แม้อีกฝ่ายจะเป็นคนแปลกหน้า แต่ Kakeru ก็กลับหอพัก Chikusei-sou พร้อมกับ Haiji อย่างงง ๆ หลังจากที่แนะนำสมาชิกของหอพักอีกแปดคนที่เหลือเรียบร้อย ในระหว่างที่กำลังจัดงานปาร์ตี้เลี้ยงต้อนรับสมาชิกคนที่สิบของหอพักอย่าง Kakeru อยู่นั้น จู่ ๆ Haiji ก็เอ่ยขึ้นมาว่า พวกเขาทั้งสิบคนจะต้องร่วมเข้าแข่งขัน Hakone Ekiden เพราะแท้ที่จริงแล้วหอพักแห่งนี้คือหอพักนักกีฬาชมรมกรีฑาของมหาวิทยาลัย Kansei นั่นเอง
เพราะเคยเป็นนักกีฬากรีฑาจากโรงเรียนมัธยมปลายมาก่อนทำให้ Kakeru ไม่เห็นด้วยกับ Haiji อย่างหัวชนฝา เขาไม่คิดว่าด้วยสมาชิกที่มีอยู่และศักยภาพของสมาชิกที่มีจะสามารถไปแข่งขัน Hakone Ekiden ได้ เพราะคนที่จะเข้าร่วมได้นั้นต้องมีการฝึกฝนเป็นปี ๆ จึงไม่สามารถประสบความสำเร็จด้วยระยะเวลาอันสั้น ทว่า Haiji ไม่ยอมแพ้ เขาเชื่อมั่นว่าด้วยสมาชิกที่มีจะสามารถไปถึงการแข่งขันได้ และได้เริ่มต้นพยายามโน้มน้าวสมาชิกในหอพักให้ตอบตกลง แม้วิธีที่ใช้จะเป็นการจี้จุดอ่อนของแต่ละสมาชิกก็ตามที
การโน้มน้าวสมาชิกที่เหลือไม่ง่ายเลย แต่กระนั้น Haiji ก็ยังไม่ล้มเลิกความพยายาม เขาประกบติดเหล่าสมาชิกอย่างใกล้ชิด เพราะนี่คือโอกาสสุดท้ายที่เขามี Haiji เป็นนักศึกษาชั้นปีที่สี่ นี่คือโอกาสสุดท้ายที่เขาจะสามารถเข้าร่วมการแข่งขันได้ เมื่อสมาชิกคนที่สิบพร้อมเขาจึงไม่คิดจะยอมแพ้ และจะเดิมพันด้วยสมาชิกที่มีอยู่นี้ ความพยายามในการรวบรวมสมาชิกของ Haiji จะประสบผลสำเร็จหรือไม่ ต้องติดตาม
ควรค่าแก่การดูหรือไม่ ?
เป็นอนิเมะน้ำดีที่ไม่ควรพลาดอย่างมาก ค่อนข้างสะท้อนถึงความพยายามที่มีต่อเป้าหมายอย่างชัดเจน โดยเฉพาะคาแรกเตอร์อย่าง Haiji ที่ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคทุกชนิด เขาทำทุกอย่างเพื่อเป้าหมาย ทำทุกอย่างจริง ๆ ไม่ว่าจะข่มขู่ ล่อลวง สารพัด จึงทำให้อดไม่ได้ที่จะอมยิ้มและหัวเราะไปกับแผนการของเขา แต่อีกด้านหนึ่งคือความพยายามอย่างไม่ลดละ ดูจบแล้วบอกเลยว่าจะได้รับแรงบันดาลใจอย่างมหาศาล เป็นอนิเมะสร้างกำลังใจได้อย่างดีเยี่ยม เพราะตัวละครส่วนใหญ่ในทีมมาจากคนธรรมดาที่ห่างเหินจากกีฬาไป และยังมีตัวละครหนึ่งที่ไม่เคยคิดจะเข้าเส้นทางสู่การวิ่ง ทำให้เห็นการเติบโตของตัวละครที่เป็นไปอย่างช้า ๆ
เราจะเห็นคนที่เริ่มต้นจากศูนย์แล้วขึ้นสู่ร้อยในระยะอันสั้น แต่เรื่องนี้กลับแสดงให้เห็นทุกสเต็ปของการก้าวไปข้างหน้า มีปมของตัวละครแต่ละคนให้ได้ติดตาม พร้อมแสดงถึงมิตรภาพภายในทีมที่หาได้ยากยิ่ง ในการแข่งขัน Hakone Ekiden เราอาจจะไม่อินเท่าคนญี่ปุ่นเท่าไหร่นัก แต่หากมองว่าเป็นกีฬาที่ต้องแข่งขันจากตัวแทนของมหาลัยก็พอจะทำให้รู้สึกร่วมได้อย่างไม่ยาก
สรุป
ความดีงามของเรื่องที่ไม่ได้เน้นการแข่งขันเพื่อเอาชนะฝ่ายตรงข้ามอย่างเดียว แต่ยังต้องเอาชนะในตัวเองในหลาย ๆ ด้าน ทำให้เรื่องนี้ได้คะแนนค่อนข้างสูงเลยทีเดียว ช่วงแรกของเรื่องอาจจะเอื่อยเฉื่อยบ้าง แต่หลังจากตอนที่ 10 เป็นต้นไปจะเริ่มสนุกจนละสายตาไม่ได้เลย เว็บไซต์ Myanimelist ให้คะแนน Kaze ga tsuyoku fuiteiru อยู่ที่ 8.42 และ IMDb อยู่ที่ 8.4 คะแนน ทั้ง 23 ผสมกันอย่างลงตัว ใครสายอนิเมะกีฬา หรือไม่ใช่ก็ไม่อยากให้พลาดเลยจริง ๆ โดยสามารถหารับชมซับไทยได้ที่ bilibili