ใกล้สิ้นปีแบบนี้นับว่ามีอนิเมะภาคต่อหลายเรื่องต่างจูงมือกันยกขบวนประกาศทำภาคต่ออย่างไม่หยุดไม่หย่อน ไม่เว้นแม้แต่เรื่องที่เว้นช่วงไปนานจากภาคล่าสุดอย่าง Overlord ด้วยเช่นกัน แม้จะมีการสร้างอนิเมะมาแล้วถึงสามภาคแล้วแต่เนื้อเรื่องตามฉบับนิยายกลับยังไม่ถึงจุดจบแต่อย่างใด เนื่องจากต้นฉบับยังไม่จบบวกกับกระแสของเรื่องค่อนข้างดีทำให้เรื่องนี้ยังถูกเป็นที่พูดถึงอยู่เนือง ๆ จนกระทั่งได้ฤกษ์ประกาศทำซีรีส์ภาคที่ 4 ออกมาแล้วเป็นที่เรียบร้อย สำหรับใครที่เป็นแฟน ๆ ของเรื่องนี้ต่างตั้งหน้าตั้งตาเฝ้ารอกันเลยทีเดียว และเนื่องจากไหน ๆ ก็มีการประกาศทำภาคต่อออกมาแล้ว จึงอยากแนะนำอนิเมะเรื่องนี้ให้สำหรับคนที่ยังไม่เคยดูได้มาลองติดตามเป็นสาวกท่านไอนซ์เพิ่มระหว่างรอดูภาคต่อในปี 2022
Overlord ต้นฉบับมาจากไลท์โนเวลในชื่อเดียวกันจากปลายปากกาของอาจารย์ MARUYAMA Kugane ออกแบบตัวละครโดยอาจารย์ so-bin ตีพิมพ์ให้กับสำนักพิมพ์ Enterbrain ปัจจุบันออกมาแล้ว 12 เล่มยังไม่จบ ในส่วนภาษาไทยนั้นได้สำนักพิมพ์ Dexpress นำเข้ามาแปลและจำหน่ายตามหลังต้นฉบับไม่ไกลมาก จากนั้นจึงถูกดัดแปลงเป็นเวอร์ชั่นอนิเมะโดยสตูดิโอ Madhouse ที่มีผลงานอนิเมะมาแล้วหลายเรื่องเช่น Hunter x Hunter (2011) และ One Punch Man ซึ่ง Itou Naoyuki เป็นผู้กำกับทั้งสามภาค และน่าจะทำต่อในภาคที่สี่ด้วยเช่นกัน
Overlord ภาคแรกมีจำนวนทั้งหมด 13 ตอน ฉายตอนแรกเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ปี 2015 ส่วนภาคสองฉายตอนแรกเมื่อวันที่ 9 มกราคม ปี 2018 จำนวน 13 ตอน และภาคสามเว้นห่างจากภาคสองไปเพียงแค่หนึ่งซีซั่นเท่านั้น โดยมีจำนวน 13. ตอนเช่นเดียวกันและฉายตอนแรกเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ปี 2018 ซึ่งเอาจริง ๆ เหมือนเป็นการตัดช่วงครึ่งแรกและครึ่งหลังเหมือนที่อนิเมะปัจจุบัน และกระแสของภาคสามในโซเชียลไทยเหมือนจะไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่นัก
ตัวละคร
Momonga พากย์เสียงโดย คุณ Hino Satoshi
Albedo พากย์เสียงโดย คุณ Hara Yumi
Demiurge พากย์เสียงโดย คุณ Katou Masayuki
Shalltear Bloodfallen พากย์เสียงโดย คุณ Uesaka Sumire
Aura Bella Fiora พากย์เสียงโดย คุณ Katou Emiri
Mare Bello Fiore พากย์เสียงโดย คุณ Uchiyama Yumi
เรื่องย่อ
ในวันสุดท้ายของการเปิดให้บริการเกม Yggdrasil ชายหนุ่มได้มานั่งเฝ้าบัลลังก์เพียงลำพัง มีเพื่อนร่วมกิลด์เข้ามาทักทายเพียงแค่คนสองคน อดีตกิลด์ Ainz Ooal Gown ตั้งอยู่ในมหาสุสานนาซาริคที่เคยโด่งดังและยิ่งใหญ่ในเกม บัดนี้เป็นเพียงกิลด์ร้างที่สมาชิกต่างทยอยหายหน้าหายตากันไปหมด ชายหนุ่มในฐานะหัวหน้ากิลด์หมายจะอยู่โยงเฝ้ากิลด์ที่เต็มไปด้วยความทรงจำจนกระทั่งวินาทีสุดท้าย คาดว่าหลังปิดเซิร์ฟเขาน่าจะถูกดีดจากล็อกอินจากเกมเอง ทว่าหลังจากเลยเวลาที่ควรปิดบริการเกมนอกจากเขาจะยังไม่กลับสู่โลกของตน เขายังคงนั่งอยู่บนบัลลังก์พร้อมกับเหล่า NPC แต่ทว่าพวกเขาเหล่านั้นเดิมทีที่มีเพียงคำพูดและท่าทางตามโปรแกรมที่เซ็ตติ้งไว้กลับดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาเสียอย่างนั้น
Momonga ชื่อไอดีที่เขาถือครอบครองอยู่ในกิลด์และดำรงตำแหน่งหัวหน้ากิลด์นั้นได้พบว่าตนอยู่ในอีกโลกหนึ่งอันไม่คุ้นเคย พวก NPC มีชีวิตขึ้นมาอย่างน่าแปลกใจ เขาไม่รู้เลยว่าตอนนี้ตนอยู่ที่ไหน แต่ไม่ใช่โลกของเกม Yggdrasil แน่ สิ่งแรกที่ต้องทำคือค่อย ๆ สืบหาความเป็นมาในโลกกว้าง เขาได้รวบรวมเหล่าผู้พิทักษ์ชั้นต่าง ๆ ให้มารวมตัวกัน จากนั้นจึงนำชื่อของกิลด์มาใช้เป็นชื่อของตนเพื่อหวังว่าจะมีคนในกิลด์ที่ได้หลุดเข้ามาในโลกนี้แบบเดียวกับเขาและเพื่อตามหาพรรคพวก ท่ามกลางปริศนาและความเป็นอยู่ที่น่างุนงงนี้ Momonga ผู้มีนิสัยระแวดงระวังขั้นสุดจำเป็นต้องเดินหน้าเพื่อตามหาเบาะแสเกี่ยวกับโลกใบนี้อย่างค่อยเป็นค่อยไป
ควรค่าแก่การดูหรือไม่ ?
ถ้าชอบการ์ตูนที่ตัวเอกไม่ได้เก่งเทพแต่แรก หรือแนวที่พระเอกกากแต่เริ่มแล้วค่อย ๆ เก่งขึ้นแล้วล่ะก็ขอให้ข้ามเรื่องนี้ไปได้เลย เพราะเรื่องนี้ตัวเอกอย่าง Momonga และพรรคพวกในมหาสุสานนาซาริคนั้นมีพลังเหนือกว่าคนทั่วไปหลายเลเวลเลยทีเดียว แต่จุดที่ทำให้เรื่องมันดำเนินต่อไปได้คือนิสัยอันขี้ระแวงของตัว Momonga ล้วน ๆ เลย เพราะเขาต้องมาโลกที่ตนเองไม่คุ้นเคย และไม่รู้ว่าจะมีอะไรรออยู่ข้างหน้า จึงเคลื่อนไหวด้วยความรอบคอบ จึงทำให้เสน่ห์ของเรื่องไม่ได้อยู่ที่เป้าหมายความเก่งของพระเอก แต่เป็นวิธีการแก้ปัญหาและการดำเนินเรื่องราวในโลกที่ไม่รู้จักนั่นเอง ซึ่งแนวนี้ถ้าคนที่ชอบก็จะชอบมาก คนที่ไม่ชอบก็อาจจะรู้สึกว่าเนือย ๆ ไม่ค่อยมีอะไรให้ลุ้นเพราะยังไงตัวเอกก็เก่งเทพอยู่แล้ว แต่แม้จะเห็นความเก่งเทพ เราก็จะเห็นความตลกขบขันของตัว Momonga ที่อยู่ในร่างอันเดตอยู่เนือง ๆ เพราะต้องวางตัวเป็นผู้นำตลอดเวลา ทำให้เวลาจะโก๊ะอะไรขึ้นมาต้องแถให้ดูจริงจังเข้าไว้ และเหล่าสาวกเองก็ดูจะเชื่อฟังเสียเหลือเกิน ดูแล้วอดที่จะขำไม่ได้
ดังนั้นเรื่องนี้จะเต็มเปี่ยมไปด้วยความแฟนตาซีและการเมืองเต็มสูบ เหมือนเป้าหมายผู้ชมอยู่ที่คนวัยทำงาน ใครที่ชอบสายโชเน็นอาจจะไม่เหมาะเท่าไหร่ เป็นการหลุดเข้าไปต่างโลกที่ค่อนข้างแปลกไม่เหมือนใคร ซ้ำยังมีปมปริศนาให้ติดตามอยู่ประปราย จนอดลุ้นไม่ได้ว่าตอนจบของเรื่องจะไปยังจุดไหนเลยทีเดียว
สรุป
จากคะแนนตามเว็บไซต์ต่าง ๆ สามารถการันตีได้ว่า Overlord เป็นอนิเมะน้ำดีเรื่องหนึ่งที่ไม่ควรพลาดแต่อย่างใด ซึ่งเว็บไซต์ Myanimelist ได้ให้เรื่องนี้อยู่ที่ 7.93 7.76 และ 7.92 ตามลำดับ ทั้งที่กระแสภาคสามในไทยค่อนข้างไม่โอเคแต่คะแนนก็ยังใกล้เคียงกับภาคแรกค่อนข้างมากอยู่ และ IMDb ได้ให้เรื่องนี้อยู่ที่ 7.8 ซึ่งนั่นหมายความว่ากระแสวิพากย์วิจารณ์ก็อาจจะไม่เท่ากับต้องพิสูจน์ด้วยตาตัวเอง ใครที่อยากหารับชมสามารถติดตามได้ที่ Netflix โดยมีให้ชมครบทั้งภาคเลยจ้า เว็บสล็อต