เมื่อพูดถึงอนิเมะแนวต่างโลกแล้วคงไม่มีใครทิ้งตัวเลือกอย่างเรื่อง Re:Zero รีเซทชีวิต ฝ่าวิกฤตต่างโลกไปอย่างแน่นอน โดยเรื่องนี้ได้ถูกเป็นกระแสนิยมอย่างมากทันทีที่ฉายในฤดูใบไม้ผลิของปี 2016 สร้างปรากฎการณ์กองอวยกันอย่างล้นหลาม ปัจจุบันได้ฉายมาแล้ว 2 ซีซั่น กระแสยังคงแรงไม่มีตก และเนื้อหาที่เข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ มองเผิน ๆ ลายเส้นและแนวเรื่องอาจไม่ต่างแนวต่างโลกอื่นเท่าไหร่นัก แต่ความพิเศษของเรื่องนี้กลับแตกต่างออกไป เพราะนอกจากจะหลุดเข้าไปในโลกแฟนตาซีแล้วตัวเอกของเรายังมีพลังพิเศษที่คาดไม่ถึงนั่นคือการย้อนเวลากลับไปยังจุดเซฟทันทีที่ตาย โดยที่ไม่รู้ว่าจุดเซฟตรงนั้นจะเริ่มที่ตรงไหนอีกต่างหาก
Re:Zero kara Hajimeru Isekai Seikatsu หรือ รีเซทชีวิต ฝ่าวิกฤตต่างโลก เป็นผลงานไลท์โนเวลจากปลายปากกาของอาจารย์ Nagatsuki Tappei ออกแบบตัวละครโดยอาจารย์ Ootsuka Shinichirou ตีพิมพ์กับนิตยสาร Media Factory ( MF Bunko J) ส่วนฉบับภาษาไทยจำหน่ายโดยสำนักพิมพ์ Animag ปัจจุบันออกมาแล้วทั้งหมด 12 เล่มด้วยกัน โดยส่วนของอนิเมะได้สตูดิโอ White Fox ผู้ที่เคยฝากผลงานเรื่องดัง ๆ มาแล้วนับไม่ถ้วนอย่าง Steins;Gate, Hataraku Maou-sama! และ Goblin Slayer แถมยังได้ Watanabe Masaharu ขึ้นแท่นกำกับ ซึ่งซีซั่นแรกจำนวนตอนที่ฉายมีทั้งหมด 25 ตอน และในส่วนของซีซั่นที่ 2 ถูกแบ่งย่อยออกมาเป็น พาร์ท 1 และพาร์ท 2 พาร์ทละ 13 ตอนและ 12 ตอนตามลำดับ โดยตอนสุดท้ายฉายจบไปเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2021 ที่ผ่านมานี้เอง
ตัวละคร
Natsuki Subaru พากย์เสียงโดย คุณ Kobayashi Yuusuke
Emilia พากย์เสียงโดย คุณ Takahashi Rie
Rem พากย์เสียงโดย คุณ Minase Inori
Ram พากย์เสียงโดย คุณ Murakawa Rie
Beatrice พากย์เสียงโดย คุณ Arai Satomi
Mathers Roswaal L. พากย์เสียงโดย คุณ Koyasu Takehito
Pack พากย์เสียงโดย คุณ Uchiyama Yumi
เรื่องย่อ
Natsuki Subaru เด็กหนุ่มผู้เป็นฮิคิโคโมริ และเกมเมอร์ตัวยง เขาออกจากบ้านเท่าที่จำเป็น ปฏิสัมพันธ์กับผู้คนให้น้อยที่สุด จู่ ๆ วันหนึ่งเขาก็พบว่าตัวเองได้ไปอยู่ต่างโลกแฟนตาซีที่เต็มไปด้วยเวทย์มนตร์ สังคม สิ่งก่อสร้าง ผู้คน มอนสเตอร์แปลกประหลาดอย่างที่เคยเห็นเพียงแค่ในเกม การ์ตูนเท่านั้น ท่ามกลางความตื่นตาตื่นใจนี้เองทำให้เขาเดินสำรวจพื้นที่ใหม่ด้วยความตื่นเต้น จนกระทั่งไปพัวพันหญิงสาวผมสีเงินคนหนึ่งหน้าตาสะสวย Natsuki Subaru ตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น เมื่อพบว่าอีกฝ่ายกำลังเดือดร้อนเพราะถูกขโมยตราจึงพยายามที่จะช่วย แต่แล้วเขากลับถูกพวกนักเลงเล่นงาน แม้ Natsuki Subaru จะมีทักษะการต่อสู้ระยะประชิดอยู่บ้าง และถึงจะเป็นแค่นีทร่างกายเขาก็ไม่ได้ง่อยจนไม่สามารถทำอะไรไปเสียทีเดียว แต่เพราะความสะเพร่าและพลาดท่าคิดว่าตนน่าจะเป็นผู้ที่ถูกเลือก สุดท้ายเขาก็ยังเป็น Natsuki Subaru คนเดิมที่ไม่มีพลังพิเศษอะไรเลย และโดนกระทืบจนสลบไป
หญิงสาวผมสีเงินช่วยดูแลเขาจนฟื้นขึ้นมา Natsuki Subaru จึงอาสาช่วยเธอตามหาของที่ถูกขโมยไปจนถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในขณะที่ต่อรองเจรจากันอยู่นั้นจู่ ๆ ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เมื่อหนึ่งในลูกค้าที่ต้องการซื้อเหรียญตราที่โดนขโมยมานั่นเช่นเดียวกันได้แย่งชิงโดยการ ฆ่าล้างบางทั้งผู้ขายและตัว Natsuki Subaru เอง เด็กหนุ่มรู้ซึ้งถึงความเจ็บ เฝ้าบอกกับตัวเองว่าไม่อยากตาย เขาตระหนักได้ว่าตนไร้พลังโดยสิ้นเชิง อีกใจหนึ่งก็เป็นห่วงว่าหญิงสาวที่ตนหลงรักจะถูกฆ่าตายไปด้วย ในระหว่างที่คร่ำครวญอยู่นั้นสติของตนได้ค่อยเลือนลาง และเมื่อรู้สึกตัวอีกทีเขาก็พบว่าตัวเองยังยืนอยู่หน้าร้านขายผลไม้ในเมืองสถานที่เขาเพิ่งจากมาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้
ควรค่าแก่การดูหรือไม่ ?
เรื่องนี้ถูกจัดอยู่ในเรท 17+ นั่นหมายความว่าตัวเรื่องไม่ได้สวยใสเน้นการผจญภัยและมิตรภาพซะทีเดียว เนื้อเรื่องค่อนข้างเข้มข้นจนเกือบดาร์กค่อนข้างขัดกับอิมเมจตัวละครอยู่พอสมควร นอกเหนือจากความแฟนตาซีในโลกใบใหม่แล้วยังเต็มไปด้วยปริศนาและการเมือง ผู้เขียนได้สอดแทรกทุกอย่างเอาไว้และความเป็นไปได้ของแต่ละตัวเลือกได้ค่อนข้างโหดร้าย จึงไม่แปลกใจเลยว่าเมื่อเรื่องดำเนินไปสักพักจะเห็นความเป็นจริงของเด็กหนุ่มธรรมดาคนหนึ่งที่ต้องเผชิญกับเรื่องโหดร้ายต่อหน้าต่อตาอยู่หลายครั้งหลายหนจนสติแตก แต่จุดนี้ก็ทำให้เกิดแตกออกเป็นสองเสียง เสียงหนึ่งไม่พอใจกับสิ่งที่ตัวเอกเลือกกระทำในช่วงท้ายซีซั่นแรก กับอีกเสียงที่เข้าใจว่านี่คือความรู้สึกของเด็กผู้ชายคนหนึ่งควรมีเมื่อเจอกับปัญหาถึงชีวิตอยู่บ่อยครั้ง เรื่องนี้น่าสนใจตรงที่ไม่รู้ว่าเส้นทางที่ Natsuki Subaru เลือกจะเกิดอะไรขึ้น และให้ผลลัพธ์ที่เลวร้ายอย่างไร และไม่รู้ว่าเมื่อตายไปแล้วจะกลับไปเริ่มตรงจุดไหน โดยเฉพาะเนื้อหาภาค 2 ยิ่งเข้มข้นขึ้น ใครที่ชอบแนวนี้สายนี้แนะนำให้ดูอย่างมาก แต่ถ้าใครไม่ชอบภาพความรุนแรงอาจไม่ขอแนะนำเท่าไหร่นัก และที่สำคัญสงครามกองอวยเรื่องนี้รุนแรงพอตัวเชียวล่ะ
สรุป
เรื่องนี้แม้จะไม่ใช่บู้แอคชั่นแนวล้างผลาญเท่าไหร่เพราะตัวเอกเป็นเพียงเด็กหนุ่มธรรมดาคนหนึ่ง แน่นอนว่านอกจากการย้อนเวลาเขาก็ไม่มีสกิลอื่นอีกแล้ว พลังเวทย์มนตร์ไม่มี ความสามารถการต่อสู้พอเอาตัวรอด ดังนั้นจะหาความเทพ ความบู้สุดมันส์จากพระเอกคงจะเป็นไปได้ยาก แต่เสน่ห์ของเรื่องนี้อยู่ที่ปริศนา การแก้ปัญหา แม้จะไม่ได้เก่งมากแต่ก็เป็นสิ่งที่เด็กหนุ่มคนหนึ่งพอจะทำได้ ส่วนตัวมองว่าค่อนข้างเรียลพอสมควร จึงไม่แปลกเลยว่าคะแนนของ IMDb ได้มากถึง 8.1 และ Myanimelist คว้าไป 8.27 เช่นเดียวกัน หากใครต้องการรับชมทั้งสองซีซั่นสามารถติดตามได้ที่ Netflix จ้า
เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> บาคาร่า