การแข่งขัน ชัยชนะ พ่ายแพ้ มิตรภาพ สิ่งเหล่านี้คือคุณสมบัติของการ์ตูนสายกีฬามาตั้งแต่ไหนแต่ไร ทางญี่ปุ่นเองก็มีการ์ตูนเกี่ยวกับกีฬาหลายเรื่องหลายสไตล์ กีฬาที่มักได้รับความนิยมก็คงไม่พ้น ฟุตบอล บาสเกตบอล และเบสบอล เมื่อพูดถึงกีฬาเหล่านี้เรามักมีชื่อเรื่องในใจผุดขึ้นมาง่ายดาย ซึ่งน้อยนักที่จะมีการเล่าเรื่องกีฬาวอลเล่ย์บอลผ่านทางการ์ตูนอย่างไฮคิว คู่ตบฟ้าประทาน ด้วยความแปลกใหม่และเนื้อเรื่องที่น่าติดตามทำให้ไฮคิวขึ้นทะยานเป็นการ์ตูนในใจของใครหลายคนตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ถูกทำเป็นอนิเมะหลายซีซั่น และยังเป็นทั้งแรงบันดาลใจให้กับใครอีกหลายคนสู้ตามฝัน
ไฮคิว คู่ตบฟ้าประทานเป็นผลงานมังงะจากปลายปากกาของอาจารย์ FURUDATE Haruichi ลงนิตยสารรายสัปดาห์อย่าง Shuukan Shounen Jump ของสำนักพิมพ์ Shueisha ซึ่งปัจจุบันตัวของมังงะได้จบลงเป็นที่เรียบร้อยแล้วในเล่ม 45 ส่วนฉบับภาษาไทยถูกแปลและจำหน่ายโดยสำนักพิมพ์สยามอินเตอร์ ไล่ตามหลังต้นฉบับเพียงแค่สองเล่มเท่านั้น อีกไม่นานนักอ่านชาวไทยก็จะได้เข้าสู่บทสรุปของเรื่องราวเร็ว ๆ นี้
ไฮคิวฉบับอนิเมะได้สตูดิโอ Production I.G ที่เคยมีผลงานมาแล้วอย่าง Guilty Crown และ การ์ตูนกีฬาบาสรุ่นพี่ในนิตยสารเดียวกัน Kuroko no Basket มาช่วยทำการผลิตให้ภายใต้การโปรดิวเซอร์ของ Morihiro Fumi ปัจจุบันอนิเมะไฮคิวมีทั้งหมด 4 ภาคด้วยกัน ภาคแรกฉายเมื่อฤดูใบไม้ผลิปี 2014 จำนวน 25 ตอน ก่อนจะฉายภาคสองในฤดูใบไม้ร่วงปี 2015 จำนวน 25 ตอน ภาคสามที่มีเรทติ้งสูงสุดจำนวน 10 ตอนฉายเมื่อฤดูใบไม้ร่วงปี 2016 จากนั้นเว้นช่วงไปประมาณ 3 ปีก่อนจะกลับมาในภาคสี่ที่ถูกแบ่งออกเป็น 2 พาร์ท โดยพาร์ทแรกฉายเมื่อฤดูหนาวปี 2020 จำนวน 13 ตอน และพาร์ท 2 ฉายเมื่อฤดูใบไม้ร่วงปี 2020 จำนวน 12 ตอน
ตัวละคร
Hinata Shouyou พากย์เสียงโดย คุณ Murase Ayumu
Kageyama Tobio พากย์เสียงโดย คุณ Ishikawa Kaito
Nishinoya Yuu พากย์เสียงโดย คุณ Okamoto Nobuhiko
Tsukishima Kei พากย์เสียงโดย คุณ Uchiyama Kouki
Tanaka Ryuunosuke พากย์เสียงโดย คุณ Hayashi Yuu
Sawamura Daichi พากย์เสียงโดย คุณ Hino Satoshi
Sugawara Koushi พากย์เสียงโดย คุณ Irino Miyu
Azumane Asahi พากย์เสียงโดย คุณ Hosoya Yoshimasa
Shimizu Kiyoko พากย์เสียงโดย คุณ Nazuka Kaori
Takeda Ittetsu พากย์เสียงโดย คุณ Kamiya Hiroshi
Ukai Keishin พากย์เสียงโดย คุณ Tanaka Kazunari (ปัจจุบันเสียชีวิต) และคุณ Egawa Hisao
เรื่องย่อ
สิ่งที่ทำให้ Hinata Shouyou มุ่งมั่นที่จะเล่นวอลเล่ย์บอลนั้นก็คือการที่ได้เห็น “ยักษ์ใหญ่ตัวจิ๋ว” กำลังต่อกรกับเหล่านักกีฬาตัวใหญ่อย่างสง่างามในการถ่ายทอดสดเมื่อครั้งสมัยที่เขายังอยู่ประถม ด้วยความที่เขาเกิดมาเป็นคนตัวเล็กเหมือนกันทำให้ Hinata Shouyou รู้สึกประทับใจและอยากเป็นอย่างยักษ์ใหญ่ตัวจิ๋วคนนั้นให้ได้จึงเริ่มต้นเล่นวอลเล่ย์บอลในช่วงมัธยมต้นตลอดมาจนกระทั่งได้เข้าแข่งรอบคัดเลือกในปีสุดท้ายพร้อมกับสมาชิกที่ไม่ค่อยพร้อมเพียงกันเท่าไหร่ แต่ Hinata Shouyou ไม่เคยถอดใจ เขายังมุ่งมั่นที่จะชนะในการแข่งขันแรกแม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นโรงเรียนชื่อดังและมีดีกรีแชมป์ระดับประเทศมาหลายสมัยก็ตาม
ในการแข่งขันนั้น Hinata Shouyou ได้พบกับ Kageyama Tobio ผู้มีฉายาราชาอันทรงพลัง เขาเป็นนักกีฬาที่เก่งและมีชื่อเสียง แน่นอนว่าการแข่งขันครั้งนั้นทีมของ Hinata แพ้อย่างหมดรูป และทำให้เขารู้สึกว่า Kageyama คือคู่แข่งตัวฉกาจ และหมายมั่นว่าหากพบเจอกันอีกครั้งจะชนะให้จงได้ หลังจากการแข่งขันครั้งนั้น Hinata Shouyou เรียนจบ เขาตัดสินใจที่จะเรียนต่อที่ Karasuno ที่เคยมียักษ์ใหญ่ตัวจิ๋วอยู่ และในขณะที่เขากำลังเดินตามรอยเท้านั้นอย่างมุ่งมั่นก็ได้พบกับใครบางคนที่คาดไม่ถึง นั่นก็คือ Kageyama ที่เข้ามาในโรงเรียนนี้ด้วยเช่นเดียวกัน
ควรค่าแก่การดูหรือไม่ ?
หากเป็นคออนิเมะแนวกีฬาแล้วล่ะก็ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง และเชื่อว่าใครหลายคนอาจจะเห็นผ่านมาตาเรื่องนี้มาแล้วบ้าง สิ่งที่เป็นจุดแข็งของเรื่องคือความเรียล ส่วนตัวคิดว่าความสามารถของตัวละครในเรื่องไม่ได้เวอร์วังเกินจนกลายเป็นกีฬาอภินิหาร แม้บางอย่างอาจจะดูเป็นไปไม่ได้บ้างแต่ไม่ได้ดูขัดใจหรือดูระเบิดพลังสักเท่าไหร่ เป็นการ์ตูนสายกีฬาที่ดูแล้วเพลิน ซ้ำยังมีความมุกตลกแทรกอยู่เป็นระยะ มันคือความกลมกลืนที่ลงตัว เราจะได้เฝ้าติดตามพัฒนาการของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่รักวอลเล่ย์บอลอย่างหมดใจ พร้อมกับทุ่มเทเพื่อฝึกฝนไปยังจุดที่ใฝ่ฝัน อีกทั้งเรื่องนี้ไม่ได้มีความสวยงามทางกลีบกุหลาบเสมอ ยังมีความผิดหวังจนกลายเป็นแรงผลักดันให้ก้าวต่อไป เรียกว่าได้ทั้งความสนุกและสร้างแรงบันดาลใจได้ดีเลยทีเดียว
สรุป
การจะทำอนิเมะภาคต่อสักเรื่องไม่ใช่เรื่องง่าย แน่นอนว่าต้องดูความนิยมเป็นหลัก และไฮคิวก็ทำได้ดีมากทั้ง 4 ซีซั่น ตัวอนิเมะได้เรทติ้งค่อนข้างสูง และแน่นอนว่าภาค 3 ที่เป็นการต่อสู้เพื่อเป็นตัวแทนระดับเขตนั้นเข้มข้น ดุเดือดจนได้เรตติ้งสูงสุดไปครอง โดย IMDb ได้ให้ไว้ที่ 8.7 และเว็บไซต์ Myanimelist ภาคแรกอยู่ที่ 8.48 และภาค 3 ขึ้นไปถึง 8.82 คะแนน แม้กระทั่งภาค 4 พาร์ทแรกที่ยังแอบมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับงานเผาอยู่บ้างยังได้คะแนน 8.36 คิดว่าแม้งานภาพจะดรอปลงแต่เนื้อหายังคงสนุกอยู่ โดยสามารถติดตามตั้งแต่ภาคแรกจนถึงภาคล่าสุดได้ที่ Netflix และ Iqiyi ได้เลยจ้า