ถ้าพูดถึง Ni no kuni แล้วหลายคนจะนึกถึงเกมซีรีส์เกม RPG ที่เคยปรากฏอยู่บนหลายแพลตฟอร์ม แต่เมื่อไม่นานมานี้ทาง Netflix ได้ตัดสินใจลงทุนสร้างอนิเมะออริจินัลขึ้นมาโดยใช้ชื่อเดียวกัน จริงอยู่ที่ทาง Netflix หยิบยกเอา Ni no kuni ที่หลายคนรู้จักมาดัดแปลงเป็นอนิเมะเดอะมูฟวี่ ทว่าเนื้อหาของเรื่องกลับไม่ได้อ้างอิงถึงเนื้อหาในเกมแม้แต่น้อย นั่นหมายความว่าเป็นการเขียนบทขึ้นมาใหม่ทั้งหมดโดยมีตัวเอก 2 ตัวเป็นคนดำเนินเรื่อง ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลว่าถ้าไม่เคยเล่นเกมมาก่อนแล้วจะรู้เรื่องราวภายในเรื่องไหม เพราะไม่มีส่วนใดเกี่ยวข้องกันเลย
Ni no kuni เป็นผลงานการผลิตของสตูดิโอ OLM ที่เป็นเจ้าประจำคอยผลิตเรื่อง Pokemon และ Inazuma Eleven และยังได้ Momose Yoshiyuki จากสตูดิโอ Ghibli ขึ้นแท่นเป็นผู้กำกับ จึงไม่แปลกใจเลยว่างานภาพจะค่อนข้างเหมือนและเป็นสไตล์คล้ายกับงานของ สตูดิโอ Ghibli อยู่ไม่น้อย นอกจากนี้ยังได้ Hino Akihiro เป็นผู้เขียนบทตั้งแต่ต้นจนจบ เรียกว่าเป็นการจับคู่ที่ลงตัวมากเลยทีเดียว Ni no kuni ฉายลงใน Netflix ที่ญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ปี 2019 ก่อนจะเปิดให้ชมใน Netflix ทั่วโลกในวันที่ 16 มกราคม ปี 2020 ที่ผ่าน โดยมีความยาว 1 ชั่วโมง 46 นาที และใช้ชื่อเป็นภาษาไทยว่า นิโนคุนิ ศึกพิภพคู่ขนาน
ตัวละคร
Yuu พากย์เสียงโดย คุณ Yamazaki Kento
Haru พากย์เสียงโดย คุณ Arata Mackenyu
Asha พากย์เสียงโดย คุณ Nakano Mei
Kotona พากย์เสียงโดย คุณ Nakano Mei
เรื่องย่อ
Yuu Haru และ Kotona เป็นเพื่อนสนิทกันมาแต่ไหนแต่ไร Haru กำลังคบกับ Kotona ซึ่ง Yuu ที่แอบชอบแฟนเพื่อนสนิทจำเป็นต้องเก็บความลับเอาไว้ พวกเขาสามคนมักไปไหนด้วยกันเสมอ จนกระทั่งวันหนึ่ง Kotona ได้ถูกชายแปลกหน้าไล่ตามโดยไม่ทราบสาเหตุ เธอโทรหา Yuu เพื่อขอความช่วยเหลือ ทว่าเมื่อไปถึงกลับช้าไปเสียแล้ว Kotona ถูกชายแปลกหน้าใช้มีดสีดำประหลาดแทงเข้าที่ท้อง Yuu และ Haru จึงพยายามช่วยเธอ ในขณะที่ Yuu จะโทรเรียกโรงพยาบาล Haru กลับอุ้มเธอหมายจะไปส่งที่โรงพยาบาลด้วยตนเอง พวกเขาข้ามถนนอย่างอันตราย และในระหว่างนั้นพวกเขาก็ปรากฎตัวอีกทีในโลกแฟนตาซีที่ไม่รู้จัก
ท่ามกลางความสับสนงุนงง พวกเขายอมรับว่านี่คือต่างโลกอย่างไม่ต้องสงสัย จึงคิดออกตามหา Kotona ที่หายไป แต่เมื่อไปสืบข่าวที่ร้านเหล้ากลับพบว่าเจ้าหญิง Asha แห่งดินแดนนี้ใบหน้าเหมือนกับ Kotona เหลือเกิน เด็กหนุ่มสองคนจึงหาวิธีเข้าไปในปราสาทจนกระทั่งถึงห้องบรรทมของเจ้าหญิง Asha และพบว่าเธอถูกมีดสีดำลึกลับเล่มเดียวกับที่แทง Kotona ปักอยู่ Yuu จึงพยายามช่วยดึงมีดเล่มนั้นออกมาเพื่อช่วยเด็กสาวจนเอาออกได้สำเร็จ คำสาปหายไป เจ้าหญิงตื่นขึ้นมา แต่ทว่าเธอคือเจ้าหญิง Asha ไม่ใช่ Kotona ที่พวกเขาตามหากันอยู่
แม้จะช่วยเจ้าหญิงได้สำเร็จ แต่เด็กหนุ่มทั้งสองยังถูกสงสัยว่าอาจเป็นนักฆ่าเพื่อมาปลงพระชนม์ของราชา ในขณะที่พวกเขากำลังจะถูกจับขัง Yuu จึงได้ชวน Haru กลับยังโลกปัจจุบัน และเมื่อพวกเขากลับไปแล้วพบว่า Kotona ที่ควรถูกมีดแทงนั้นกลับมีสุขภาพแข็งแรงดี ร่าเริงแจ่มใส วิ่งเล่นได้ปกติ แต่หลังจากนั้นไม่นานเธอกลับทรุดตัวลงกะทันหันโดยเป็นโรคเนื้องอกร้าย ทำให้ Yuu เข้าใจได้ว่าตอนนี้น่าจะมีอันตรายกับเจ้าหญิง Asha ที่อีกโลกหนึ่งเพราะชีวิตของทั้งคู่อาจเชื่อมโยงกันในโลกคู่ขนานนี้ แต่ทว่า Haru กลับไม่เชื่อ เขามองว่านั่นคือความฝัน และคิดว่าการที่เจ้าหญิง Asha ยังมีชีวิตอยู่เป็นเพราะได้ช่วงชิงชีวิตของ Kotona แฟนสาวของเขาไป จึงหมายที่จะกลับไปโลกนั้นเพื่อสังหารเธอซะ
ควรค่าแก่การดูหรือไม่ ?
สำหรับใครที่เป็นแฟน ๆ ของ สตูดิโอ Ghibli อยู่ก่อนแล้วเรื่องนี้อาจจะทำให้ช่วยให้คลายคิดถึงลงบ้าง นอกจากลายเส้นงานภาพจะเป็น Ghibli จ๋าแล้ว เพลงประกอบยังได้ทีมงานของ Ghibli มาคอยดูแลให้อีกด้วย เรียกว่าเอาใจแฟนคลับทั้งขึ้นทั้งล่อง ในส่วนของเนื้อหา ส่วนตัวคิดว่าดูเป็นสูตรสำเร็จมากเกินไป เดาทางได้ง่าย และไม่ค่อยมีอะไรให้ลุ้นมากนัก อีกทั้งปมปัญหาแต่ละปมก็ดูไม่ได้รู้สึกปวดตับหรืออิ่มเอมใจแต่อย่างใด งานภาพบางจุดใช้เทคนิค 3D ทำให้ดูไม่ค่อยเข้ากัน เลยออกมาอิหลักอิเหลื่ออย่างไรชอบกล บวกกับเสียงพากย์ที่ใช้นักแสดงชื่อดังอย่าง Yamazaki Kento กับ Arata Mackenyu และ Nakano Mei ฟังดูไม่ค่อยลื่นไหลเท่าไหร่นัก แต่ก็ไม่ได้แย่จนรู้สึกติดขัดมาก
สิ่งที่ชอบในเรื่องนั้นคือปมของ Yuu ที่เป็นเด็กพิการนั่งวีลแชร์มาตั้งแต่เกิด พอหลุดไปอีกโลกหนึ่งร่างกายที่เคยมีปัญหากลับหายเป็นปลิดทิ้ง เลยมองว่าเป็นการสร้างเสริมจินตนาการและสร้างกำลังใจให้กับเด็กพิการทั่วไปที่อยากจะฝันให้ตนหายดีได้แบบนั้น และเนื้อเรื่องค่อนข้างเข้าถึงง่าย เหมาะสำหรับเด็ก ๆ มากเลยทีเดียว
สรุป
เสียดายที่ได้ทีมงานจาก สตูดิโอ Ghibli มาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง แต่เหมือนจะไปได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก คะแนนที่ได้ใน IMDb ได้ไปเพียง 6.1 และเว็บไซต์ Myanimelist ได้ไปเพียง 6.4 คะแนนเท่านั้น อาจเป็นเพราะเรื่องราวที่ดูเป็นสูตรสำเร็จมากเกินไป และการเปิดตัวบอสใหญ่ไม่ค่อยสร้างอิมแพ็คให้เท่าที่ควรเลยทำให้ผู้ชมไม่ค่อยประทับใจนัก ซึ่งปัจจุบันรสนิยมการดูอนิเมะนั้นได้เปลี่ยนไปมาก และแนวต่างโลกค่อนข้างเยอะ มีการแข่งขันกันสูง จึงคิดว่าถ้าหากจะเล่นแนวนี้ควรจะสร้างเนื้อเรื่องที่น่าสนใจมากกว่านี้น่าจะดีกว่า