มีบ่อยครั้งที่คนทำอนิเมะได้ใช้การ์ตูนมาเป็นสื่อกลางในการชักชวนให้ผู้ชมออกกำลังกาย และครั้งนี้เองก็เช่นกัน แต่มีความเป็นอนิเมะมากกว่าเรื่องก่อน ๆ หน้านี้ เพราะมีเรื่องราว สตอรี่ มีกิมมิก และสอดแทรกความตลกเข้ามาเพื่อให้ดูได้ง่ายมากขึ้น บวกกับเพลงเปิดที่ติดหูมาก ต่อให้ไม่ได้ดูเรื่องนี้ยังคุ้นกับเพลง Onegai Muscle จึงทำให้ Dumbbell Nan Kilo Moteru กลายเป็นอนิเมะที่ประสบความสำเร็จทั้งด้านการตลาดในแง่ของการ์ตูนและการออกกำลังกาย เข้าถึงได้ทุกเพศทุกวัยอย่างงดงามเลยทีเดียว
Dumbbell Nan Kilo Moteru เป็นผลงานมังงะจากปลายปากกาของอาจารย์ SANDROVICH Yabako วาดภาพโดยอาจารย์ Maam ตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Ura Sunday ของสำนักพิมพ์ Shogakukan ส่วนฉบับภาษาไทยนั้นแปลและจัดจำหน่ายโดยสำนักพิมพ์สยามอินเตอร์คอมมิกภายใต้ชื่อภาษาไทยว่า แก๊งสาวป่วน ก๊วนฟิตเนส ถูกดัดแปลงเป็นอนิเมโดยสตูดิโอ Doga Kobo ที่สร้างผลงานการ์ตูนแก๊กอย่าง Himouto! Umaru-chan และ Gekkan Shoujo Nozaki-kun กำกับโดย Yamazaki Mitsue ฉายตอนแรกเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม ปี 2019 จำนวนทั้งสิ้น 12 ตอนด้วยกัน
ตัวละคร
Sakura Hibiki พากย์เสียงโดย คุณ Fairouz Ai
Souryuuin Akemi พากย์เสียงโดย คุณ Amamiya Sora
Machio Naruzou พากย์เสียงโดย คุณ Ishikawa Kaito
เรื่องย่อ
Sakura Hibiki เด็กสาวผู้ชื่นชอบในการกิน เธอกินทุกอย่างที่อยากกิน กินแบบไม่นับแคลลอรีที่เข้าปากเลยสักนิด กินจนกระทั่งวันหนึ่งเพื่อนสนิทได้ทักว่า “นี่เธออ้วนขึ้นอีกแล้วเหรอ” เล่นทำเอา Sakura Hibiki ถึงกับช็อคไปเลย จึงทำให้เธอตัดสินใจที่จะลดน้ำหนัก แต่การลดน้ำหนักด้วยตนเองมันออกจะยากไปสักหน่อย จึงยอมเสียเงินเข้ายิมใกล้บ้าน ซึ่งเป็นยิมเปิดใหม่และน่าสนใจ แม้คิดว่าจะออกกำลังกายเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้พอลดน้ำหนักได้ กลับมาหุ่นแบบเดิม แต่ทันทีที่ย่างก้าวเข้ายิมนั้นกิจวัตรของ Sakura Hibiki ก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เธอกำลังก้าวเข้าสู่เส้นทางของการเล่นเวทเต็มพิกัดที่มีแต่กล้าม กล้าม แล้วก็กล้าม
Sakura Hibiki ได้พบกับ Souryuuin Akemi เพื่อนร่วมชั้นที่โรงเรียนเดียวกัน ภายนอกของ Souryuuin Akemi ดูเป็นคุณหนูเรียบร้อย แต่ตัวจริงของเธอกลับบ้ากล้ามเอามาก ๆ ตัดสินคนด้วยกล้ามล้วน ๆ แบบไม่มีเจือปน วันแรกของการทัวร์ยิมเล่นทำเอา Sakura Hibiki ถึงกับลังเล แต่ทว่าทันทีที่ได้เจอกับเทรนเนอร์หน้าตาหล่อเหลาอย่าง Machio Naruzou เข้าไปนั้น Sakura Hibiki ถึงกับยอมตกลงสมัครสมาชิกยิมแห่งนี้โดยทันที หรือพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือบ้าผู้ชายนั่นแหละ และแท้ที่จริงแล้ว Machio Naruzou ที่เธอปลื้มนั้นก็บ้ากล้ามไม่ต่างกับ Akemi เลยสักนิด แต่ในเมื่อสมัครสมาชิกเสียเงินไปแล้ว Hibiki ก็ไม่สามารถหันหลังกลับได้อีกต่อไป
ควรค่าแก่การดูหรือไม่ ?
เอาจริง ๆ ก็เป็นอนิเมะเบาสมองเรื่องหนึ่งที่สอดแทรกเรื่องราวความรู้เกี่ยวกับการออกกำลังกาย ซึ่งถ้าใครกำลังมองหาข้อมูลเกี่ยวกับกล้ามเนื้อและการออกกำลังกายแบบย่อยง่ายแล้วล่ะก็ขอแนะนำให้ดูเรื่องนี้ เพราะนอกจากจะไม่วิชาการมากจนเกินไปแล้วยังเพลิดเพลินไปกับเรื่องราวของตัวละครอีกด้วย แม้จะไม่ได้มีปมลึกล้ำอะไรมากก็สมกับเป็นอนิเมะเชิญชวนให้คนเล่นเวทอยู่เหมือนกัน แต่ถ้าจะหาความจริงจังประหนึ่งสารานุกรมแล้วเรื่องนี้ก็ไม่มีให้ นอกจากความสนุกแนว Slice of life ของสาว ๆ ที่ชื่นชอบในการออกกำลังกาย ซึ่งในตอนท้ายของแต่ละตอนก็จะมีท่าออกกำลังกายเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อบริหารกล้ามเนื้อแต่ละส่วนไปเพิ่มเติม
นอกจากการออกกำลังกายแล้วเราจะยังได้ความรู้เกี่ยวกับโภชนาการมากขึ้น โดยเฉพาะอาหารที่ Hibiki กินอยู่ตลอดทั้งเรื่อง ตอนแรกนี่เธอซัดไปกี่แคลลอรีแล้วก็ยากที่จะนับ ซ้ำยังจะมาบ่นอีกว่าทำไมถึงอ้วนขึ้น รวมไปถึงการดื่มเวย์โปรตีนเสริมสร้างกล้ามเนื้อระหว่างการเล่นเวทที่ Akemi ชอบดื่มและขายตรง
ในแง่ของงานภาพ ด้วยความเป็นการ์ตูนกึ่งแก๊กกึ่งความรู้ ที่ไม่ได้จริงจังซิเรียสมาก ดังนั้นงานภาพจึงไม่ใช่ความสำคัญเลย แต่งานภาพก็ไม่ได้ดูแย่หรือเผาแต่อย่างใด ดูได้เรื่อย ๆ สบายตา ด้วยความที่เป็นการออกกำลังกายเลยจะมีการลักไก่ใช้ภาพซ้ำด้วยท่าเดิม ๆ อยู่บ้าง ดังนั้นอนิเมะเรื่องนี้จึงไม่เหมาะในการมองว่าเป็นงานศิลปะซะทีเดียว เชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ดูแล้วจะชุ่มชื่นหัวใจและได้แรงบันดาลใจในการออกกำลังกายมาเพิ่มขึ้น เหมือนมีเพื่อนมาช่วยออก พร้อมทั้งยังได้เกร็ดความรู้เกี่ยวกับการเสริมสร้างกล้ามเนื้อด้วยการเล่นเวทเพิ่มเติมอีกด้วย อย่างที่รู้กันว่าจะการลดน้ำหนักที่ดีคือการเพิ่มกล้ามเนื้อให้ร่างกายมีระบบเผาผลาญที่มากพอนั่นเอง
สรุป
ทั้งที่เรื่องก็ไม่ได้มีเนื้อหาอะไรมาก แต่กลับได้คะแนนดีเกินคาดทั้งในเว็บไซต์ Myanimelist และ IMDb โดย Myanimelist ให้คะแนนเรื่องนี้อยู่ที่ 7.28 และ IMDb ได้ไปที่ 7.0 คะแนน ซึ่งได้ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับการ์ตูนแนวเดียวกัน อาจเป็นเพราะได้ความรู้เรื่องการออกกำลังกายเพิ่มเติมด้วย หรือเพราะเพลงเปิดที่ค่อนข้างจะติดหูจนเอาไปทำเป็นมีมต่าง ๆ มีคน Cover ร้องมากมายนั้นอาจเป็นอีกหนึ่งกลไกการตลาดที่ทำให้มองอนิเมะเรื่องนี้ในแง่บวกขึ้นมามากขึ้น เป็นเรื่องที่เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูเพลิน ใครที่อยากลองติดตามสามารถหารับชมได้ที่ Netflix กันได้เลย