เมื่อพูดถึง Studio Ghibli เราจะนึกถึงอนิเมะที่เป็นตำนานอยู่หลายเรื่อง ล้วนแล้วแต่สร้างด้วยเทคนิคของ 2D เป็นหลัก ดังนั้นเมื่อเห็นว่า Studio Ghibli ได้หยิบจับอนิเมะ 3D แล้วนั้นล้วนแต่รู้สึกแปลกใจอยู่ไม่น้อย นับว่าเป็นการท้าทายสำหรับแฟน ๆ จิบลิเป็นอย่างมาก แน่นอนว่าขึ้นชื่อ Studio Ghibli ทุกคนต่างคาดหวังเรื่องราวสุดแสนประทับใจผ่านการ์ตูนอีกเช่นเคย และครั้งนี้ถึงคิวของแม่มดสาวหางหนีบ อย่างเรื่อง Earwig and the witch หรือ Aya to Majo นั่นเอง เป็นเรื่องราวของเด็กหญิงสุดแสนแก่นเซี้ยวและการตื่นรู้เวทมนตร์ของเธอ รับประกันเลยว่าเรื่องนี้จะทำให้ผู้ชมได้อมยิ้มตามไปกับความซนแสนน่ารักของแม่มดน้อย Aya กันอย่างแน่นอน
Earwig and the witch หรือ Aya to Majo เป็นอนิเมะที่มีต้นฉบับมาจากนิยายจากปลายปากกาของ Diana Wynne Jones เป็นวรรณกรรมเยาวชนที่ถูกพูดถึงเป็นวงกว้างอย่างมากในชื่อเรื่องเดียวกัน ก่อนจะถูก Studio Ghibli นำไปดัดแปลงเป็นอนิเมะ 3D ภายใต้การกำกับของ Miyazaki Gorou โดยมี Suzuki Toshio และ Morishita Kentarou เป็น Producer และออกแบบตัวละครโดย Kondou Katsuya ฉายวันแรกเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม ปี 2020 ความยาว 1 ชั่วโมงกับอีก 22 นาที ซึ่งสามารถหารับชมได้ที่ Netflix ทั้งแบบพากย์ไทย ญี่ปุ่น และจีนกลาง แต่ก็ชวนงงเล็กน้อยเมื่อในแอพ Netflix กลับฉายตัวอย่างให้เห็นเป็นพากย์ภาษาอังกฤษซะนี่
ตัวละคร
Aya พากย์เสียงโดย คุณ Hirasawa Kokoro
Yaga Bella พากย์เสียงโดย คุณ Terashima Shinobu
Mandrake พากย์เสียงโดย คุณ Toyokawa Etsushi
Thomas พากย์เสียงโดย คุณ Hamada Gaku
เรื่องย่อ
Aya ถูกมาทิ้งไว้หน้าบ้านเด็กกำพร้าตั้งแต่ยังเล็ก เธอเติบโตมาเป็นเด็กฉลาดและซุกซน มักเป็นหัวโจกให้กับเพื่อน ๆ ในบ้านเด็กกำพร้าด้วยกันเสมอ และรู้จักเอาอกเอาใจผู้ใหญ่ ทำตัวน่ารัก อยู่เป็น จนกลายเป็นที่รักของทุกคนในบ้านอันดับหนึ่ง ไม่ว่าใครต่างก็ฟังเสียงคำขอร้องของเธออย่างไม่มีข้อแม้ จนทำให้ Aya มั่นใจว่าตนเองสามารถควบคุมทุกคนในบ้านเด็กกำพร้าแห่งนี้ได้อย่างไม่มีข้อสงสัย แต่สิ่งเดียวที่เธอไม่อยากให้เกิดขึ้นมากที่สุดนั่นก็คือการถูกรับไปเลี้ยงดู แม้ว่าจะไม่ได้ตั้งใจนัก แต่เธอก็เหมือนจะถูกสองสามีภรรยาที่ดูแปลก ๆ คู่หนึ่งรับไปเลี้ยง และเหมือนผู้เป็นสามีจะค่อย ๆ สูงจนสามารถทะลุกำแพงออกมาได้แต่ไม่มีใครสังเกตเห็น ชีวิตใหม่ของ Aya ก็ได้เริ่มต้นขึ้น
ผู้ที่รับ Aya มาเลี้ยงดูคือ แม่มด Yaga Bella เธอได้พูดอย่างตรงไปตรงมาอย่างไม่อ้อมค้อมว่าต้องการให้ Aya มาเป็นผู้ช่วย ซึ่ง Aya ตกลงรับคำแต่โดยดี เพื่อแลกกับการที่คุณป้าแม่มดจะต้องสอนเวทมนตร์แก่เธอด้วย หลังจากถูกใช้งานอย่างสาหัสสากรรจ์ แต่ Aya ก็ไม่ได้รับการสั่งสอนเวทมนตร์จาก Yaga Bella แม้แต่น้อย วัน ๆ เธอมักรับออเดอร์จากลูกค้า พร้อมกับทำน้ำยาสารพัดที่จะทำให้ลูกค้าสมปรารถนา แม้จะตำราที่เก็บไว้ในห้องปรุงยาแต่ก็เหมือนจะไม่มีสิ่งที่ Aya ต้องการ และแม้จะพยายามหาทางหนีออกจากบ้านแต่เหมือนตอนกลางคืนโครงสร้างภายในบ้านกลับเปลี่ยนไป ประตูบ้านนึงที่เคยมีกลับหาย นั่นทำให้เธอไม่สามารถหนีได้ดั่งใจนึก
Aya ใช้ชีวิตในแต่ละวันด้วยความไม่เป็นธรรม เธอต้องการเรียนรู้เวทมนตร์ และต้องการเอาคืนแม่มดที่จิกหัวใช้เธอเยี่ยงทาสดูสักครั้ง และนอกจากแม่มดที่ไม่รักษาสัญญาแล้ว ยังมีคุณลุง Mandrake หน้าตาไม่เป็นมิตรที่พร้อมระเบิดอารมณ์ตลอดเวลาหากมีอะไรไม่ถูกใจ ดูในบ้าน Thomas แมวดำน่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตคล้ายเพื่อนเพียงหนึ่งเดียวของเธอ และด้วยสถานการณ์บีบบังคับทำให้ Aya จำเป็นต้องหาทางให้ตัวเองกลับมาสามารถควบคุมคนในบ้านเหมือนที่อยู่บ้านเด็กกำพร้าให้ได้
ควรค่าแก่การดูหรือไม่ ?
บอกตามตรงว่าแอบคาดหวังเรื่องนี้ไว้ค่อนข้างสูงมาก แต่ทว่ากลับออกมาไม่ได้ดั่งที่ใจหวังเท่าไหร่นัก เรื่องตัวงานภาพสี ดนตรีไม่มีปัญหา แต่การเดินเรื่องกลับทำให้ชวนเอียงคอสงสัยไม่น้อย เพราะเริ่มต้นเรื่องเป็นแม่มดผมแดงคนหนึ่งที่กำลังหนีจากการไล่ล่าจนต้องเอาลูกน้อยของเธอไปไว้ในสถานที่เลี้ยงเด็กกำพร้าโดยบอกว่าจะกลับมารับหลังจากหนีจากการไล่ล่าได้สำเร็จ แต่ทว่าจนแล้วจนรอด จนจบเรื่องเราจะไม่ได้เห็นแม่มดที่เหมือนเป็นแม่ของ Aya เลยจนกระทั่งจนจบ และปมบ้านที่อุปการะ Aya อาศัยอยู่ด้วยนั้นมีความเกี่ยวข้องกับแม่ของเธออย่างไร หรือเหตุใดทำไมถึงโดนไล่ล่า มีจุดและปมหลายอย่างที่ชวนสงสัยและไม่เคลียร์ กลายเป็นเรื่องโฟกัสไปที่วัน ๆ ของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องการเรียนรู้เวทมนตร์และเอาชนะป้าใจร้ายนั่นเสียมากกว่า
ในส่วนเรื่องงานภาพ ถือว่าจิบลิทำออกมาได้ดีถึงดีมากที่สุด งานเนี้ยบ โมชั่นตัวละครรวมไปถึงเพลงประกอบเพราะและดีงาม ถ้าไม่ได้ติดตรงเนื้อเรื่องถือว่าเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ดูได้อย่างสบาย ๆ แบบไม่คิดอะไร ซึ่งโดยรวมเอาจริง ๆ เป็นเรื่องที่สนุกมากอีกเรื่องหนึ่ง แต่หากลองคิดย้อนเรื่องเนื้อหาและปมนำเสนอก็จะมีจุดที่น่าเอะใจอยู่หลายจุดเหมือนกัน
สรุป
อาจเพราะความเคลียร์ไม่สุดสักปมทำให้เรื่องนี้คะแนนไม่ค่อยดีเท่าไหร่นักทั้งที่ขึ้นชื่อว่าจิบลิย่อมต้องได้คะแนนอย่างท่วมทัน เว็บไซต์ Myanimelist ให้คะแนนเรื่องนี้อยู่ที่ 5.59 และ IMDb 4.8 คะแนนเท่านั้น หากมองผิวเผินดูเฉพาะงานภาพคงดูค้านสายตา แต่เมื่อลองเสพเนื้อเรื่องจริง ๆ แล้วก็ต้องพบว่าคะแนนที่ได้นั้นไม่ได้กล่าวโอเวอร์เกินจริงเลย