โดราเอมอนเดอะมูฟวี่ตัวนี้เป็นตอนที่ 40 ฉลองครบรอบ 50 ปีของโดราเอมอน ซึ่งก่อนหน้านี้เราอาจจะเคยดูตอนที่ 26 ไดโนเสาร์ของโนบิตะไปแล้ว แต่ทาง Shin-Ei Animation บอกว่าตอนที่ 40 นี้จะเป็นโลกคู่ขนานของตอนที่ 26 ดังนั้นแม้จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับไดโนเสาร์แต่เนื้อหาจะเปลี่ยนไป พร้อมกับดินแดนผจญภัยแห่งใหม่ โนบิตะและพรรคพวกจะพาเราย้อนกลับไปสู่ยุคครีเทเชียสซึ่งอยู่ห่างจากยุคปัจจุบันไปถึง 66 ล้านปี
โดราเอมอน เดอะมูฟวี่ ตอน ไดโนเสาร์ตัวใหม่ของโนบิตะ เป็นผลงานของสตูดิโอ Shin-Ei Animation เจ้าเก่าเจ้าเดิมที่เคยสร้างโดราเอมอนมาตั้งแต่ปี 1979 จนถึงปัจจุบัน แน่นอนว่าพวกเขารู้จักกับโนบิตะและผองเพื่อนดีกว่าใคร ซึ่งครบรอบ 50 ปีนี้ ทาง Shin-Ei Animation ก็ได้ปล่อย Stand By Me Doraemon 2 ออกมาควบคู่กันไปด้วย งานนี้ได้ผู้กำกับมากความสามารถอย่าง Imai Kazuaki และคนเขียนบทที่เคยสร้างปรากฎการณ์อนิเมะแห่งวงการญี่ปุ่นในเรื่อง Kimi no nawa หรือ หลับตาฝันถึงชื่อเธอ อย่าง Kawamura Genki มาร่วมจับมือกันสรรค์สร้างผลงานมูฟวี่ตอนที่ 40 นี้ ความยาวของเรื่องประมาณ 1 ชั่วโมง 50 นาที แต่ขอบอกเลยว่าเกือบสองชั่วโมงนี้ช่างผ่านไปไวเสียเหลือเกิน !
ตัวละคร
โดราเอมอน พากย์เสียงภาษาญี่ปุ่นโดย คุณ Mizuta Wasabi และพากย์เสียงภาษาไทยโดย คุณ ฉันทนา ธาราจันทร์
โนบิตะ พากย์เสียงภาษาญี่ปุ่นโดย คุณ Ohara Megumi และพากย์เสียงภาษาไทยโดย คุณ ศันสนีย์ วัฒนานุกูล
ชิซุกะ พากย์เสียงภาษาญี่ปุ่นโดย คุณ Kakazu Yumi และพากย์เสียงภาษาไทยโดย คุณ ศรีอาภา เรือนนาค
ไจแอนท์ พากย์เสียงภาษาญี่ปุ่นโดย คุณ Kimura Subaru และพากย์เสียงภาษาไทยโดย คุณ นิรันดร์ บุญยรัตพันธุ์
ซึเนโอะ พากย์เสียงภาษาญี่ปุ่นโดย คุณ Seki Tomokazu และพากย์เสียงภาษาไทยโดย คุณ อรุณี นันทิวาส
มิว (ชมพู) พากย์เสียงภาษาญี่ปุ่นโดย คุณ Kugimiya Rie และพากย์เสียงภาษาไทยโดย คุณ พนาวรรณ ศรีวะโลสกุล
คิว (เขียว) พากย์เสียงภาษาญี่ปุ่นโดย คุณ Endo Aya และพากย์เสียงภาษาไทยโดย คุณ ศรีอาภา เรือนนาค
เรื่องย่อ
โนบิตะและเพื่อน ๆ กำลังชมนิทรรศการเกี่ยวกับไดโนเสาร์ ระหว่างที่ทดลองการขุดฟอสซิลโนบิตะได้ให้คำมั่นกับเพื่อน ๆ ว่าจะค้นพบไดโนเสาร์ตัวเป็น ๆ ให้ได้ ถ้าไม่อย่างนั้นจะยอมกัดถั่วด้วยตา ทำเอาทั้งไจแอนท์และซึเนโอะต่างพากันหัวเราะเยาะเพราะไดโนเสาร์นั้นได้สูญพันธุ์ไปนานแล้ว ขณะที่โนบิตะกำลังหัวฟัดหัวเหวี่ยงเขาได้สะดุดเข้ากับก้อนหินก้อนหนึ่งซึ่งเขามั่นใจว่านี่คือฟอสซิลไข่ไดโนเสาร์อย่างแน่นอนจึงรีบอุ้มกลับบ้านแล้วเกลี้ยกล่อมให้โดราเอมอนยืมผ้าห่อเวลาเพื่อที่จะทดลองว่าใช่ไข่ของไดโนเสาร์จริงหรือไม่
และผ่านไปเป็นเวลาหนึ่งคืน ไข่ฟอสซิลได้ฟักเป็นลูกไดโนเสาร์ออกมาสองตัว โดยเขาตั้งชื่อให้ว่า คิว และมิว ทั้งคู่เป็นไดโนเสาร์ที่ไม่เคยมีการค้นพบมาก่อน โดราเอมอนเองก็ค้นหาในสารานุกรมโลกก็ไม่พบ จึงแน่ใจได้แล้วว่านี่เป็นไดโนเสาร์พันธุ์ใหม่ โนบิตะจึงตั้งชื่อเผ่าพันธุ์ให้คิวและมิวว่า โนบิซอรัส ! เพราะเขาคือผู้ค้นพบมันนั่นเอง
แม้จะเป็นไดโนเสาร์พันธุ์เดียวกันและเกิดจากไข่ใบเดียวกัน แต่การเติบโตของทั้งคู่กลับไม่ได้เหมือนกัน มิวกลายเป็นไดโนเสาร์ที่บินได้เร็วกว่า ในขณะที่คิวกลับตัวเล็กและหางสั้น เขาไม่ค่อยมีความกล้าหาญเหมือนมิวเท่าไหร่นัก และยังไม่พร้อมที่จะบิน และระหว่างนั้นไดโนเสาร์ทั้งสองก็ค่อยเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จนห้องนอนของโนบิตะไม่เพียงพอที่จะเลี้ยงมันต่อไป โดราเอมอนจึงย้ายพวกมันไปอยู่ในชุดเลี้ยงสัตว์สามมิติ พร้อมกับไฟฉายย่อส่วน แต่นั่นก็เป็นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น
จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อคิวและมิวเติบโต โดราเอมอนจำเป็นต้องเตือนโนบิตะว่าพวกเขาไม่อาจเลี้ยงไดโนเสาร์ได้ตลอดไป และพวกเขาเกือบจะโดนแม่จับได้ นอกจากนั้นเพื่อนบ้านยังเห็นไดโนเสาร์ของพวกเขาแล้วด้วย จึงทำให้โนบิตะตัดสินใจที่จะพาคิวและมิวกลับไปยังที่ ๆ จากมา นั่นคือยุคครีเทเชียส และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการผจญภัยของโนบิตะและผองเพื่อนเพื่อส่งคิวและมิวกลับบ้าน
คุ้มค่าแก่การดูหรือไม่ ?
บอกเลยว่าคุ้มมาก ใครที่ตั้งหน้าตั้งตารอเดอะมูฟวี่ของโดราเอมอนรับรองไม่ผิดหวัง นอกจากเนื้อเรื่องที่อัดแน่นไปด้วยการผจญภัยแล้วยังได้เพลิดเพลินไปกับอุปกรณ์ของเล่นต่าง ๆ ที่โดราเอมอนขนออกมาจากกระเป๋า เป็นอีกเสน่ห์หนึ่งที่ทำให้โดราเอมอนเป็นการ์ตูนยอดนิยมจนถึงปัจจุบัน ตอนนี้เราจะได้เห็นการพัฒนาของตัวละครอย่างโนบิตะ เมื่อต้องมาเป็นผู้รับผิดชอบสิ่งมีชีวิตที่เขาฟูมฟักมาเขาจะมีการตัดสินใจที่เติบโตขึ้นหรือไม่ ภาพกราฟฟิกสวย ๆ งานแอนิเมชันอย่างเนี้ยบ อีกทั้งยังได้รู้จักหน้าตาของไดโนเสาร์ในแถบประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย สำหรับน้อง ๆ หนู ๆ ที่ชื่นชอบไดโนเสาร์เป็นพิเศษคงจะสนุกและอินตามไปด้วยอย่างแน่นอน
สรุป
ขึ้นชื่อว่าโดราเอมอน คะแนนไม่เคยแผ่วอยู่แล้ว เว็บไซต์ Myanimelist ได้โหวตให้คะแนนตอนนี้มากถึง 7.33 ในขณะที่ IMDb อยู่ที่ 7.4 คะแนนเลยทีเดียว ทางบ้านเราเองก็ได้นำมาฉายโดยบริษัท เอ็ม พิคเจอร์ ไปเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2020 ที่ผ่านมา ตอนนี้ได้ถูกนำมาลงในหลายแพลทฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็น Netflix, Line TV และ AIS PLAY มีทั้งพากย์ญี่ปุ่นซับไทย และพากย์ไทย ใครมีอันไหนสามารถตามไปดูได้เลยจ้า
เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> สล็อตแตกง่าย