จากสาวออฟฟิศธรรมดา กลายเป็นผู้เลี้ยงไปมังกรไปซะอย่างนั้น ใน น้องเมดมังกรของคุณโคบายาชิ

พูดถึงวงการอนิเมะมีไม่น้อยที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับมังกร สัตว์วิเศษในตำนาน ที่มาพร้อมกับพลังเวทมนตร์นานาจิตตัง แต่ใครกันจะคิดว่ามังกรสิ่งทีชีวิตชั้นสูงกลับกลายมาเป็นสาวเมดไปซะอย่างนั้น ใครที่เห็นอาจไม่เชื่อสายตา มังกรที่เย่อหยิ่ง มังกรที่ไม่นึกอยากสุงสิงกับมนุษย์ แต่อย่างไรก็ตาม โลกอนิเมะสามารถทำเรื่องเหล่านั้นได้แค่เพียงปลายนิ้วเล่าเรื่องราว ดังเช่นเรื่องของ Kobayashi ที่จำต้องยอมรับมังกรสาว Tooru มาเป็นเมดข้างกาย และเรื่องราวมันไม่ได้จบแค่นั้นเมื่อ Tooru และผองเพื่อนต่างผลัดกันมาปรากฎตัวสร้างความบันเทิงและความวุ่นวายอย่างไม่หยุดหย่อน

Kobayashi-san Chi no Maid Dragon หรือ น้องเมดมังกรของคุณโคบายาชิ เป็นผลงานมังงะของอาจารย์ COOL Kyoushinsha ตีพิมมพ์ในนิตยสารรายสัปดาห์ Gekkan Action ของสำนักพิมพ์ Futabasha ปัจจุบันออกมาแล้ว 12 เล่มยังไม่จบ แต่เนื้อหาอนิเมะก็ปาไปไปแล้ว 24 ตอน ฉบับภาษาไทยแปลและจัดจำหน่ายโดยสำนักพิมพ์ Zenshu ส่วนเวอร์ชั่นอนิเมะ ดัดแปลงโดยสตูดิโอ Kyoto Animation ที่เราคุ้นเคยกันอย่างดีที่เคยมีผลงานมาแล้วอย่าง Koe no Katachi และ Violet Evergarden ภายใต้การกำกับของ Takemoto Yasuhiro ฉายตอนแรกเมื่อวันที่ 12 มกราคม ปี 2017 จำนวนตอนทั้งหมด 24 ตอน โดยแบ่งออกเป็น 2 ภาค ซึ่งภาค S เพิ่งฉายจบไปเมื่อปี 2021 ที่ผ่านมานั่นเอง 

ตัวละคร 

Kobayashi พากย์เสียงโดยคุณ Tamura Mutsumi

Tooru พากย์เสียงโดยคุณ Kuwahara Yuuki

Kamui Kanna พากย์เสียงโดยคุณ Naganawa Maria

Quetzalcoatl พากย์เสียงโดยคุณ Takahashi Minami

Elma พากย์เสียงโดยคุณ Takada Yuuki

Fafnir พากย์เสียงโดยคุณ Ono Daisuke 

เรื่องย่อ 

หลังจากดื่มอย่างจัดหนักจัดเต็ม Kobayashi ก็กลับบ้านมาในสภาพที่เมาแอ๋ เธอหลับไปไม่รู้เรื่องจนกระทั่งเช้าวันใหม่ ในขณะที่กำลังเตรียมออกไปทำงานเหมือนเช่นเคยนั้น ทันทีที่เปิดประตูห้องก็พบเรื่องราวสุดแสนแฟนตาซีซะอย่างนั้น ใบหน้าของสิ่งมีชีวิตของมังกรเต็มบานประตู ก่อนจะค่อย ๆ กลายร่างเป็นหญิงสาวในชุดเมดน่ารักชื่อว่า Tooru โดยเธอตั้งใจจะมาอาศัยอยู่ด้วยกับ Kobayashi หลังจากที่ถูกชวนมาเมื่อคืน จนทำให้ Kobayashi ต้องนึกย้อนความว่าตนไปรับปากหรือยอมให้มังกรมาอาศัยอยู่ร่วมกับตนตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ? 

ไม่นานนัก Kobayashi ก็สามารถจดจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมด แต่นั่นเป็นเพราะตนเมาขาดสติจึงปฏิเสธมังกรสาวไปเสียดื้อ ๆ เรื่องอะไรที่ทำไม่ได้ก็ไม่อยากฝืน ทว่าในขณะที่ Tooru กำลังจะเปิดประตูกลับไปนั้น แม้จะเห็นน้ำตาของมังกรสาวแล้วรู้สึกผิดอยู่ก็ตามที แต่สิ่งที่ทำให้ Kobayashi ต้องกลับคำนั่นก็คือเธอกำลังจะไปงานสายแล้ว ! จึงรบกวน Tooru ให้บินไปส่งเธอที่ออฟฟิศ และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการอาศัยอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์และมังกรนั่นเอง 

แม้จะบอกว่าตั้งใจเพื่อเป็นเมด แต่ Tooru กลับทำงานบ้านไม่เป็นสักอย่าง ซ้ำยังมีจิตสำนึกที่ไม่เหมือนกับมนุษย์ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหารที่ใช้วัตถุดิบเป็นหางของตัวเอง หรือการซักผ้าที่ใช้การเคี้ยวเพราะน้ำลายมังกรช่วยทำความสะอาดสิ่งสกปรกได้ หรือแม้กระทั่งการทำความสะอาดบ้านที่เพียงแค่พ่นไฟออกมาก็หายเกลี้ยง ทำให้ Kobayashi จำเป็นต้องเริ่มสอนสิ่งต่าง ๆ ให้ใหม่ โดยที่ไม่รู้ว่าตัวเองกลายเป็นของรักของหวงของมังกรสาวเสียแล้ว จึงเกิดเป็นเรื่องราวสุดวุ่นวายตามมา รวมไปถึงมังกรจากที่อื่น ๆ ต่างพากันตบเท้าเข้ามามีบทบาทกันราวกับเป็นสิ่งมีชีวิตที่หาได้ง่ายทั่วไป 

ควรค่าแก่การดูหรือไม่ ? 

ในส่วนของเนื้อหา เอาจริง ๆ เรื่องนี้จัดอยู่ในหมู่เรื่องที่ดูก็ได้ ไม่ดูก็ได้ เป็นแนวเรื่อย ๆ ชีวิตประจำวันสุดแสนจะแฟนตาซี เพียงแต่นี่คือผลงานจากเกียวอนิ สตูดิโอที่คออนิเมะไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะฉะนั้นเรื่องงานภาพ งานเพลง และงานพากย์รับรองว่าควรค่าแก่การใช้เวลาดูอย่างยิ่ง แม้ภาคแรกกับภาคสองจะห่างกันหลายปีแต่ไม่ได้ทำให้คุณภาพดรอปลงจากการสูญเสียบุคลากรไปในคดีวางเพลิงครั้งนั้น ส่วนตัวชอบความเรียบง่ายของเรื่อง ไม่ได้หวือหวามาก แต่กลับมีอะไรบางอย่างที่ดูแล้วใจนุ่มฟูอย่างประหลาด ดูแล้วอดไม่ได้ที่จะมีรอยยิ้ม สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของเกียวอนิคือการหยิบจับเรื่องราวที่ไม่ได้บูมมาก ไม่ได้เป็นที่กล่าวถึงมากเอามาทำเป็นอนิเมะให้น่าสนใจ ซึ่งนั่นทำให้หลาย ๆ เรื่องดังเปรี้ยงปร้างกันมานักต่อนักแล้ว 

ในส่วนของงานภาพ ระดับเกียวอนิไม่มีคำว่าเผา มีแต่ดีและดีเกินไป ความละเอียดของการเคลื่อนไหวตัวละครค่อนข้างเยอะ ภาคแรกที่ฉายเมื่อปี 2017 เมื่อกลับมาดูก็ยังรู้สึกว่าเป็นอนิเมะค่อนข้างทันสมัยพอสมควร 

สรุป 

ดังนั้นแล้ว ด้วยความเป็นเกียวอนิ บวกกับเรื่องราวที่ไม่ได้ดราม่าหนัก จะมีบางฉากที่ดูแล้วซึ้ง ๆ อยู่ และส่วนฉากที่มีการต่อสู้ก็จัดหนักจัดเต็มขนาดที่อนิเมะบู๊เพียว ๆ ยังอาย จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคะแนนเว็บไซต์ Myanimelist   จึงให้เรื่องนี้ไว้ค่อนข้างสูง โดยซีซั่นที่หนึ่งได้ไปที่ 8.01 และภาคสองที่เหมือนจะเข้มข้นกว่าภาคแรกได้ไปที่ 8.44 ส่วน IMDb ให้คะแนนเรื่องนี้อยู่แค่ 7.7 เท่านั้น แต่ก็ยังถือว่าสูงกว่าหลาย ๆ เรื่อง ดังนั้นแล้วใครที่ต้องการติดตามสามารถหารับชมได้ที่ bilibili และ Netflix ได้เลยจ้า  20รับ100