กีฬาคือการออกกำลังกายที่ดีที่สุด เราชื่อว่าคำกล่าวนี้น่าจะเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ใครหลาย ๆ คนได้ยินกันจนชินหู ซึ่งแน่นอนว่าไอ้เจ้าคำนี้เป็นสิ่งที่ถูกต้องอย่างไม่มีผิดเพี้ยน แต่ทว่าในหลาย ๆ ครั้งก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะชื่นชอบการออกกำลังกาย และนั่นเองจึงทำให้การจะออกกำลังกายสักครั้งนั้นพวกเขาเหล่านั้นจำเป็นต้องมีแรงบันดาลใจ
โดยในโลกของอนิเมะเองก็มีหลาย ๆ เรื่องที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับวงการกีฬา แต่ถ้าจะถามว่าอนิเมะเรื่องไหนที่สามารถสร้างปรากฏการณ์จนทำให้หลาย ๆ คนตัดสินหยิบรองเท้าและออกไปเล่นกีฬากับเพื่อนข้างนอกได้มากที่สุด เราเชื่อเลยว่าชื่ออนิเมะอย่าง Slam Dunk จะต้องกลายเป็นเรื่องแรก ๆ ที่ทำให้หลาย ๆ คนต้องนึกถึงอย่างแน่นอน แต่ทว่ามันก็น่าเสียดายที่แม้ว่า
อนิเมะเรื่องนี้จะดีสักขนาดไหนก็ตาม แต่กลับกลายเป็นว่าตัวเนื้อเรื่องของ Slam Dunk ก็ได้จบไปแบบห้วน ๆ จนทำให้คนดูตอนนั้นรู้สึกค้างคาใจเป็นอย่างมาก จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้มันก็ได้มีข่าวดีที่ทำให้บรรดาเหล่าเด็กโข่งหลาย ๆ คนที่อินกับเรื่องนี้ได้ร้องเฮกันอีกครั้ง นั่นก็เพราะว่าทางอาจารย์อิโนะอุเอะ ทาเคฮิโกะ ผู้วาดเรื่องนี้ได้มีการประกาศว่าอนิเมะเรื่องนี้จะถูกสร้างเป็นเวอร์ชันภาพยนตร์ครั้ง และ นั่นเองจึงเป็นสาเหตุของหัวข้อในครั้งนี้กับเรื่องราวของ การีวิว The First Slam Dunk มูฟวี่ปิดตำนานอนิเมะบาสที่ครบถ้วนสมบูรณ์ ซึ่งเรื่องราวของเดอะ มูฟวี่นี้จะเป็นอย่างไร เอาเป็นว่า เราไปเริ่มต้นกันเลยดีกว่า
เรื่องย่อ The First Slam Dunk
โดยอนิเมะเรื่องนี้ได้เข้าฉายในประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ปี 2022 ส่วนประเทศไทยของเราได้มีการเข้าฉายในระบบปกติเมื่อวันที่ 9 มีนาคม ซึ่งตัวเนื้อเรื่องของภาค The Movie นี้จะเล่าถึงฉากการดวลเดือดนัดสำคัญระหว่างทีม โชโฮคุ กับ ทีมสุดแกร่งที่ยากจะโค่นลงอย่างเทโนซังโน ซึ่งการดวลเดือดในครั้งนี้เนื้อหาจะมีเพียงแค่ในหนังสือการ์ตูนเท่านั้น
แถมเรื่องราวที่ถูกเล่านั้นจะเป็นมุมมองของพอยต์การ์ดร่างเตี้ยเบอร์ 7 ของโชโฮคุอย่าง มิยางิ เรียวตะ ซึ่งเขานั้นเคยเสียพี่ชายคนสำคัญจนทำให้เขาและแม่เริ่มมีความสัมพันธ์ที่ค่อย ๆ ห่างเหินกันออกไป และนั่นเองจึงทำให้เขาหันไปเล่นบาสเกตบอลเพื่อใช้มันเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ซึ่งการแข่งระหว่างโชโฮคุกับเทโนซังโนจะดุเดือดขนาดไหน คุณต้องไปหาเรื่องนี้มาติดตาม
วิจารณ์ The First Slam Dunk
เอาจริง ๆ แล้วหากพูดถึงเรื่องราวของ Slam Dunk กลุ่มคนดูหลาย ๆ คนที่เคยดูมาก่อนนั้นจะต้องนึกถึงการแข่งขันกันภายในทีมของ ซากุรางิ กับ รุคาวะ และนั่นเองก็เปรียบเสมือนกับหนึ่งในไฮไลท์ของเรื่องนี้ไปเลยทีเดียว แต่เราก็ต้องยอมรับ
จริง ๆ ว่า The First Slam Dunk นั้นถือว่ากล้ามาก เพราะว่างานนี้พวกเขาได้ตัดสินใจเปลี่ยนศูนย์กลางของเรื่องใหม่ด้วยการเล่าผ่านทางพอยต์การ์ดอย่าง มิยางิ แทน ซึ่งการตัดสินใจครั้งนี้ก็ถือว่าค่อนข้างสอบผ่านเลยทีเดียว เพราะมันทำให้เราได้เห็นมุมมองที่ค่อนข้างแปลกใหม่ แถมการได้เห็น มิยางิ เป็นตัวเด่นของเรื่อง Slam Dunk นั้นก็ไม่ได้ทำให้คนรู้สึกอึดอัดเลย
โดยสาเหตุที่เป็นอย่างนี้นั่นก็เพราะว่าตัวเนื้อค่อนข้างที่เกลี่ยบทได้ดีไม่ว่าจะเป็นการเล่าเนื้อหาในรูปแบบย้อนอดีตของมิยางิสลับไปมากับการแข่งขันสุดเดือด และ เข้มข้น ซึ่งหลาย ๆ คนอาจจะสงสัยว่าการเล่าเนื้อหาในแบบนี้มันจะทำให้พาร์ทอดีตของมิยางิน่าเบื่อหรือไม่ ซึ่งเราก็บอกได้แบบเต็มปากเต็มคำเลยว่าไม่ เพราะเนื้อหาที่เล่านั้นไม่ได้มีความยืดเยื้อชวนน่าเบื่อ แถมมันยังค่อนข้างกระชับจนทำให้เราสามารถเข้าใจอารมณ์และความรู้สึกของมิยางิได้เป็นอย่างดีเลยอีกด้วย
และนอกจากเนื้อหาส่วนตัวของมิยางิแล้วตัวเนื้อเรื่องก็ยังมีการเล่าถึงตัวสมาชิกคนอื่น ๆ แถมการเล่าแบบตัดสลับนี้มันยังค่อนข้างทำออกมาได้ดีเพราะมันจะมาในช่วงที่มีการแข่งขันหลาย ๆ จังหวะไม่ว่าจะเป็นจังหวะขึ้นนำ จังหวะโดนทิ้งห่าง หรือจังหวะที่แต้มสูสี ซึ่งไอ้จังหวะเหล่านี้นี่แหละที่ทำให้คนดูนั้นลุ้นกันแบบจิกเบาะแทบขาดแม้ว่าหลาย ๆ คนจะรู้เนื้อหาส่วนนี้มาจากหนังสือการ์ตูนมาก่อนแล้วก็ตาม
งานด้านภาพของ The First Slam Dunk
แน่นอนว่าเมื่อมันเป็นอนิเมะระดับฉายโรงสิ่งแรกที่หลาย ๆ คนต่างให้ความสำคัญเป็นอย่างมากนั่นก็คืองานด้านภาพ โดยใน
The First Slam Dunk นั้นเลือกที่จะใช้เทคนิคภาพแบบ 3D ที่มีการผสมกับลายเส้นแบบ 2D ซึ่งอาจารย์ผู้วาดอย่าง
อิโนะอุเอะ ทาเคฮิโกะ ได้บอกว่าทีมงานในด้านนี้ทำงานค่อนข้างหนักมากเลยทีเดียว เนื่องจากพวกเขาอยากจะถ่ายทอดความคลาสสิกของสแลมดังค์ผสมผสานกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ให้ออกมามีการเคลื่อนไหวที่สมจริง
ซึ่งความพยายามนี้ก็ค่อนข้างส่งผลเลยทีเดียว เพราะว่าคุณภาพของงานนั้นดีเอามาก ๆ การเคลื่อนไหวของตัวละครต่าง ๆ ค่อนข้างเป็นธรรมชาติและสมจริงไปหมดทุกจังหวะ แม้กระทั่งจังหวะเล็ก ๆ น้อย ๆ อีกทั้งเรายังเห็นได้ถึงกลิ่นอายลายเส้นของ Slam Dunk ที่แม้ว่าจะถูกผสานรวมกับงานแบบ 3D แล้วแต่มันก็ทำให้เราสัมผัสได้ถึงความรู้สึกเหมือนเราได้ย้อนไปดูเนื้อหาอนิเมะในเวอร์ชันซีรีส์
เพลงและเสียงประกอบ The First Slam Dunk
โดยเพลงประกอบของ The First Slam Dunk ได้ 10-FEET มาทำเพลงประกอบให้ เป็นเพลงที่มีชื่อว่า Dai Zero Kan ซึ่งแม้ว่าเพลงนี้จะก่อให้เกิดดราม่าสักเล็กน้อยก็ตามที แต่ทว่าจังหวะของเพลงที่ค่อนข้างหนักแน่น แถมยังค่อนข้างมันเอามาก ๆ นี่แหละที่พอเอาไปใช้ประกอบในการแข่งขันที่ดุเดือดของทั้ง 2 ทีมมันเลยทำให้เพลงนี้สามารถช่วยขับกล่อมอารมณ์ของเนื้อเรื่องให้พลุ่งพล่านขึ้นไปได้อีกหลายเท่าตัวเลยทีเดียว
และนอกจากบทเพลงประกอบเรื่องแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่เราต้องชมเป็นอย่างมากเลยนั่นก็คือ บรรดาเหล่าเสียงประกอบฉากต่าง ๆ ไม่ว่าจะเสียงหอบหายใจ เสียงรองเท้าที่ไถไปตามพื้นของสนาม เสียงลูกบาสกระทบพื้น รวมไปถึงเสียงของกองเชียร์ก็สามารถทำออกมาได้ค่อนข้างละเอียดเลยทีเดียว แถมคุณลองคิดดูสิว่าในจังหวะที่ทุกอย่างกำลังดังอยู่นั้น หนังก็เลือกที่จะใช้จังหวะเงียบในบางช่วง และนั่นก็เป็นการกดดันทางอารมณ์ให้เรานั้นลุ้นจนกลืนน้ำลายตามเลยทีเดียว
จะอินไหมถ้าไม่เคยอ่านหรือดูต้นฉบับมาก่อน
เนื่องจากสแลมดังค์นั้นถือได้ว่าเป็นอนิเมะ และ หนังสือการ์ตูนที่ค่อนข้างเก่าสักหน่อย จึงทำให้หลาย ๆ คนที่เป็นเด็กยุคใหม่กังวลว่าพวกเขาที่ไม่เคยติดตามเลยจะทันเรื่องราวนี้ไหม ซึ่งเอาจริง ๆ แล้วด้วยความเร็วของเนื้อเรื่องนั้นมันน่าจะทำให้บรรดาเหล่าเด็กยุคใหม่ตามยากเสียหน่อย เพราะว่าตัวเนื้อเรื่องจะไม่มีการเกริ่น หรือ เล่าแนะนำตัวละครใด ๆ ทั้งสิ้นก่อนเลย เพราะมาถึงมันก็เข้าสู่การแข่งขันนัดสำคัญเสียแล้ว
แต่ถึงแบบนั้นคนที่ไม่เคยดูก็จะค่อย ๆ อินไปเรื่อย ๆ เนื่องจากตัวเนื้อเรื่องจะค่อย ๆ เล่าถึงความสัมพันธ์ต่าง ๆ ของตัวละครต่าง ๆ ไปทีละนิด และสามารถทำความเข้าใจได้พอประมาณจนทำให้เมื่อเรื่องเริ่มขมวดปมใกล้จะหมดเวลาไปเรื่อย ๆ คุณก็จะเอาใจช่วยทุก ๆ ตัวละครที่เห็นกันเลยทีเดียว
และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวของ The First Slam Dunk มูฟวี่ปิดตำนานอนิเมะบาสที่ครบถ้วนสมบูรณ์ ซึ่งในภาพรวมแล้วเราถือว่าเรื่องนี้ทำออกมาได้ค่อนข้างยอดเยี่ยมเอามาก ๆ แถมเพราะการที่ตัวของอาจารย์อิโนะอุเอะเข้ามารับหน้าที่เขียนบท และ ร่วมกำกับเนื้อเรื่องด้วยตัวเองนี่แหละ มันจึงเหมือนเป็นการปิดตำนานในฉากการเจอกับของ โชโฮคุ และ เทคโนซังโน ได้อย่างยอดเยี่ยมจริง ๆ