ประวัติ Raiden Tameemon นักซูโม่ที่แข็งแกร่งที่สุดจาก Record of Ragnarok

เพราะชีวิตของมนุษย์เรามันเครียดจึงทำให้ จึงทำให้มีในปัจจุบันนี้ได้มีสื่อบันเทิงต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย และหนึ่งในสื่อบันเทิงที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมากนั่นก็คือ สื่อบันเทิงอย่าง อนิเมะ แต่ทว่าในอนิเมะหลาย ๆ เรื่องเองก็ได้มีการเอาเค้าโครงเรื่องจริงมาดัดแปลง และหนึ่งในอนิเมะที่มีการอ้างอิงจากเค้าโครงเรื่องจริง และ ค่อนข้างสนุกตื่นเต้นเป็นอย่างมากจนเป็นกระแสในตอนนี้นั่นก็คือ Record of Ragnarok 

โดยความสนุกของเรื่องนี้นั่นก็คือการนำเรื่องราวของเทพต่าง ๆ เข้ามาผสมผสานกับบุคคลระดับที่เป็นตำนานของโลกได้อย่างลงตัว และหนึ่งในตอนที่สามารถทำออกมาได้ค่อนข้างสะใจคนบ้าพลังนั่นก็คือ ตอนที่สุดยอดนักซูโม่ของญี่ปุ่นอย่าง 

ไรเดน ทาเมเอมอน ได้เผชิญหน้ากับเทพสูงสุดอย่าง พระศิวะ 

แต่ทว่าประวัติศาสตร์ของ ไรเดน ทาเมเอมอน ที่ปรากฏขึ้นในเรื่องนั้นกลับมีเรื่องราวที่เสริมเติมแต่งมากพอสมควร ดังนั้นในครั้งนี้เราจะขอพาทุก ๆ คนไปพบกับเรื่องราว ประวัติ Raiden Tameemon นักซูโม่ที่แข็งแกร่งที่สุดจาก Record of Ragnarok กัน ซึ่งเรื่องราวของเขาคนนี้จะเป็นอย่างไร เอาเป็นว่าเราไปเริ่มต้นเรื่องราวของเขากันเลยดีกว่า

ไรเดน ทาเมเอมอน ในอนิเมะ Record of Ragnarok

โดยตัวของ ไรเดน ในเรื่องนั้นจะปรากฏมาในรูปร่างของชายที่มีรูปร่างสูงใหญ่กว่ามนุษย์ปกติ ถึงขนาดที่ว่าความสูงของเขาบังมากกว่าตัวของวัลคีรีเสียอีก แถมนิสัยของเขายังถือได้ว่ากะล่อน เพราะว่าเขาชอบกินดื่ม และ เป็นเสือผู้หญิงตัวพ่อ

ทางด้านวัลคิลีที่เข้าร่วมร่างกับเขาในการต่อสู้นั้นมีชื่อว่า ธรูด โดยเธอเป็นวัลคีรีที่มีร่างกายกำยังไม่ต่างอะไรกับไรเดนเท่าไหร่ ส่วนความสามารถเมื่อทั้ง2 รวมร่างกันนั่นก็คือ ความสามารถในการควบคุมกล้ามเนื้อ และดึงพลังที่ค่อนข้างเหนือกว่ามนุษย์ทั่วไปอยู่แล้วของไรเดนออกมาให้เต็มที่นั่นเอง 

ซึ่งจริง ๆ แล้วชื่อดั้งเดิมของเขามีชื่อว่า ทะโระคิจิ เซะกิ โดยครอบครัวของเขาคนนี้เป็นเพียงแค่ชาวนาในชนบทที่แคว้น

ชินาโนะ แต่สิ่งที่ตัวของเขาคนนี้ไม่เหมือนกับคนอื่นทั่ว ๆ ไปนั่นก็คือ แม้ว่าเขาคนนี้จะมีอายุถึง 3 ขวบแล้วก็ตาม 

เขากลับไม่สามารถเดินได้เหมือนกับเด็กคนอื่น เนื่องจากเขามีกล้ามเนื้อผิดปกติ 

จนกระทั่งวันหนึ่งตัวของไรเดนก็ได้ตัดสินใจหัดเดินด้วยตัวเองซึ่งการฝึกหัดเดินในครั้งนั้นมันก็ทำให้กระดูกหักไปทั่วตัว แต่นั่นก็ทำให้เขาได้รู้ว่าที่มันเกิดเรื่องเหล่านั้นขึ้นกับเพราะว่ากล้ามเนื้อทั้งตัวของเขามันแข็งแกร่งเกินไปจนบีบรัดกระดูกส่วนต่าง ๆ จนหัก

จากเหตุการณ์นั้นตัวของไรเดนจึงต้องฝึกร่างกายเพื่อพยายามจะสามารถควบคุมพลังกล้ามเนื้อของเขาให้ได้จนทำให้ร่างกายของเขามีลักษณะเกิดเป็นเส้นเชือกสีแดง ซึ่งในตอนนั้นถูกเรียกว่า ร้อยผนึก ซึ่งเส้นสีแดงเหล่านี้เกิดจากการรัดรึงของกล้ามเนื้อ ซึ่งเพราะพลังอันมหาศาลของเขานี้เองที่ทำให้หลาย ๆ คนมองเขาว่าไม่ต่างอะไรกับตัวประหลาด 

แต่ถึงแบบนั้นแล้วแม่ของเขาก็ยังคงเป็นคนที่คอยสอนให้ตัวของเขาใช้พละกำลังของเขาไปในทางที่ถูกด้วยการช่วยเหลือคนอื่น ๆ

จนกระทั่งเมื่อตัวของ ทะโระคิจิ ได้เข้าสู่วัยรุ่น หมู่บ้านที่เขาอาศัยอยู่ก็ต้องเจอกับสภาพอากาศแปรปรวนจนทำให้ผู้คนในหมู่บ้านนั้นตกทุกข์ได้ยาก มันเลยทำให้เขาตัดสินใจออกจากหมู่บ้านเพื่อที่จะไปทำอาชีพหาเงินให้ครอบครัว และการออกเดินทางในครั้งนี้นี่เองที่ทำให้เขาได้ฝึกฝน ซูโม่ กับ ทะนิคะเสะ คะจิโนะสึเกะ ซึ่งเป็นนักซูโม่ระดับโยโกะสึนะซึ่งเป็นระดับขั้นสูงสุดของนักกีฬาซูโม่

และเพราะร่างกายอันแข็งแกร่ง รวมถึงรูปร่างของเขา และ แขนขาที่ยาวกว่าคนทั่วไปมันเลยทำให้ตัวของเขาสามารถเอาชนะนักซูโม่หลาย ๆ คนทั่วแผ่นดินญี่ปุ่นได้ จนกลายเป็นที่รู้ในสมญานามว่า ไรเดน ทาเมเอมอน ซึ่งชื่อ ไรเดน ตามภาษาญี่ปุ่นนั้นมีความหมายว่า สายฟ้า

ความแข็งแกร่งของไรเดน นั้นหาคนที่จะมาทัดเทียมได้ยาก แม้ว่าช่วงเวลาตอนนั้นตัวของเขาแทบจะไม่ได้ใช้พลังกล้ามเนื้ออย่างเต็มที่เลยก็ตาม แต่เพราะความเป็นคนที่จิตใจดีของไรเดนนี้เองที่ทำให้เขากลัวว่าหากใช้แรงเต็มที่ของเขามันจะทำให้คู่ต่อสู้บาดเจ็บ และนั่นเองจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ไรเดิน ตัดสินใจไม่ใช้ท่าในการต่อสู้ 4 ท่า

แต่แม้ว่าตัวของไรเดนจะไม่ใช้ท่าดังกล่าวก็ตามตัวของเขาก็ยังสามารถล้มคู่ต่อสู้ต่าง ๆ ได้เรื่อยมา โดยตลอด 21 ปีตัวของเขาลงแข่งไปทั้งหมด 258 ครั้งและทำสถิติ ชนะ 254 ครั้ง แพ้ 10 ครั้ง เสมอ 2 ครั้ง ส่วนสถิติแพ้ กับ เสมอ ที่เกิดขึ้นมาจากที่ ไรเดน ต้องแข่งกับคนที่มีระดับชั้นต่ำกว่าเขาค่อนข้างมาก มันจึงทำให้เขาตัดสินใจยอมแพ้เพราะไม่ต้องการจะที่จะเผลอไปร้ายร่างกายของคู่แข่ง และนั่นเองก็ทำให้เขาได้รับอีกฉายามาว่า ริกิชิผู้ไร้เทียมทาน

โดยผลงานของเขาในศึก Ragnarok นั้น เขาได้เป็นตัวแทนของมนุษย์ในการเข้าต่อกรกับพระศิวะซึ่งเป็นตัวแทนของฝั่ง

เทพ ในคู่ที่ 5 ซึ่งในช่วงแรกทั้งคู่สามารถแลกหมัดใส่กันได้อย่างดุเดือดทั้ง ๆ ที่ตัวของ ไรเดน ยังไม่ได้ทำการโวลุนด์เลยทีเดียว แต่ยิ่งสู้นานขึ้นเขาก็เริ่มได้รับอาการบาดเจ็บจากพลังกล้ามเนื้อที่เริ่มควบคุมได้ลำบาก แต่นั่นเองก็ทำให้เขารู้สึกถึงความสนุกในการต่อสู้เพิ่มมากขึ้น จนในที่สุดเขาก็ได้ตัดสินใจ โวลุนด์กับ ธรูด เพื่อเพิ่มพลังกล้ามเนื้อของเขาไปอีกขั้น และการเพิ่มศักยภาพของตัวเองในครั้งนี้นี่แหละที่ทำให้ ไรเดนสามารถฉีกกระชากแขนของพระศิวะทิ้งได้เลยทีเดียว 

ชีวิตจริง ไรเดน ทาเมเอมอน ในหน้าประวัติศาสตร์

โดยตัวของไรเดน นั้นมีชื่อจริงเหมือนกับตามที่อนิเมะได้กล่าวเอาไว้ โดยเขาเกิดในเดือนมกราคม ปี 1767 ซึ่งเขามีความแข็งแรงมาตั้งแต่เด็กแล้ว โดยในตอนนั้นมีบันทึกว่าเขาสามารถที่จะแบกก้อนหินหนัก ๆ ในระหว่างช่วยเหลือครอบครัวของเขาได้ และ ยังสามารถยกอ่างอาบน้ำเหล็กที่มีแม่ของเขานั่งอยู่ข้างได้แบบง่าย ๆ นอกจากนั้นจากนั้นเขายังสามารถที่จะสร้างบ้านให้กับพ่อแม่ด้วยตัวคนเดียว

ต่อจากนั้นเมื่อไรเดนอายุได้ 14 ปี เขาคนนี้ก็ได้ถูกส่งไปเรียนซูโม่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง โดยตัวของไรเดนถือได้ว่าเป็นคนที่มีร่างกายสูงใหญ่กว่าคนในยุคนั้นค่อนข้างมาก โดยในช่วงวัยหนุ่มเขามีความสูงถึง 197เซนติเมตร และ มีน้ำหนักถึง 169 กิโลกรัม และยังมีแขนขาที่ยาว และ มือขนาดใหญ่ ถึงขนาดที่ว่ารอยประทับฝ่ามือของเขานั้นถ้าวัดจากข้อมือไปถึงนิ้วกลาง จะมีความยาวอยู่ที่ 24 เซนติเมตรเลยทีเดียว

แต่ถึงแม้ว่าไรเดนจะมีขนาดร่างกายที่ใหญ่โต แต่เขาคนนี้ก็สามารถที่จะเคลื่อนที่ได้คล่องแคล่ว และ ยังมีเทคนิคการต่อสู้ที่ค่อนข้างหลากหลาย จึงทำให้ครูฝึกของเขาได้พาเขาไปฝึกซูโม่ที่เอะโด และในที่สุดตัวของไรเด็นก็ได้กลายเป็นนักซูโม่อาชีพในปี 1789 

ซึ่งหลังจากที่เขาได้เข้าสู่วงการนักซูโม่อาชีพแล้ว ไรเดน ก็สามารถทำสถิตไร้พ่ายด้วยการจัดการคู่ต่อสู้ไปหลายคนและค่อย ๆ ไต่ระดับขึ้นไปเรื่อย ซึ่งความเก่งกาจนี้นี่เองที่ทำให้กรรมซูโม่มักจะห้ามไม่ให้ไรเดนใช้ท่าถนัดของตัวเองเพื่อความไม่เสียเปรียบของคู่ต่อสู้ แต่ถึงอย่างนั้นแล้วเขาก็สามารถรักษาสถิติตัวเองให้อยู่ในจุดสูงสุดได้ยาวนานถึง 17 ปี ก่อนที่ในปี 1811 เขาจะตัดสินใจออกจากวงการ และมาเสียชีวิตลงเอาในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ปี 1825 รวมอายุทั้งสิ้น 58 ปี

และทั้งหมดนี้ก็คือ ประวัติ Raiden Tameemon นักซูโม่ที่แข็งแกร่งที่สุดจาก Record of Ragnarok ที่เราได้นำมาฝากทุก ๆ คน แต่ครั้งหน้าเราจะมีประวัติของตัวละครที่อิงจากอินเมะตัวไหนมานำเสนออีกนั้น เอาเป็นว่าคุณต้องคอยติดตามข่าวสารผ่านทางเว็บไซต์ของเรากันให้ดี