หากเราจะให้คุณนึกถึงการ์ตูนอนิเมะของญี่ปุ่น เราเชื่อว่าภาพลักษณ์ของอนิเมะที่เป็นซีรีส์ฉายเป็นตอน ๆ ให้เราได้คอยติดตามกันนั้นน่าจะเป็นหนึ่งในสิ่งที่หลาย ๆ คนจินตนาการถึง แต่ทว่าในบางครั้งแล้วอนิเมะชั้นยอดของญี่ปุ่นเองก็ไม่ได้มีเพียงแค่รูปแบบของซีรีส์ไปซะทีเดียว เพราะมันยังมีอนิเมะชั้นยอดอีกหลาย ๆ เรื่องเลยที่ถูกทำออกมาเป็นรูปแบบของภาพยนตร์ที่เล่าเนื้อเรื่องแบบยาว ๆ รวดเดียวจบ และ หนึ่งในอนิเมะแนวภาพยนตร์ของญี่ปุ่นเองที่ถือได้ว่ามาแรงไม่ใช่น้อยเลยนั่นก็คืออนิเมะอย่างเรื่อง Words Bubble Up Like Soda Pop
ซึ่งเพราะความร้อนแรงของอนิเมะเรื่องนี้นี่เองที่ทำให้ในวันนี้เราจะขอพาทุกคนไปพบกับการ รีวิว Words Bubble Up Like Soda Pop เรื่องบังเอิญที่เห็นจนบ่อย แต่ดูเพลินไม่ใช่น้อย ซึ่งเรื่องราวของอนิเมะเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร และ มันจะมีความน่าสนใจขนาดไหน เอาเป็นว่าเราไปเริ่มต้นเรื่องราวในครั้งนี้กันเลยดีกว่า
เรื่องย่อของ Words Bubble Up Like Soda Pop
โดยเรื่องราวของอนิเมะเรื่องนี้นั้นจะเล่าถึงเด็กหนุ่มขี้อายที่มีชื่อว่า เชอร์รี่ ซึ่งเขาคนนี้ทำงานเป็นคนดูแลผู้สูงอายุภายในห้างแห่งหนึ่ง แต่แล้วโชคชะตาก็พาให้ตัวของเขาได้มาเจอกับ เน็ต ไอดอล สาวที่มีชื่อว่า สมายล์ โดยบังเอิญ จนทำให้มือถือของทั้งคู่นั้นสลับกัน และนั่นเองก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดซี๊ดซ่าหัวใจในช่วงวันหยุดฤดูร้อนของทั้ง 2 คนที่จะไม่มีวันลืมไปอีกตลอดกาล
โดยอนิเมะเรื่องนี้ถือได้ว่าเป็นอนิเมะที่ถูกผลิตออกมาเพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 10 ปีของบริษัท Flying Dog ซึ่งหลาย ๆ คนอาจจะไม่ค่อยคุ้นหูกันเท่าไหร่มากนัก แต่ทว่าจริง ๆ แล้วค่ายนี้ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในด้านการทำอนิเมชั่น และ เพลงต่าง ๆ ซึ่งถูกนำไปใช้ในการประกอบอนิเมชั่นมาหลายเรื่องแล้ว
เพลงประกอบ Words Bubble Up Like Soda Pop
และอย่างที่เราได้เกริ่นไปข้างต้นแล้ว มันจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมตัวอนิเมะอย่าง Words Bubble Up Like Soda Pop ถึงได้มีความโดดเด่นในหลาย ๆ ด้านปรากฏออกมา โดยอย่างแรกที่เราเชื่อว่าเมื่อหลาย ๆ คนเอาชื่อของ
อนิเมะเรื่องนี้ไปค้นหาบนโลกของอินเทอร์เน็ตแล้ว คุณจะพบว่าเพลงประกอบของอนิเมะเรื่องนี้อย่าง YAMAZAKURA เป็นอะไรที่เพราะเอามาก ๆ ซึ่งเพลงนี้ก็ได้ศิลปินอย่าง โอนุกิ ทาเอโกะ มาเป็นคนร้อง นอกจากนั้นเพลงธีมที่ชื่อเดียวกันกับเรื่องก็ได้ได้วงร็อกสุดเท่อย่าง never young beach มาทำเพลงประกอบให้อีกด้วย
งานศิลป์ของ Words Bubble Up Like Soda Pop
นี่คืออีกหนึ่งสิ่งที่เราว่ามันเป็นจุดที่เด่นชัดเอามาก ๆ ของอนิเมะเรื่องนี้ โดยการออกแบบด้านงานศิลป์ของเรื่องนี้จะถูกออกแบบด้วยสตูดิโออย่าง Signal MD ซึ่งทางสตูนี้เคยสร้างผลงานที่มีการใช้สีสันโทนสว่างสุดจัดจ้านมาแล้วในเรื่องอย่าง Ride Your Wave ที่ถูกออกฉายในปี 2019 และไอ้เจ้าอิทธิพลนั้นก็ถูกส่งมายังเรื่องนี้เช่นกัน
นอกจากนั้นแล้วเรื่องนี้ยังได้สตูดิโออย่าง Sublimation ที่เคยสร้างผลงานที่ทำเอาหลาย ๆ คนชวนอึ้งในเนื้อเรื่องอย่าง Dragon’s Dogma มาร่วมด้วยช่วยกันสร้างอีกด้วย แต่เท่านั้นยังไม่พอเพราะว่าอนิเมะเรื่องนี้ยังได้ผู้กำกับอย่าง
อิชิกูโระ เคียวเฮ ซึ่งเขาคนนี้ได้เคยกำกับอนิเมะที่ฮิตถล่มทลายอย่าง Psycho-Pass มากำกับ
และสิ่งเหล่านี้ที่เราได้บอกมามันก็เป็นการยืนยันอย่างดีว่า โปรเจ๊กครอบรอบ 10 ปีของ Flying Dog นั้นต้องการจะให้มันเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ขนาดไหน
ความน่าสนใจของเนื้อเรื่อง
โดยตัวของหนังนั้นก็ถือได้ว่ามีการประยุกต์ใช้เนื้อเรื่องที่ค่อนข้างแปลก และ น่าสนใจอยู่พอสมควร เพราะว่าตัวเนื้อเรื่องได้เลือกให้พระเอกนั้นเป็นคนที่ชื่นชอบในการแต่งกลอนไฮกุซึ่งถือได้ว่าเป็นกลอนโบราณของญี่ปุ่น แต่ถึงมันจะดูเชยไปสักนิดตัวเรื่องก็กลับทำให้มันทันสมัยขึ้นมาได้ด้วยการนำมันไปผสมกับเรื่องราวในโซเชียล มีเดีย
ส่วนทางด้านนางเอกของเรื่องก็ถือได้ว่ามีการใช้ประเด็นเสียดสีสังคมได้ค่อนข้างดี โดยตัวเนื้อเรื่องนั้นเลือกที่จะยัดปัญหาของสาวน้อยที่กลายเป็นเน็ต ไอดอล ตั้งแต่เด็กโดยมีเอกลักษณ์นั่นก็คือฟันกระต่าย แต่ทว่ายิ่งโตขึ้น เธอกลับไม่ได้ภูมิใจในฟันกระต่ายของเธอเลย จนทำให้เธอตัดสินใจใส่แมสก์เพื่อปกปิดมันไว้ ซึ่งเรื่องราวนี้นี่เองที่เป็นการสะท้อนให้เห็นถึง ความไม่มั่นใจของคนญี่ปุ่น และประเด็นของการแยกแยะคุณค่าของความงามในตัวคนอีกด้วย
แต่ถ้าเอาจริง ๆ แล้วตัวเส้นเรื่องของ Words Bubble Up Like Soda Pop ก็ไม่ได้มีความหวือหวา เพราะว่าเนื้อเรื่องค่อนข้างเดินตามสูตรสำเร็จพอสมควร แต่สิ่งที่สามารถช่วยทำให้เราไม่เบื่อจากสูตรสำเร็จนั่นก็คือบรรดาเหล่าตัวละครสมทบ ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นได้ช่วยให้ตัวเนื้อเรื่องให้มีความสนุกมากขึ้น แถมเส้นเรื่องรองที่ปรากฏขึ้นในเรื่องนี้ก็ถือได้ว่าเป็นอะไรที่น่าสนใจ และ น่าติดตามไม่ใช่น้อยเลย
ประเด็นทางสังคมที่สอดแทรก Words Bubble Up Like Soda Pop
และเมื่อตัวเอกของเรื่องนั้นทำงานเกี่ยวกับผู้สูงอายุ อีกสิ่งหนึ่งที่ถูกสะท้อนออกมาภายในเรื่องนี้นั่นก็คือ ประเด็นของสังคมผู้สูงอายุในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งบอกเลยว่าหลาย ๆ คนแทบคาดไม่ถึงเลยว่าเรื่อง Words Bubble Up Like Soda Pop จะสามารถเล่าประเด็นนี้ได้อย่างน่าสนใจ แถมทัศนคติต่าง ๆ ที่ถูกแสดงออกมาในเรื่องก็ยังถือได้ว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดี
อีกทั้งประเด็นการสอดแทรกเรื่องของกลอนไฮกุที่แม้ว่ามันจะดูเชย แต่พอมันถูกนำมาผสมผสานกับเรื่องราวความรักที่เกิดขึ้นในสมัยใหม่นั้นก็ถือได้ว่าเป็นอะไรที่ค่อนข้างลงตัวไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว แถมเจ้ากลอนไฮกุนี้ยังกลายเป็นกิมมิคของเรื่องที่ถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างเท่เลยทีเดียว
เสียงพากย์ไทยของ Words Bubble Up Like Soda Pop
และเมื่อเรื่องนี้มันได้ลงมาอยู่ใน Netflix ของประเทศไทยเรา อีกสิ่งหนึ่งที่จะขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือ เสียงพากย์ไทย
ซึ่งบอกเลยว่าทีมพากย์ไทยค่อนข้างที่จะให้อารมณ์และความรู้สึกแตกต่างจากฟิวของทีมพากย์ญี่ปุ่นอยู่พอสมควร
เพราะแค่นางเอกก็มีเนื้อเสียงที่ให้ก็แตกต่างกันแล้ว โดยในเวอร์ชันญี่ปุ่นนั้นได้ ซากิ ฮานะ ผู้ที่เคยให้เสียพากย์ของ ลูเคียในเรื่อง Bleach มาพากย์ แต่ทว่าในเวอร์ชันไทยผู้ที่ให้เสียงพากย์ของนางเอกก็คือ น้องอ๊ะอาย จากวง 4EVE ซึ่งเธอก็ทำออกมาได้ค่อนข้างดี และ ค่อนข้างดูไปทางใสกว่าทางต้นฉบับอยู่เล็กน้อย
ภาพรวมของ Words Bubble Up Like Soda Pop
และจากเหตุผลดังกล่าวที่เราสรุปมาทั้งหมดนี้เอง เราจึงขอจัดให้อนิเมะอย่าง Words Bubble Up Like Soda Pop นั้นอยู่ในหมวดของอนิเมะที่ค่อนข้างมีส่วนผสมของสไตล์อินดี้หน่อย ๆ แต่ก็ยังสามารถที่จะดูได้ทั่วไป และด้วยเนื้อเรื่องที่ทำออกมาได้ค่อนข้างน่ารัก รวมถึงคาแรคเตอร์ต่าง ๆ ของตัวละครก็ยังสามารถช่วยส่งเสริมให้เนื้อเรื่องเดินไปข้างหน้าได้ดี มันจึงเป็นอะไรที่เราถือได้ว่าน่าสนใจไม่ใช่น้อย
นอกจากนั้นแล้วเราเองก็อยากจะให้คุณลองจับตามองว่าการผสมผสานสิ่งเชย ๆ ให้เข้ากับวัฒนธรรมสมัยใหม่นั้นจะทำออกมาได้อย่างเท่ และ ลงตัวขนาดไหน ดังนั้นหากใครที่เป็นคนที่ชื่นชอบในเรื่องราวของอนิเมะอยู่แล้วละก็ เราก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การรีวิว Words Bubble Up Like Soda Pop เรื่องบังเอิญที่เห็นจนบ่อย แต่ดูเพลินไม่ใช่น้อย จะกลายเป็นหนึ่งในสิ่งที่ช่วยให้คุณตัดสิน และ ได้พบกับเรื่องราวอันแสนสนุกที่คุณกำลังต้องการอย่างแน่นอน