สิ่ง ๆ หนึ่งที่อินเมะนั้นแตกต่างจากโลกความจริงนั่นก็คือ การที่มีตัวละครนิสัยแปลก ๆ และบรรดาเหล่าตัวละครเหล่านี้ต้องมาอยู่รวมกันจนทำให้เกิดเรื่องราวอันแสนน่าติดตามขึ้นมากมาย ซึ่งพล็อตแบบนั้นส่วนใหญ่แล้วมันก็มักที่จะถูกนำไปรวมกับเนื้อหาตลก ๆ เพื่อเป็นการผ่อนคลายอารมณ์ของคนดู แต่ทว่ามันกลับมีอนิเมะเรื่องนั้นที่แม้ว่ามันจะเดินตามสูตรสำเร็จดังกล่าวแต่ทว่าเนื้อหาที่มันแสดงออกมาให้เราเห็นมันช่างชวนจุกอกเหลือเกิน โดยอินเมะเรื่องนั้นที่เรากำลังจะกล่างถึงนั่นก็คือ Kotaro Lives Alone โคทาโร่อยู่คนเดียว
สำหรับใครที่ไม่รู้จักเรื่อง Kotaro Lives Alone โคทาโร่อยู่คนเดียว เพียงแค่คุณเห็นหน้าปกก็คงคิดว่ามันก็คงเป็นการ์ตูนตลกเรื่องหนังที่จู่ ๆ อาร์พาร์ทเมนต์แห่งหนึ่งก็มีเด็กน้อยปรากฏตัวขึ้นแล้วใช้ชีวิตในอาร์พาร์ทเมนต์แห่งนั้นเพียงลำพัง ซึ่งแม้ว่าในโลกแห่งความเป็นจริงนั้นมันคงเป็นเรื่องที่แปลกเอามาก ๆ เลยหากคุณได้เจอกับเด็กแบบนี้ แต่ทว่าเงื่อนไขต่าง ๆ ของเรื่องมันกลับเป็นสิ่งที่สมจริง และ แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่านี่แหละคือปัญหาของเด็กคนหนึ่งที่คิดจะใช้ชีวิตเพียงลำพัง
โดยวิธีกการเล่าเรื่องของ Kotaro Lives Alone โคทาโร่อยู่คนเดียว จะใช้วิธีการเล่าแบบคล้าย ๆ การสืบสวน เนื่องจากตัวเรื่องจะพาให้เราค่อย ๆ ได้เรียนรู้การใช้ชีวิตของ โคทาโร่ ตัวเอกที่เป็นเด็กน้อยของเรื่องผ่านทางบทสนทนา และ สนถานการณ์ต่าง ๆ ในปัจจุบันของตัวละครต่าง ๆ ที่อยู่รายล้อมรอบตัวโครทาโร่นั่นเอง แถมบรรดาเหล่าตัวละครเหล่านั้น มันยังเป็นตัวละครที่ไม่ได้มีความสัมพันธ์โดยตรงกับชีวิตของเด็กน้อยคนนี้เลย เพราะว่าตัวละครเหล่านั้นเป็นเพียงแค่เพื่อนร่วมอาร์พาร์ทเมนต์เท่านั้นเอง
แต่พอเราพูดไปว่า Kotaro Lives Alone โคทาโร่อยู่คนเดียว นั้นใช้วีธีการเล่าแบบสืบสวน สอบสวนแล้ว หลาย ๆ คนอาจจะพาลคิดไปว่าเรื่องนี้จะต้องมาในแนวลึกลับ ฆาตกรรมอย่างแน่นอน แต่เปล่าเลยเพราะเรื่องราวเหล่านั้นมันจะค่อย ๆ คลี่คลายออกมาท่ามกลางบริบทต่าง ๆ ที่เป็นสังคมเมืองในสมัยใหม่ แต่ทว่าบทสรุปที่คลีคลายออกมาของเรื่อง Kotaro Lives Alone โคทาโร่อยู่คนเดียว นั้นมันกลับไม่หอมหวานเหมือนกับการ์ตูนตลกทั่วไปที่ควรจะเป็นนั่นเอง
นอกจากนั้นแล้ว Kotaro Lives Alone โคทาโร่อยู่คนเดียว ยังมีชั้งเชิงในการเล่าที่มีกลิ่นไอของวรรณกรรมญี่ปุ่น และ หนังญี่ปุ่นร่วมสนุก เนื่องจากมันใช้วิธีการเล่าถึงคนแปลกหน้า และ การใช้ชีวิตอันแสนเปลี่ยวเหงาท่ามกลางเมืองใหญี่ และ วิธีรการเล่าแบบนี้เองนี่แหละ ที่ทำให้มันค่อย ๆ ซึมลึกและเกาะกินหัวใจของคนดูไปแบบไม่รู้เนื้อ รู้ตัวกันเลยทีเดียว
ซึ่งไอ้ความลึกซึ้งที่มันค่อย ๆ ซึมลึกลงสู่หัวใจนี่แหละที่ทำให้หลาย ๆ คนรู้สึกอินจนบางทีก็อาจทำน้ำตาหยดลงมาได้แบบไม่รู้ตัว แต่สิ่งที่มันจะไปสะกิดใจให้น้ำตาของคุณร่วงออกมานั้นบางทีมันก็อาจจะไม่ใช่เรื่องของเจ้าเด็กน้อยในเรื่อง Kotaro Lives Alone โคทาโร่อยู่คนเดียว แต่มันอาจจะเป็นเรื่องที่เราต้องเก็บเรื่องราวอันแสนเจ็บปวดเอาไว้ในหัวใจ และ ต้องการเดินต่อไปข้างหน้าโดยทำท่าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นนั่นเอง และแน่นอนว่าเรื่องราวเหล่านั้นเองมันก็สะท้อนผ่านเหล่าตัวละครที่อยู่รายล้อมโคทาโร่ที่ต้องใช้ชีวิตในเมืองใหญ่เช่นกัน
ภาพของตัวละครต่าง ๆ ในเรื่อง Kotaro Lives Alone โคทาโร่อยู่คนเดียว ที่อยู่รายล้อมตัวของคาทาโร่ และ สาเหตุต่าง ๆ ที่ตัวของ โคทาโร ต้องทำอะไรแปลก ๆ เช่นการชอบดูทีวี และไม่ชอบร้องไห้นี้ มันจะค่อย ๆ เผยออกมาในแต่ละตอน เหมือนกับการให้เราค่อย ๆ ประกอบจิ๊กซอว์ แถมในแต่ละฉากที่มีการเปิดเผยจิ๊กซอว์ออกมานั้น แม้ว่าภายนอกมันจะดูน่ารัก และ สดใส แต่ทว่าเนื้อหาที่แฝงอยู่ในนั้นมันช่างเป็นอะไรที่แสนเจ็บปวด ยกตัวอย่างฉากสำคัญอย่างฉากที่ตัวของ โคทาโร่ นั้นไปขอลูกโป่งฟรี
อีกหนึ่งของเรื่อง Kotaro Lives Alone โคทาโร่อยู่คนเดียว ที่สามารถทำออกมาได้อย่างโดดเด่นมาก ๆ ก็คงจะหนีการเล่าเรื่องที่ไม่ได้นำเสนอมเพื่อให้คุณต้องร้องไห้กับแบบฟูมฟาย เพราะว่าการดำเนินเรื่องของ Kotaro Lives Alone โคทาโร่อยู่คนเดียว นั้นจะใช้สไตล์วิธีการเล่าที่เรียบง่ายทั้งหมด แถมมันยังไม่ได้นำเสนอประเด็นที่มุ่งเน้นไปทางความอ่อนแอทางจิตใจของโคทาโร่แต่มันจะเล่าให้เห็นถึงตัวของโคทาโร่ที่พยายามจะเป็นผู้ใหญ่ ผ่านสถานการณ์ที่ผู้ใหญ่สามารถทำได้ง่าย ๆ สบาย ๆ แต่ตัวของโคทาโร่นั้นกลับต้องเผชิญหน้ากับเรื่องแบบนั้นด้วยความยากลำบาก แต่ถึงจะเจอความยากลำบากขนาดไหนก็ตาม ตัวของโคทาโร่ก็ยังเดินหน้าทำมันต่อไปด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย และ เดาอารมณ์ได้ยาก แต่ถึงแบบนั้นมันก็จะทำให้เราได้สัมผัสถึงความปวดร้ายที่อยู่ภายในจิตใจของเด็กคนหนึ่ง
ซึ่งวิธีการของโคทาโร่ในเรื่อง Kotaro Lives Alone โคทาโร่อยู่คนเดียว นั้น เราเองก็สามารถเห็นได้ในชีวิตจริงได้เช่นกัน นั่นก็คือ การที่เด็กหลาย ๆ คนรับมือกับปัญหาเหล่านี้ด้วยการสร้างโลกอีกใบขึ้นมา และใช้ชีวิตของตัวเองโดยลำพังไปในโลกเหล่านั้นที่พวกเขาสร้างขึ้น เพื่อปลอบจิตใจที่บอบช้ำของตัวเอง เพียงแต่ว่าปัญหาของโคทาโร่ในเรื่อง Kotaro Lives Alone โคทาโร่อยู่คนเดียว ที่เขาต้องเผชิญนั้นมันหนักหนาเกินกว่าที่เด็กคนหนึ่งจะต้องมาเจอนั่นเอง
นอกจากในเรื่อง Kotaro Lives Alone โคทาโร่อยู่คนเดียว จะนำเสนอมุมองของการใช้ชีวิตของโคทาโร่ที่ต้องอยู่คนเดียวแล้วมันยังมีอีกหนึ่งแง่มุมที่นำเสนอ นั่นก็คือ จริง ๆ แล้วไม่ใช่มีเพียงแค่ โคทาโร่ เท่านั้นหรอกที่อยู่คนเดียว เพราะว่าบรรดาเหล่าตัวละครหลักเกือบทั้งหมดของเรื่องก็ใช้ชีวิตตามลำพังภายใต้พื้นหลังที่เป็นอาร์พาร์ทเมนต์เล็ก ๆ แห่งหนึ่ง แถมเหล่าคนที่ใช้ชีวิตเพียงลำพังก็ยังมีหลากหลายอาชีพไม่ว่าจะเป็น นักเขียนการ์ตูนที่ไล่ตามความสำเร็จ , สาวบาร์โฮสต์ และ คุณพ่อที่หน้าตาเหมือนกับยากูซ่า และตัวละครเหล่านี้ก็ล้วนแล้วแต่มีสิ่งที่เหมือนกันนั่นก็คือ ปัญหาครอบครัว แถมมันเป็นปัญหาที่ค่อนข้างจะรุนแรงทีเดียว และเพราะการที่แต่ละคนต่างก็มีปัญหาเกี่ยวกับครอบครัว มันจึงทำให้สถานที่อย่างอาร์พาร์ทเมนต์ที่พวกเขาอยู่นั้นก็ไม่ต่างอะไรจากชุมชนคนขี้แพ้ที่โดนสังคมอันโหดร้ายสร้างบาดแผลมา และพวกเขาเองก็เลือกที่จะรวมกลุ่มกันเพื่อรักษาบาดแผลใจให้แก่กัน
และการรักษาแผลใจที่เล่าด้วยวิธีการอันแสนธรรมดานี้เองที่มันถูกนำเสนอออกมาในรูปแบบของความแปลกประหลาด และ ความตลกของ โคทาโร่ นี้เองมันจึงทำให้หลาย ๆ คนลืมตัวไปชั่วขณะในเวลาที่กำลัดูเรื่อง Kotaro Lives Alone โคทาโร่อยู่คนเดียว อยู่ว่า แท้จริงแล้วเรื่องเหล่านี้มันก็เป็นเรื่องที่อยู่ไม่ได้ไกลตัวเราเท่าไหร่เลย เพราะบางทีเราอาจจะต้องการนั่งดูทีวีเงียบ ๆ เพียงคนเดียวเพื่อปลอมประโลมจิตใจที่ว่างเปล่า หรือ การที่ตื่นกลางดึกแล้วเหม่อมองเพนดานห้องเพื่อหาคำตอบบางอย่างให้กับชีวิต
สุดท้ายแล้ว Kotaro Lives Alone โคทาโร่อยู่คนเดียว อาจจะกำลังบอกว่า บางทีตัวเราเองก็ไม่อาจต่างกับ โคทาโร่ ที่ต้องผูกลูกโป่งเอาไว้ติดตัวเท่านั้น แต่มนุษย์อย่างเราเองก็ต้องพยายามที่ก้าวเดินไปข้างในเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย และ เต็มไปด้วยเรื่องราวอันแสนโหดร้าย
มีหนึ่งประโยคในเรื่อง Kotaro Lives Alone โคทาโร่อยู่คนเดียว ได้พูดเอาไว้ว่า ลูกโป่งนั้นจะลอยได้อีกนานแค่ไหน ประโยคนั้นมันอาจจะเหมือนกับ ชูชีพของเราที่ใช้ในการว่ายฝ่ากระแสคลื่นอันบ้านคลั่งในเมืองหลวงอย่างนี้ก็ได้