หากจะพูดถึงอนิเมะที่เต็มไปด้วยเรื่องราวสุดลึกซึ้งและเต็มอิ่มไปด้วยความรู้สึกสักเรื่องหนึ่งแล้วล่ะก็ หลาย ๆ คนคงนึกถึงสาวน้อยผู้เสียแขนทั้งสองข้างไปในสงครามกับใบหน้าที่ไม่แสดงอารมณ์อย่าง Violet Evergarden อยู่ไม่น้อย การแสดงความรู้สึกต่อผู้คนที่ไม่จำเป็นต้องเอ่ยปากพูดเท่านั้น ทำให้เกิดเรื่องราวต่าง ๆ รายล้อมตัวของเธออย่างน่าประทับใจ ทำให้เธอได้เรียนรู้อารมณ์และความรู้สึกที่แท้จริงของผู้คนได้มากขึ้น เป็นหลาย ๆ เรื่องราวที่อยากให้คออนิเมะไม่ควรพลาดเลยทีเดียว
Violet Evergarden มาจากไลท์โนเวลที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจากการประกวดของสตูดิโอ Kyoto Animation ซึ่งปัจจุบันออกมา 3 เล่มจบ เขียนโดยอาจารย์ AKATSUKI Kana และออกแบบตัวละครโดย TAKASE Akiko ก่อนจะถูกมาทำเป็นอนิเมะทีวีซีรีส์เมื่อปี 2018 โดยสตูดิโอ Kyoto Animation หรือที่รู้จักกันว่าเกียวอนิ ที่เคยสร้างผลงานคุณภาพมาแล้วหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Clannad หรือ Koe no Katachi และอีกมากมาย โดยเรื่องนี้ได้ Ishidate Taichi และ Fujita Haruka ร่วมมือกันกำกับ มีจำนวนตอนทั้งหมด 13 ตอน ฉายตอนแรกเมื่อวันที่ 11 มกราคม ปี 2018 หรือซีซั่นฤดูหนาวนั่นเอง
ตัวละคร
Violet Evergarden พากย์เสียงโดย คุณ Ishikawa Yui
Gilbert Bougainvillea พากย์เสียงโดย คุณ Namikawa Daisuke
Claudia Hodgins พากย์เสียงโดย คุณ Koyasu Takehito
Cattleya Baudelaire พากย์เสียงโดย คุณ Endou Aya
Iris Cannary พากย์เสียงโดย คุณ Tomatsu Haruka
Erica Brown พากย์เสียงโดย คุณ Chihara Minori
Benedict Blue พากย์เสียงโดย คุณ Uchiyama Kouki
เรื่องย่อ
หลังจากสงครามสิ้นสุดลง Violet เด็กสาวที่สูญเสียแขนทั้งสองข้างได้ถูกพามารักษาตัวและดูแลอุปถัมภ์โดยตระกูล Evergarden เธอใช้เวลาพักฟื้นตัวพร้อมกับพยายามใช้งานแขนเทียมใหม่อย่างยากลำบาก และในขณะเดียวกัน Violet ก็คิดถึงแต่ผู้พัน Gilbert Bougainvillea ที่เคยเป็นอดีตผู้บังคับบัญชาในกองทัพมาโดยตลอด เธอพยายามเขียนจดหมายเพื่อรายงานสถานการณ์ของตนปัจจุบันดังที่เคยเป็นมา ทว่าผู้พันก็ไม่เคยมาเยี่ยมเยียนเธอเลยสักครั้ง แม้บาดแผลและร่างกายจะฟื้นตัวอย่างเต็มที่เรียบร้อยแล้ว คนที่รับเธอกลับไม่ใช่ผู้พัน แต่เป็น Claudia Hodgins หนึ่งในผู้บัญชาการและเป็นเพื่อนร่วมสนามรบกับผู้พันที่เธอเคารพ
Violet ถูกมาพามายังบริษัทไปรษณีย์ที่ชื่อว่า CH ในเมืองไลเด้น ซึ่งเป็นบริษัทที่สร้างและดูแลโดย Hodgins เขาได้รับการฝากฝังจาก Gilbert ให้ดูแลอาวุธอย่าง Violet เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตอย่างที่เด็กสาวคนหนึ่งควรจะเป็น และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา Violet Evergarden ได้กลายเป็นพนักงานของบริษัทไปรษณีย์ ในขณะที่กำลังมองหาในสิ่งที่ตนพอจะทำได้ Violet รู้สึกสนใจเครื่องพิมพ์ดีดและการเขียนจดหมายโดยออโตเมมโมรีดอลล์เป็นอย่างมาก ทำให้นึกถึงคำพูดที่แสดงความรู้สึกของผู้พันที่เคยบอกว่า “ฉันรักเธอ” Violet ต้องการเข้าใจในคำพูดนั้นจึงเอ่ยปากขอ Hodgins ทำหน้าที่นี้
เพราะใช้ชีวิตในฐานะอาวุธในสงครามมาโดยตลอด ทำให้ Violet ไม่เข้าใจต่ออารมณ์และความรู้สึกมากนัก เธอเป็นเด็กสาวที่เปรียบเสมือนกับหุ่นยนต์ที่มีหน้าที่รับฟังตามคำสั่ง ซึ่งการเป็นออโตเมมโมรีดอลล์ของเธอทำให้ Violet ได้พบกับผู้คนมากมาย ได้สัมผัสถึงความรู้สึกและอารมณ์ที่เหล่าผู้คนมี รวมไปถึงค่อย ๆ เข้าใจคำว่า “ฉันรักเธอ” ของผู้พันที่เคยกล่าวเอาไว้เพื่อหวังว่าสักวันหนึ่งเธอจะได้บอกเขาอย่างเต็มปากว่าเข้าใจในคำพูดนั้น
ควรค่าแก่การดูหรือไม่ ?
บอกตามตรงว่าเป็นเรื่องที่ไม่อยากให้คออนิเมะหลาย ๆ คนพลาดเลย แม้เนื้อเรื่องไม่ได้สุดแฟนตาซี หรือดราม่าน้ำตาท่วมจอ แต่เรื่องราวกับทัชใจผู้ชมได้อย่างไม่ยากเลย มักเล่าถึงความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนไม่ว่าจะเป็น พี่น้อง แม่ลูก เพื่อน คนรัก หรือกล่าวถึงความฝันของผู้คนออกมาได้อย่างน่าประทับใจมาก โดยเรื่องราวส่วนใหญ่มักจบในตอนเดียวนำเสนอเพียงแค่เรื่องราวละยี่สิบกว่านาที แต่หลาย ๆ เรื่องกลับทำเอาน้ำตาซึมได้ บางตอนถึงกับหมดทิชชู่เป็นม้วน ๆ ก็มี สมกับที่มาจากไลท์โนเวลประกวด เซ็ตติ้งยุโรปช่วงสมัยสงครามโลก แต่จะเป็นอีกโลกหนึ่งที่สร้างขึ้นมาใหม่ เทคโนโลยีไม่ได้เทียบเท่ากับปัจจุบัน ดังนั้นเลยทำให้นึกถึงความลำบากในการสื่อสารของผู้คนอยู่มาก และจดหมายจึงเป็นการสื่อสารระหว่างผู้คนเพียงอย่างเดียวที่มี
ส่วนเรื่องงานภาพ ระดับเกียวอนิแล้วคงไม่ต้องอธิบายยาวยืด งานภาพยังคงเป็นมาตรฐานของเกียวอนิ คืองดงาม และแทบหาที่ติไม่ได้ สิ่งที่ชอบของเรื่องนี้คือการหาเพลงประกอบ ฟังดูทั้งเหงา ทั้งเศร้า แต่ก็ยังมีความหวัง บอกเลยว่างานภาพงานเพลงของเรื่องนี้เหมาะสมและลงตัวอย่างมาก โทนเรื่องไม่ถึงกับหม่น ไม่ถึงกับเศร้า ให้ความอบอุ่นปนเหงาอย่างบอกไม่ถูก แต่หลังดูจบครบทั้ง 13 ตอนแล้วอยากจะยืนปรบมือให้ดัง ๆ เพราะมันรู้สึกประทับใจและอิ่มเอมไปหมด เป็นงานอนิเมะคุณภาพที่ไม่อยากให้พลาดเลยจริง ๆ
สรุป
เพราะความลงตัวในทุก ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเนื้อเรื่อง งานภาพ งานเพลง ส่งผลให้ Violet Evergarden ฉบับ TV Series ได้รับคะแนนไปอย่างท่วมท้น โดยเว็บไซต์ Myanimelist ได้ไปที่ 8.66 คะแนน และ IMDb ก็ได้มากถึง 8.4 หลายคนอาจรู้สึกว่าเพียงแค่ 13 ตอนยังสัมผัสอารมณ์เรื่องได้อีก แต่ดูเหมือนว่าทางเกียวอนิจะเค้นมาได้เท่านั้นจริง ๆ เพราะต้นฉบับมีเพียงแค่ 3 เล่มเท่านั้น ได้แต่หวังว่าผู้เขียนจะมีการเขียนเพิ่ม หรือบ้านเราจะมีใครสนใจนำมาแปลบ้าง หากใครที่สนใจติดตามสามารถรับชมได้ที่ Netflix แบบซับไทยได้เลย