เราเห็นการ์ตูนเอาตัวรอดจากภัยพิบัติจากญี่ปุ่นมาแล้วมากมายหลายเรื่อง ทั้งจบแฮปปี้ จบเศร้า ซึ่งไม่แปลกใจกับแนวเรื่องนี้เท่าใดนักเพราะประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่แทบจะอยู่ร่วมกับภัยพิบัติธรรมชาติแต่ไหนแต่ไร จนกระทั่งมีการรับมือกับสถานการณ์อันเลวร้ายนี้ได้อย่างเยี่ยมยอด ดังที่จะเห็นถึงความเป็นระเบียบวินัยของชาวญี่ปุ่น ความช่วยเหลือจากรัฐบาลที่เป็นระบบระเบียบและเข้าได้อย่างทั่วถึง ทว่าเรื่อง Nihon Chinbotsu 2020 หรือ Japan Sinks: 2020 กลับแตกต่างออกไป เพราะเวทีของการเกิดภัยพิบัติคือโตเกียว เมืองหลวงอันเป็นศูนย์รวมของชาติ ทำให้ทุกคนจำเป็นต้องหาทางเอาตัวรอดด้วยตัวเอง
Japan Sinks: 2020 เดิมทีเป็นนิยายจากปลายปากกาของอาจารย์ Komatsu Sakyo ที่มีชื่อว่า Nippon Chinbotsu ถูกตีพิมพ์ในปี 1973 จำนวนทั้งหมด 2 เล่มด้วยกัน ก่อนจะมีการถูกหยิบนำไปทำซีรีส์ฉายบนโทรทัศน์เมื่อปี 1975 – 76 และถูกนำมารีเมกอีกครั้งในเวอร์ชั่นภาพยนตร์ปี 2006 จนกระทั่งล่าสุดได้ถูกดัดแปลงเป็นอนิเมะที่ฉายเฉพาะทางออนไลน์หรือที่เรียกว่า ONA บน Netflix โดยสตูดิโอ Science SARU ที่เคยมีผลงานมาแล้วอย่าง Devilman: Crybaby และ Eizouken ni wa Te wo Dasu na! เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม ปี 2020 ที่ผ่านมา มีทั้งหมด 10 ตอน กำกับโดย Yuasa Masaaki และ Heo Pyeonggang ซึ่งมีการจำกัดเรทเข้าชมของเรื่องนี้อยู่ที่ 17+ เพราะมีภาพความรุนแรงอยู่พอสมควร
ตัวละคร
Mutou Ayumu พากย์เสียงโดยคุณ Ueda Reina
Mutou Gou พากย์เสียงโดยคุณ Muranaka Tomo
เรื่องย่อ
ผู้คนในเมืองโตเกียวต่างใช้ชีวิตตามปกติทั่วไปเหมือนวันธรรมดาวันหนึ่ง ทว่าจู่ ๆ ทั่วทั้งประเทศญี่ปุ่นก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นเมื่อเกิดแผ่นดินไหวครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ทำให้เมืองโตเกียวราบเป็นหน้ากลอง เมืองที่ใกล้กับทะเลค่อยจมดิ่งสู่ก้นทะเล เกาะโอกินาวะหายไปแทบทั้งเกาะ ประชาชนคนญี่ปุ่นต่างพากันเอาชีวิตรอดอย่างเอาเป็นเอาตาย ท่ามกลางความสูญเสีย และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เรื่องราวได้โฟกัสไปที่ครอบครัวของ Mutou ครอบครัวอบอุ่นธรรมดาครอบครัวหนึ่งที่ต้องเป็นเหยื่อภัยพิบัติในครั้งนี้ คนพ่อเป็นหัวหน้างานก่อสร้าง คนแม่เพิ่งกลับจากต่างประเทศ ลูกสาวกำลังฝึกซ้อมกรีฑาเตรียมตัวแข่งขันกับเพื่อนในชมรม และลูกชายที่กำลังเล่นเกมอยู่ที่บ้าน พวกเขาทั้งสี่ที่ต่างกระจัดกระจายทำหน้าที่ของตนพยายามหาทางอย่างยิ่งยวดเพื่อที่จะให้ครอบครัวได้มาอยู่พร้อมหน้ากันอีกครั้ง
ความมองโลกในแง่ดีของครอบครัว Mutou ถือว่าเป็นจุดแข็งที่ทำให้พวกเขาสามารถเอาตัวรอดจากเหตุการณ์ครั้งนี้ไปได้อย่างราบรื่น แต่ทว่าบางครั้งท่ามกลางความโหดร้ายของภัยธรรมชาติยังมีภัยที่เกิดขึ้นโดยฝีมือมนุษย์อยู่ ครอบครัว Mutou ต้องพบกับความสูญเสียทั้งที่อยู่และคนที่รัก พวกเขาจำต้องหาวิธีรับมือเพื่อให้มีชีวิตรอดและต้องจัดการกับความรู้สึกของตัวเอง รวมไปถึงปมปัญหาของผู้ร่วมเดินทางในยามยากลำบาก สิ่งที่เป็นตัวช่วยสำคัญที่สุดของสถานการณ์นี้คือการติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด แต่ทว่าข่าวจากทางรัฐบาลญี่ปุ่นกับทางต่างประเทศกลับไม่เหมือนกัน ทำให้พวกเขาต้องตัดสินใจว่าแหล่งข่าวไหนที่จะทำให้พวกเขามีโอกาสเอาชีวิตรอดได้มากที่สุด
ควรค่าแก่การดูหรือไม่ ?
ส่วนใหญ่เนื้อหาที่เกี่ยวกับการเอาตัวรอดไม่ว่าจะจากภัยพิบัติหรือจากสิ่งแวดล้อมแล้วมักจะถูกคาดหวังไว้สูงลิ่ว เป็นเพราะเรื่องราวเหล่านี้จำเป็นต้องเล่นกับจิตวิทยาของคน ไม่ว่าจะทั้งผู้ชมหรือตัวละครในเรื่อง สถานการณ์ทำให้มนุษย์เผยธาตุแท้และนิสัยที่แท้จริงออกมาได้อย่างง่ายดาย โจทย์ของผู้แต่งคือทำอย่างไรที่จะทำให้เรื่องดำเนินต่อไปอย่างน่าติดตาม ซึ่งขอบอกก่อนว่าส่วนตัวไม่เคยฉบับนิยายที่เป็นต้นฉบับและไม่เคยดูเวอร์ชั่นทีวีซีรีส์กับภาพยนตร์มาก่อนจึงไม่สามารถนำมาเทียบกันได้ จึงขอพูดในส่วนเฉพาะเนื้อหาที่เป็นอนิเมะเท่านั้น และช่วงแรกของเรื่องถือว่าทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว น่าติดตาม และเต็มไปด้วยความหวัง
ทว่าพอหลังจากเรื่องดำเนินไปจนถึงการสูญเสียครั้งแรกแล้วทำให้เรื่องราวชวนน่าคิ้วขมวดอย่างไรชอบกล เหมือนเรื่องราวจะพยายามดึงให้ดราม่ากับการสูญเสียโดยไม่ค่อยคำนึงถึงเหตุและผลที่ควรเป็นเท่าไหร่นัก บางฉากบางตอนดูไม่ค่อยสมเหตุสมผล อย่างเช่น ตัวของคุณแม่แห่งบ้าน Mutou ที่หัวใจไม่แข็งแรงแต่กลับสามารถว่ายน้ำกลับฝั่งเมื่อตอนเครื่องบินจอดกลางทะเลอย่างสบาย ๆ หรือคุณพ่อที่เข้าไปขุดมันในสวนโดยไม่ได้สนใจป้ายเตือนที่อยู่ด้านนอก มันดูเป็นความเลินเล่อที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น จึงทำให้เกิดกระแสลบต่อเรื่องนี้ค่อนข้างเยอะพอสมควร รวมไปถึงนิสัยตัวละครของลูกสาวคนโตบ้าน Mutou อย่าง Ayumu ที่ออกแนวน่าหงุดหงิดทั้งการกระทำและความคิดตามประสาวัยรุ่นอยู่ไม่น้อย หรือความเก่งกาจของคณะเพื่อนร่วมทางคนหนึ่ง ความไม่สมดุลดังกล่าวทำให้เรื่องที่ควรจะไปได้ดีกลับดรอปลงไปมากเลยทีเดียว
สรุป
ด้วยเรื่องราวที่เน้นดราม่าจนไม่สนความสมเหตุสมผลทำให้เรื่องนี้ได้คะแนนจาก IMDb ไม่ค่อยดีนัก ได้ไปที่ 6.4 คะแนน และเว็บไซต์ Myanimelist ให้ไปเพียง 6.44 คะแนน ในส่วนของงานภาพ ฉากต่าง ๆ ค่อนข้างโอเค แต่พอเป็นงานภาพของตัวละครกลับไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ ใบหน้าตัวละครบางครั้งแลดูเผาเสียจนดูไม่ออกว่าใครเป็นใคร ราวกับว่าทุ่มเทไปที่ฉากภัยพิบัติแต่ลืมใส่รายละเอียดไปในตัวละครเสียอย่างนั้น แต่หากไม่ติดใจในส่วนนี้ก็ถือว่าเป็นอีกเรื่องที่ดูไปอย่างเพลิน ๆ โดยสามารถติดตามได้ที่ Netflix มีเป็นซับไทย ฉายครบแล้วทั้งหมด 10 ตอนด้วยกัน
Credit สล็อตฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ