ในสมัยนี้หากเราจะขอให้คุณนึกถึงเรื่องราวของ ซามูไร ที่ออกต่อสู้กับบรรดาเหล่าปีศาจแล้วละก็ ภาพที่เกิดขึ้นมาในหัวของทุกคนนั้นก็คงจะหนีไม่พ้นอนิเมชั่นที่ถือได้ว่าดังที่สุดแห่งยุคอย่างเรื่อง Kimetsu no Yaiba หรือชื่อภาษาไทยว่า ดาบพิฆาตอสูรอย่างแน่นอน ซึ่งมันก็ไม่ผิดหรอกที่หลาย ๆ คนจะนึกถึงเรื่องนี้ นั่นก็เพราะความสวยงามของภาพ และ ความสนุกของเนื้อเรื่องที่มีหลายรสชาติให้ติดตาม แต่ทว่าหาเราเอาชื่อเรื่องอย่าง Yiba หรือ การที่ซามูไรต้องออกต่อสู้กับเหล่าปีศาจไปถามบรรดาเหล่าเด็กหนวด ชื่อของ ไยบะ ที่เขารู้จักนั้นจะแตกต่างไปจากที่คุณรู้จักอย่างแน่นอน และในบทความครั้งนี้ของเรา เราจะขอพาคุณย้อนรำลึกไปเป็นเวลากว่า 20 ปี ก็เรื่องราวของการ รีวิว ไยบะ ที่ต่างยุค กับเรื่องราวอนิเมะดังยุคเก่า ไยบะ เจ้าหนูซามูไร กัน ซึ่งเรื่องราวของ ไยบะ นั้นยุคนั้นจะเป็นอย่างไรบ้าง และ ทำไมมันถึงกลายเป็นที่บรรดาเหล่าเด็กหนุ่มต่างจดจำกันได้ดี เอาเป็นว่าเราไปเริ่มกันเลยดีกว่า
ทำความรู้จักกับ ไยบะ เจ้าหนูซามูไร
โดยอนิเมะอย่างไยบะนั้นมีจุดเริ่มต้นมาจากหนังสือการ์ตูน Yiba หรือที่ตอนนั้นใช้ชื่อ ภาษาไทยว่า ไยบะ เจ้าหนูซามูไร นั่นเอง โดยเรื่องนี้ได้ตีพิมพ์ครั้งแรกใน Weekly Shonen Sunday เมื่อวันที่ 7 กันยายนปี 1988 ซึ่งในฉบับมังงะนั้นมีทั้ง 24 เล่มจบ และเพราะความฮิตของหนังสือการ์ตูนนี้เองที่ทำให้ภายหลังเรื่องนี้ก็ได้ถูกนำมาดัดแปลงต่อเป็นเวอร์ชันอนิเมะในที่สุด แต่ก็น่าเสียดายที่เวอร์ชันอนิเมะนั้นตัดจบเพียงแค่ภาคการต่อสู้กับกระต่ายเท่านั้น
โดยเรื่องราวของ ไยบะ นั้นจะเล่าถึง เด็กชายชาวป่าคนหนึ่งที่มีชื่อว่า คุโรงาเนะ ไยบะ ที่เขานั้นได้บังเอิญติดเรือขนส่งสินค้ามายังประเทศญี่ปุ่น และ นั่นเองก็ทำให้ตัวของ ไยบะ ได้เริ่มต้นเรียนรู้การฝึกดาบญี่ปุ่น และ ได้พบกับผู้คน
มากมาย ซึ่งในตอนแรกนั้นตัวเนื้อเรื่องจะเป็นแบบการเล่าสั้น ๆ จบในตอน และเน้นไปที่ความเฮฮาของเด็กชาวป่าอย่าง
แต่หลังจากนั้นเนื้อเรื่องก็จะเริ่มเข้มข้นขึ้นเมื่อเขาได้พบกับคู่แข่งอย่าง โอนิมารู ทาเคชิ ซึ่งเขาคนนี้เป็นนักดาบอัจฉริยะ
ซึ่งการต่อสู้ของเขาก็จะเป็นในสไตล์จริงจังบ้าง เฮฮาบ้างสลับกันไป นอกจากนั้นในช่วงเวลานั้นจะมีตัวละครอื่น ๆ อีกหลายตัวออกมาร่วมกันสร้างสีสัน ซึ่งทำให้การ์ตูนเรื่องนี้มีโทนออกตลกจ๋า ๆ เลยนั่นเอง
ดาบเทพวายุ และ ดาบเทพอัสนี้ที่ผลิกพันเรื่องราว
ซึ่งไอ้เพราะความที่ไยบะนั้นได้ฝึกดาบเพื่อเอาชีวิตรอด และ มีไว้เพื่อต่อสู้กับสัตว์ป่านี้เองจึงทำให้ตัวเขานั้นสามารถที่จะเอาชนะโอนิมารูที่ฝึกดาบไว้สำหรับแข่งขันได้อยู่ในหลาย ๆ ครั้ง จนทำให้ตัวของโอนิมารูจิตตก กระทั่งวันหนึ่งเขาก็ได้พบกับดาบเทพวายุที่มีพลังของปีศาจสิงสถิตอยู่ในนั้น และทันทีที่เขาได้จับดาบเล่มนั้นตัวของเขาก็ถูกสิงสู่ และ กลายเป็นราชาปีศาจในทันที โดยเป้าหมายของเขาในตอนนั้นก็มีเพียงแค่การเอาชนะไยบะ และ ครองโลก
แน่นอนว่าหลังจากที่โอนิมารูมีดาบปีศาจแล้วเขาก็สามารถเอาชนะไยบะไปอย่างง่ายดาย จนทำไยบะต้องพยายามหาทางเก่งขึ้นเพื่อเอาชนะโอนิมารูให้ได้ และ นั่นเองก็ทำให้เขาได้พบกับดาบที่เป็นคู่ปรับของดาบเทพวายุ อย่างดาบเทพอัสนี
และการที่ตัวของไยบะได้พบกับดาบเทพอัสนีในครั้งนี้นี่เองที่มันทำให้เกิดเรื่องราวการต่อสู้อันแสนยาวนานมากมาย
คนเขียนเดียวกับเจ้าหนูยอดนักสืบโคนัน
ซึ่งสำหรับเด็กยุคใหม่ ๆ อาจจะรู้สึกว่า ทำไมคาแรคเตอร์ของไยบะ และ โอนิมารู นั้นมีความคุ้นตาซะเหลือเกิน ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกเพราะว่าผู้ที่วาดเรื่องนี้อย่างอาจารย์ โกโช อาโอยามะ นั้นก็คือคนวาดคนเดียวกันกับเรื่อง โคนัน นั่นแหละ โดยในตอนที่เรื่อง ไยบะ ตีพิมพ์จบไปนั้น หลาย ๆ ก็ถือว่าชื่นชอบในอนิเมะเรื่องนี้ระดับหนึ่ง แต่ก็ยังไม่ค่อยรู้จักกับตัวอาจารย์ผู้วาดสักเท่าไหร่ จนกระทั่งชื่อเสียงของเขามาดังเป็นพลุแตกกับอนิเมะอย่างเรื่อง โคนัน นี่แหละ
แต่มันก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่หรอกที่คุณจะไม่รู้เพราะว่าอนิเมะทั้ง 2 เรื่องนั้นมันเป็นคนละแนวกันเลยนั่นเอง แต่เอาจริง ๆ แล้วเรื่อง ไยบะ นี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องแรกที่กรุยทางให้เห็นแล้วว่าตัวของ โกโช อาโอยามะ นั้นมีฝีมือและชั้นเชิงในการวาดขนาดไหน
สรุปเส้นทางการต่อสู้ของไยบะ
และหลังจากที่เราได้เกริ่นไปตอนต้นแล้วว่าตัวของโอนิมารูนั้นโดนปีศาจครอบงำ มันจึงทำให้เขาสร้างกองทัพปีศาจขึ้นมาโดยเทพขุนพลของเขาแต่ละตัวนั้นก็จะเป็นสัตว์ชนิดต่าง ๆ และพวกมันเหล่านั้นก็จะถูกส่งมาเพื่อกำจัดตัวของ ไยบะ ที่ถือครองดาบเทพอัสนีนั่นเอง แต่เพราะการที่ไยบะไม่ได้อยากเป็นแบบโอนิมารู มันจึงทำให้ตัวของไยบะจำเป็นที่จะต้องฝึกเพื่อควบคุมพลังของเทพอัสนีที่อยู่ในลูกแก้วที่ติดอยู่บริเวณโกร่งดาบ โดยผู้ที่ฝึกให้นั่นก็คือ มิยาโมโต้ มุซาชิ ที่ยังมีชีวิตอยู่นั่นเอง
ซึ่งตัวของไยบะต้องออกเดินทางฝึกฝนเพื่อขัดเกลาตัวเองที่ไม่สามารถควบคุมดาบเทพอัสนี แต่ถึงกระนั้นเขาก็สามารถที่จะคิดค้นท่าไม้ตายใหม่ ๆ ออกมาจนกระทั่งในที่สุดเขาก็สามารถที่จะคุมพลังสายฟ้าของเทพอัสนีได้อย่างสมบูรณ์ และ เข้าต่อสู้กับโอนิมารูที่มีดาบเทพวายุ ซึ่งการต่อสู้ในครั้งนั้นผลลัพธ์ที่ออกมาก็คือ ดาบเทพวายุนั้นได้หักลง ส่วนลูกแก้วเทพอัสนีของไยบะก็ได้แตกออก
ตามหาลูกแก้วมังกรเพื่อสู้กับโอนิมารูอีกครั้ง
หลังจากที่ไยบะเสียลูกแก้วไปแล้ว มันเลยทำให้ไยบะต้องออกเดินทางต่อเพื่อหาพลังใหม่ที่จะมาจัดการกับโอนิมารูให้ได้
และทางเลือกของเขานั่นก็คือ การออกเดินทางเพื่อตามหาลูกแก้วชนิดต่าง ๆ ที่กระจายอยู่ทั่วญี่ปุ่น โดยหากสามารถรวมลูกแก้วต่าง ๆ ได้ครบ เส้นทางสู่ ลูกแก้วมังกร นั้นจะเปิดออก
จนกระทั่งสุดท้ายแล้วไยบะก็สามารถรวบรวมลูกแก้วมังกรได้สำเร็จ และ ทำให้ดาบอัสนีของเขาเปลี่ยนเป็นดาบเทพมังกร และเขาก็ได้ใช้พลังนี้ในการต่อสู้กับโอนิมารู
การต่อสู่กับราชินีแห่งดวงจันทร์ Kaguya
แต่ยังไม่ทันที่ไยบะจะได้สู้ตัดสินใจกับโอนิมารู คางูยะ ที่เป็นราชินแห่งดวงจันทร์ซึ่งเคยพ่ายแพ้ให้กับเทพเจ้ามังกรก็ได้ตื่นจากการจำศีล และ เธอก็ได้ยกกองทัพกระต่ายจากดวงจันทร์มาบุกโลก พร้อมทั้งยังแช่แข็งโอนิมารูให้กลายเป็นหิน และนั่นเองจึงทำให้เนื้อเรื่องช่วงนี้ของไยบะจะเป็นการเผชิญหน้ากับกระต่ายจากดวงจันทร์ที่มีความสามารถในการรวมร่างเข้ากับสิ่งต่าง ๆ นอกจากนั้นแล้วจุดประสงค์ของคางูยะที่เดินทางมายังโลกก็คือ การดูดอายุขัย ของเหล่าสาว ๆ เพื่อไปช่วยล่อเลี้ยงความสาวให้ตัวเอง
แต่ที่เป็นทีเด็ดของภาคนี้นั่นก็คือ ดาบจันทร์เสี้ยว ของคางูยะ ที่เป็นดาบซึ่งทรงพลัง และ ยังเป็นอะไรที่ค่อนข้างเท่เอามาก ๆ เลยทีเดียว และด้วยพลังของดาบนี้นี่เองที่ทำให้ไยบะ จำเป็นต้องหาทางช่วยโอนิมารูออกจากผนึกเพื่อมาต่อสู้กับคางูยะ
แต่ทว่าหลังจากที่พวกเขาสามารถเอาชนะได้ กลับกลายเป็นโอนิมารูที่ชิงเอาดาบจันทร์เสี้ยวไป และ ทิ้งดาบเทพวายุ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ยืนยันได้อย่างชัดเจนว่าตอนผ่าน ๆ ที่เราเห็นมาทั้งหมด โอนิมารู ไม่ได้ถูกดาบเทพวายุควบคุมเลย
แต่ทว่านี่ยังเป็นเพียงแค่ครึ่งเรื่องของไยบะเท่านั้น เห็นไหมล่ะว่า ไยบะ ที่ต่างยุค กับเรื่องราวอนิเมะดังยุคเก่า ไยบะ เจ้าหนูซามูไร นั้นมีความแตกต่างกันขนาดไหน งั้นเอาเป็นว่าไว้ในบทความหน้าเราจะมาเล่าถึงเรื่องราวอีกครึ่งหนึ่งของสุดยอดการ์ตูนซามูไรเรื่องนี้กันต่อ แต่จะเป็นเมื่อไหร่นั้น คุณต้องคอยติดตามกันให้ดี ๆ