แม้จะฉายจบไปเมื่อฤดูร้อนของปี 2017 แต่ทาง Muse Thailand ได้นำอนิเมะเรื่องนี้กลับมาฉายให้ได้รับชมกันอีกครั้งแบบถูกลิขสิทธิ์ในชื่อภาษาไทยเรื่อง ขอต้อนรับสู่ห้องเรียนนิยม (เฉพาะ) ยอดคน โดยตั้งตามชื่อไลท์โนเวลที่จัดจำหน่ายโดยสำนักพิมพ์ฟินิกซ์ ซึ่งปัจจุบันจบภาคแรกอยู่ที่ 11 เล่ม โดยตัวอนิเมะนั้นเป็นการสร้างขึ้นมาเพื่อโปรโมตนิยาย และได้สตูดิโอ Lerche ที่เคยฝากผลงานไว้มากมาย เช่น Ansatsu Kyoushitsu ซีรีส์ Danganronpa ทุกภาค ทำการผลิตให้ภายใต้การกำกับของ Hashimoto Hiroyuki มีความยาวทั้งหมด 12 ตอน ตอนละประมาณ 24 นาที อนิเมะเรื่องนี้มองผิวเผินอาจดูเหมือนแนว Slice of life ในรั้วโรงเรียน แต่หากลองเปิดดูแล้วจะพบว่านี่เป็นเรื่องราวในรั้วโรงเรียนที่แปลกใหม่ เมื่อระบบโรงเรียนทำให้มีการตีค่าความสามารถของนักเรียนออกมาเป็นตัวเลข ออกแนวไปทางดราม่า และจิตวิทยาเสียส่วนมาก อย่าให้ภาพประกอบนั้นหลอกตาเด็ดขาด เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์แตกง่าย เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน
ตัวละครในเรื่อง
Ayanokouji Kiyotaka พากย์เสียงโดย คุณ Chiba Shouya
Horikita Suzune พากย์เสียงโดย คุณ Kitou Akari
Kushida Kikyou พากย์เสียงโดย คุณ Kubo Yurika
Sakura Airi พากย์เสียงโดย คุณ Ichimichi Mao
Karuizawa Kei พากย์เสียงโดย คุณ Taketatsu Ayana
Sakayanagi Arisu พากย์เสียงโดย คุณ Hidaka Rina
Ryuuen Kakeru พากย์เสียงโดย คุณ Mizunaka Masaaki
เรื่องย่อ
โรงเรียนมัธยมปลาย Koudo Ikusei ที่จัดตั้งโดยรัฐบาล อัตราการทำงานและเรียนต่อคิดเป็น 100 เปอร์เซ็นต์ นักเรียนที่จบจากที่นี่มักได้รับอภิสิทธิ์มากกว่านักเรียนโรงเรียนทั่วไป ภายนอกดูเป็นโรงเรียนประจำที่เต็มเปี่ยมไปด้วยอิสระแห่งการเรียนรู้อย่างน่าอิจฉา มีทั้งห้องเรียน สถานที่ท่องเที่ยว ห้างสรรพสินค้าอย่างครบครัน แต่ทว่าในความเป็นจริงนั้น โรงเรียน Koudo Ikusei แห่งนี้กลับเต็มเปี่ยมไปด้วยการแข่งขันและจัดชนชั้น พวกนักเรียนแต่ชั้นถูกแบ่งออกเป็นห้อง A B C D ตามลำดับ และมีเพียงห้องเรียนชั้นยอดเท่านั้นที่จะได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม
เรื่องเริ่มจากเด็กหนุ่มหน้าตาย Ayanokouji Kiyotaka ได้บังเอิญนั่งโต๊ะข้างๆ กับ Horikita Suzune ผู้มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะผลักดันตัวเองให้ขึ้นไปยังห้องท็อปอย่างห้อง A ให้จงได้ Ayanokouji จึงถูกพัวพันกับหลาย ๆ เหตุการณ์ กลายเป็นผู้ที่ต้องให้ความร่วมมือไปอย่างตกกระไดพลอยโจน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเพื่อนร่วมชั้นที่มีเรื่องชกต่อย เรื่องของการทำคะแนนสอบกลางภาคของเพื่อนร่วมชั้นที่ไม่ว่าอย่างไรต้องรอดพ้นจากการติดตัวแดงให้ได้ แม้ว่าใจจริงของเขาต้องการเพียงแค่ความสงบสุขในชีวิตรั้วมัธยมปลายเท่านั้น
ในโรงเรียนมีระบบที่เรียกว่า S System ซึ่งเป็นระบบประเมินความรู้ ความสามารถ และความประพฤติของนักเรียนให้ออกมาเป็นตัวเลข และตัวเลขเหล่านี้จะถูกนำมาเป็นคะแนนค่าใช้จ่ายชีวิตประจำวันของนักเรียนตลอดที่อยู่ในโรงเรียน นั่นหมายความว่ายิ่งมีแต้มสูงเท่าไหร่ คุณภาพชีวิตของนักเรียนจะดีขึ้นเท่านั้น แต่ในประวัติศาสตร์ห้อง D ไม่สามารถที่จะขึ้นไปยังห้อง A ได้เลย นั่นจึงทำให้พวกนักเรียนเหล่าห้อง D ถูกมองว่าเป็นสินค้าชำรุด แม้บางคนจะเรียนเก่ง หรือมีทักษะด้านกีฬาแต่ก็ยังมีข้อบกพร่องบางอย่างที่ไม่สามารถไปยังห้องที่สูงกว่านี้ได้ แสดงให้เห็นว่านอกจากทักษะความสามารถแล้ว พฤติกรรมก็ถูกนำมาตัดสินในการแบ่งห้องด้วยเช่นกัน
ด้วยความที่เป็นอนิเมะที่ทำมาเพื่อโปรโมตนิยาย จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมัดรวบเนื้อหานิยายทั้งหมดลงในอนิเมะ ดังนั้นรายละเอียดหลายอย่างจึงถูกตัดทอนออกไป แม้ดูจนจบแล้วก็ยังไม่มีใครรู้ว่าระบบ S System ทำงานอย่างไร และตลอด 12 ตอน ก็ยังไม่ได้เฉลยอะไรให้รู้มากนัก แม้กระทั่งที่มาของตัวละครหลักอย่าง Ayanokouji Kiyotaka ซึ่งทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากแฟนที่อ่านนิยายอย่างมากพอสมควร รวมไปถึงเปลี่ยนบทอย่างตัวละคร Karuizawa Kei ที่เป็นตัวเต็งนางเอกของเรื่องกลายเป็นตัวประกอบซะงั้น
ควรค่าแก่การดูหรือไม่ ?
หากชอบอนิเมะประเภทที่ต้องเฉือนคม ประชันเล่ห์เลี่ยมระหว่างนักเรียนเพื่อไต่เต้าไปยังจุดสูงสุดแล้วแนะนำให้ดูเป็นอย่างมาก แม้บรรยากาศภายในเรื่องจะดูเอื่อยเฉื่อยแต่เนื้อหากลับเข้มข้น บางคนถึงกับบอกว่าเครียดตลอดทั้งตอนเลยก็มี ซ้ำยังเป็นเรื่องที่เต็มไปด้วยปริศนามากมายที่เฝ้ารอให้เราหาคำตอบ แตกต่างจากเรื่องราวในรั้วโรงเรียนที่เคยเจอ ได้แต่เฝ้ารอว่าพระเอกของเราจะโชว์เทพตอนไหน เหตุการณ์ต่อไปจะเป็นอย่างไร ตัวละครส่วนใหญ่ฉลาด มีแผน มีความคิดเป็นของตัวเองเลยทำให้เรื่องยิ่งตื่นเต้น สนุก และลุ้นไปกับมันทุกตอน ใครเป็นสายนี้รับรองไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
จุดเด่นของเรื่องอีกอย่างหนึ่งคือการนำเอาข้อความต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในแต่ละตอนมาใส่ให้ดูถึงความเป็นจริงของมนุษย์ ซึ่งต้องขอบอกเลยว่าเป็นใบ้เรื่องราวในเรื่องอย่างมีชั้นเชิงมากเลยทีเดียว อย่างดังภาพในตอนหนึ่งที่มีข้อความว่า “ความชั่วร้ายคืออะไร ? คือทุกสิ่งที่เกิดจากความอ่อนแอ” – เฟรดริช นิทเช่ ศัตรูของพระคริสต์ เป็นต้น
สรุป
แม้ว่าจะถูกคนอ่านนิยายพูดถึงในแง่ของการเปลี่ยนแปลงบทและตัดทอนรายละเอียดที่ไม่มีในนิยายออกไป แต่โดยรวมถือว่าไม่ได้แย่ อีกทั้งเรื่องนี้ได้คะแนนจากเว็บไซต์ IMDb มากถึง 7.6 และเว็บไซต์ Myanimelist 7.84 คะแนน เรียกได้ว่าแม้จะไม่ถูกใจคนอ่านมาก่อนเท่าไหร่นักแต่ก็ได้ใจของผู้ที่ดูแต่อนิเมะอย่างเดียวมากมายนั่นเอง
สำหรับใครที่ต้องการติดตามตอนนี้สามารถดูทั้ง 12 ตอนได้ที่ Yotube ช่องของ Muse Thailand ได้เลย
แล้วพบกันในบทความหน้ากับ ninjaman-japan
เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> ป๊อกเด้งออนไลน์