Dragon Ball Super: Super Hero นานแล้วที่เราไม่เห็นโกฮังมารับบทนำ

ซีรี่ย์อนิเมะญี่ปุ่น

สำหรับบรรดาเหล่าผู้ใหญ่ที่เคยผ่านช่วงเวลาในยุค 90 มาก่อน เราเชื่อว่าหลาย ๆ คนนั้นจะต้องผ่านการตื่นเช้าในวันเสาร์ – อาทิตย์ เพื่อนั่งสแตนบายรอดูการ์ตูนที่ในตอนนั้นถูกฉายผ่านทางช่อง 9 ทีวี อย่างแน่นอน และหนึ่งในการ์ตูนฮิตที่เด็กผู้ชายหลาย ๆ คนต่างก็เฝ้ารอก็คงจะหนีไม่พ้นการ์อย่างเรื่อง Dragon Ball อย่างแน่นอน ซึ่งใครที่ยังจำความรู้สึกนั้น เราขอบอกเลยว่าตอนนี้ความรู้สึกเหล่านั้นมันได้กลับมาให้คุณสัมผัสกันอีกครั้งแล้วในภาพยนตร์อินเมะอย่างเรื่อง Dragon Ball Super: Super Hero

Dragon Ball Super: Super Hero เป็นภาพยนตร์ลำดับที่ 21 ของแฟรนไชส์อย่างดราก้อนบอล และ เป็นภาพยนตร์ของ Dragon Ball Super เรื่องที่ 2 ที่ทำออกกมา โดยผู้ให้กำเนิดดราก้อนบอลอย่าง อ.โทริยาม่า มาเป็นผู้นำเสนอแนวคิดทั้งหมดจนกลายเป็นเนื้อเรื่องแบบออริจินอลที่ไม่เคยมีใครได้รับชมมาก่อน แถมในเรื่อง Dragon Ball Super: Super Hero ตัวอาจารย์โทริยาม่า เองยังได้ร่วมลงมาคุมงานในเรื่องนี้มากกว่าภาคไหนที่เคยทำมาก่อนอีกด้วย ส่วนผู้สร้างภาพในเวอร์ชั่นนี้ก็ได้สตูดิโอชื่อดังอย่าง โตเอะ อนิเมะชั่น มาเป็นผู้ผลิต และทางโตเอะ เองก็สามารถสร้างเรื่องราวของดราก้อนบอลที่มีความคลาสสิคในตัวของมันเองอยู่มาผสมผสานเข้ากับแง่มุมใหม่ ๆ จนกลายเป็นสิ่งที่น่าสนใจอย่างมากในภาคนี้ แถมเนื้อหาที่อาจารย์โทริยาม่าเป็นผู้เขียนก็ยังเจ๋ง และ ชวนทึ่งแบบสุด ๆ เลยอีกด้วย

Dragon Ball Super: Super Hero นานแล้วที่เราไม่เห็นโกฮังมารับบทนำ 1

 โดยเรื่องราวของ Dragon Ball Super: Super Hero นั้นจะเป็นการเล่าถึงเรื่องราวของ กองทัพอย่างเรดริบบ้อน ที่ถูกโกคูปราบลงไปเมื่อหลายสิบปีก่อน แต่ทว่าเหล่านักรยไซย่านั้นกลับไม่รู้เลยว่า แท้จริงแล้ว กองทัพเรดริบบ้อนนั้นยังมีตัวตนอยู่ และ ถูกสืบทอดโดยชายที่ชื่อว่า มาเจนต้า แถมตัวของ มาเจนต้า เองก็ยังมีความทะเยอทะยานเหมือนดังเช่นในอดีตนั่นก็คือการครองโลก เขาจึงได้ซุ่มสร้างกองทัพแบบเงียบ ๆ ภายในหุบเขาแห่งหนึ่ง โดยได้ ดร.เฮโด้ ซึ่งเป็นหลายชายของ ดร.เกโร่ 

โดยเป้าหมายแรกของ มาเจนต้า และ ดร.เฮนโด้ นั่นก็คือกำจัดบริษัทเสี้ยนหนามอย่างบริษัทที่มีขื่อว่า  บริษัทแคปซูล คอร์ป และ อีกหนึ่งเป้าหมายที่สำคัญที่สุดของพวกเขานั่นก็คือการกำจัดบรรดาเหล่านักรอบ Z ที่ทรงพลัง โดยเป้าหมายในการกำจัดอันดับ 1 นั่นก็คืออ มิสเตอร์ซาตานนั่นเอง แต่ในระหว่างที่แก๊งเรด ริบบิ้น กำลังวางแผนอยู่นั้นเอง จู่ ๆ พิกโกโร่ที่ได้ใช้ชีวิตอันแสนเรียบง่ายในหุบเขาก็ได้พบเข้ากับมนุษย์ดับแปลงอย่าง แกมม่า หมายเลข 2 เข่า และนั่นเองก็ทำให้ตัวของพิโกโร่ได้รับรู้ว่า เจ้ามนุษย์ดัดแปลงตัวใหม่นี้มีพลัง และ ความสามารถเทียบเท่ากับชาวไซย่าเลยทีเดียว งานนี้มันจึงทำให้ตัวของพิโกโร่รีบไปขอความช่วยเหลือจาก โกฮัง แต่ทว่าในตอนนี้เองตัวของ โกฮัง กลับเลือกที่จะเดินเส้นทางสายวิชาการแทน จนแทบไม่เหลือจะความเป็นชาวไซย่าอยู่เลย ซึ่งงานนี้ทั้ง 2 จะสามารถปกป้องโลกได้หรือไม่ เราต้องไปติดตามกันใน Dragon Ball Super: Super Hero

Dragon Ball Super: Super Hero นานแล้วที่เราไม่เห็นโกฮังมารับบทนำ 2

สำหรับบรรดาเหล่าแฟน ๆ ดราก้อนบอล ที่ติดตามภาคซึ่งเป็นหนังโรงมาหลาย ๆ ภาคแล้ว ก็น่าจะรู้ว่าจริง ๆ ดราก้อนบอล มันมีสูตรสำเร็จของมันอยู่นั่นก็คือ การเตะต่อย ปล่อยพลัง ระเบิดพลัง แล้วก็ปิดฉาก ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่หนีไม่พ้นหรอกถ้าคุณคิดจะดูดราก้อนบอล ซึ่งแน่นอนว่าภาค Dragon Ball Super: Super Hero เองก็ยังคงเดินตามสไตล์นั้น แต่ทว่าสิ่งที่ภาคนี้ทำออกมาได้ค่อนข้างดีนั่นก็คือ การจัดบาลานซ์ของฉากต่อสู้เสียใหม่นั่นเอง เพราะว่าในภาค Dragon Ball Super: Super Hero นั้นจะไม่ได้ปล่อบคิวบู๊กับแบบเรี่ยราดจนทำเอาคนดูเหนื่อย เพราะกว่าที่ตัวของเรื่องจะใส่ฉากบู๊แบบเดือด ๆ จัดเต็มกันจริง ๆ ก็ปาเข้าไปจะท้ายเรื่องอยู่แล้ว

ซึ่งพอแบบนี้แล้วหลาย ๆ คนที่เป็นแฟนดราก้อนบอลก็ถึงกับหน้าเหวอ เพราะว่าถ้า Dragon Ball Super: Super Hero ไม่จัดเต็มฉากต่อสู้แล้วเรื่องนี้จะสนุกได้อย่างไร โดยสิ่งที่ Dragon Ball Super: Super Hero เลือกเอานำมาใส่แทนคิวบู๊เหล่านั้นก็คือ การใช้ชีวิตแสนธรรมดาในปัจจุบันของเหล่านักรบ Z นั่นเอง ซึ่งแน่นอนว่ามุม ๆ นี้เราแทบจะไม่ได้เห็นกันเลยในภาค The Movie หรือยิ่งภาคซีรี่ย์นี่ยิ่งแล้วเข้าไปใหญ่ ซึ่งแม้ว่าการเล่าเรื่องราวชีวิตประจำของเหล่านักรบ Z นั้นแม้ว่าจะไม่ได้ในภาครวมทั้งหมด แต่เรื่องราวมันกลับเล่าผ่านบรรดาเหล่าตัวละคร ซึ่งการเล่าแบบนี้นี่เองที่ทำให้มันมีเนื้อหาที่ค่อนบ้างเบาสบาย และ ผ่อนคลายมากกว่าภาคก่อน ๆ 

Dragon Ball Super: Super Hero Strikes With A Vengeance

ซึ่งวิธีการเล่าแบบนี้ของ Dragon Ball Super: Super Hero นี้เองที่มันจะทำให้เราได้เห็นชีวิตของชาวไซย่าบนโลก ไม่ว่าจะเป็น ไกฮัง พิโกโร่ ปัง และ คนอื่น ๆ รวมถึงยังมีการย้อนความหลังแบบนิดหน่อยเพื่อเป็นการเกริ่นนำให้คนที่มาดูใหม่ หรือ ดูนานแล้วแต่ลืมว่า กองทัพ เรด ริบบ้อน คืออะไร แถมการเกริ่นดังกล่าวก็ยังใช้เวลาไม่นานมาก จึงทำให้คุณไม่ต้องห่วงเรื่องที่จะทำให้คุณเบื่อหาคุณรู้เรื่องราวดังกล่าวมาแล้ว และเพราะทั้งหมดนี้เอง จึงทำให้ช่วงต้นของ Dragon Ball Super: Super Hero นั้นกลายสิ่งที่มีเนื้อหาอันน่าสนใจ และ ตราตรึงเราได้อย่างดีเลยทีเดียว

 อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ Dragon Ball Super: Super Hero มีความโดดเด่นมากกว่าดราก้อนบอลภาคอื่น ๆ นั่นก็คือ การสร้างสรรค์บทพูดคุยนั่นเอง ซึ่งใครที่ติดตามงานของ อาจารย์โทริยาม่า มาก็น่าจะพอรู้ว่า สไตล์การหยอดมุกที่เฉือนกันด้วยสนทนา และ การรับส่งมุกแบบมีตัวชง ตัวตบ นั้นก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สามารถเรียกขำได้ดี แถมบรรดาเหล่าตัวละครที่เราเห็นใน Dragon Ball Super: Super Hero น้นก็คือตัวละครที่เรารู้จักนิสัยของตัวละครเหล่านั้นดีมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว มันจึงทำให้บทสนทนา และ การตบมุกต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเรื่องนั้น ไม่ได้ดูยัดเยียด ซึ่งมันปั่นจัด ๆ ถึงขนาดซีนที่ขอพรดราก้อนบอลเลยทีเดียว แต่มันจะปั่นขนาดไหนเราจะไม่เฉลยตรงนี้ เพราะเราอยากให้คุณไปลองดูเอง

Dragon Ball Super: Super Hero นานแล้วที่เราไม่เห็นโกฮังมารับบทนำ 3

ส่วนตัวละครหลัก ๆ ตัวอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น โกคู เบจิต้า เทพบิล หรือ โบรลี่ เองก็ยังคงโผล่ออกมาให้เราเห็นในเรื่องเช่นกัน แต่ก็ไม่ออกมาบ่อยจนแย่งซิ่น เพราะจุดประสงค์หลักในการโผล่มาของพวกเขาใน Dragon Ball Super: Super Hero นั่นก็คือการเซอร์วิสบรรดาเหล่าแฟน ๆ เพียงเท่านั้น แต่ตัวละครหลักที่เด่นจริง ๆ ของภาคนี้ก็คือ โกฮัง ซึ่งในภาคนี้เขาจะมาในบทที่เด่นเอามาก ๆ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้โกฮังโดดเด่นในเรื่องนี้ก็มีทุกอย่างรองรับ ไม่ใช่เพียงแต่จะยัดเยียดบทให้โกฮังเท่านั้น 

และเมื่อการใช้ตัวของโกฮัง เป็นตัวเดินเรื่องหลักใน Dragon Ball Super: Super Hero มันจึงเป็นการย่อขนาดสเกลพลังให้ดูเล็กลง เพราะถ้าหากใครติดตามกันจริง ๆ แล้ว พลังของพวก โกคู นั้นมันเกิดขอบเขตไปจนถึงระดับจักรวาลกันแล้ว แต่พอมาใช้โกฮังเป็นตัวเดินเรื่องพลังระดับชาวโลกนี่แหละที่มันทำให้เกิดฉากบู๊แบบโคตรเดือดเหมือนในสมัยที่เราได้ดูตอนสู้กับเซลล์ยังไง ยังงั้นเลยทีเดียว

นอกจากนั้นในภาค Dragon Ball Super: Super Hero ก็ยังมีการใส่ร่างเสริมให้กัยโกฮังอีกด้วย นั่นก็คือ ร่างที่มีชื่อว่า Gohan Beast ซึ่งเป็นร่างที่เหมือนกับปลุกสัญชาตญาณสัตว์ร้ายในตัวของโกฮังให้ตื่นขึ้นมา ซึ่งบอกเลยว่าร่างนี้ของโกฮังนั้นถือได้ว่าเป็นอะไรที่โคตรเท่เอามาก ๆ เลยละ แถมในภาคนี้ยังเราได้เห็นการกลับมาของเซลล์อีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่เซลล์ตัวนี้ที่กลับมามันไม่ได้ดูเท่เหมือนกับเซลล์ในสมัยก่อน แถมบทบาทของมันก็ไม่ค่อยละเอียดเท่าไหร่อีกด้วย

Dragon Ball Super: Super Hero นานแล้วที่เราไม่เห็นโกฮังมารับบทนำ 4

ส่วนงานด้านภาพของ Dragon Ball Super: Super Hero นั้นก็ถือได้ว่าพอปรับเปลี่ยนมาในรูปแบบของ 3D แล้วมันทำออกมาได้ค่อนข้างลงตัว เพราะการทำภาพเป็น 3D แบบนี้เองที่มันสามารถนำเข้ามาภาพกับการเล่นมุมกล้องต่าง ๆ ซึ่งถ้าใครได้ไปดูแบบเต็ม ๆ ตาในโรงภาพยนตร์ IMAX จะต้องพูดเป็นเสียงเดียวเลยว่าสุดมาก ๆ แถมฉากแอ็คชั่นก็ทำได้ไหลลื่นต่อเนื่องตามสไตล์ดราก้อนบอล

โดยรวยแล้ว Dragon Ball Super: Super Hero นั้นถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งอนิเมะที่ทำให้บรรดาเหล่าแฟน ๆ ดราก้อนบอลทั้งรุ่นเก่า และ รุ่นใหม่ ต่างก็ประทับใจไม่ว่าจะเป็นการเล่าเรื่องในมุมมองใหม่ รวมถึงการนำเอาโกฮังที่หลาย ๆ คนอยากจะเห็นเขากลับมารับบทเด่นอีกครั้ง ออกมาทำได้อย่างโดดเด่น ซึ่งถ้าใครเป็นแฟนดราก้อนบอลแล้วละก็ เราไม่อยากให้คุณพลาด Dragon Ball Super: Super Hero ด้วยประการทั้งปวงเลยละ

บทความล่าสุด

หมวดหมู่

TAG

Tag
10 อนิเมะมิตรภาพในโรงเรียน (1) Code Geass (1) ซีรี่ย์อนิเมะญี่ปุ่น (139) หนังอนิเมะญี่ปุ่น (11) อนิเมะ18+ (1) อนิเมะ Classroom of the Elite (1) อนิเมะ Mairimashita! Iruma-kun (1) อนิเมะ Tensei Shitara Slime Datta Ken (1) อนิเมะการเมือง (1) อนิเมะกีฬา (9) อนิเมะครอบครัว (1) อนิเมะความเชื่อ (1) อนิเมะจิตวิทยา (17) อนิเมะชีวิตประจำวัน (15) อนิเมะดนตรี (5) อนิเมะดราม่า (44) อนิเมะตลก (28) อนิเมะตำรวจ (1) อนิเมะตื่นเต้น (3) อนิเมะต่อสู้ (47) อนิเมะทหาร (1) อนิเมะประวัติศาสตร์ (4) อนิเมะ ปีศาจ (3) อนิเมะผจญภัย (12) อนิเมะพลังวิเศษ (4) อนิเมะภัยพิบัติ (1) อนิเมะมิตรภาพ (1) อนิเมะลึกลับ (15) อนิเมะวัยรุ่น (1) อนิเมะสยองขวีญ (1) อนิเมะสร้างแรงบันดาลใจ (1) อนิเมะสืบสวน (1) อนิเมะหุ่นยนต์ (2) อนิเมะอาหาร (1) อนิเมะฮาเร็ม (3) อนิเมะเกม (2) อนิเมะเวทย์มนต์ (10) อนิเมะ เหนือธรรมชาติ (21) อนิเมะแฟนตาซี (48) อนิเมะแวมไพร์ (1) อนิเมะแหวกแนว (3) อนิเมะโรงเรียน (25) อนิเมะ โรแมนติก (31) อนิเมะโศกนาฏกรรม (1) อนิเมะไซไฟ (7)