เรื่องราวของอนาคตที่อาจล่มสลายถูกนำมาเสนอในรูปแบบการ์ตูนและอนิเมะหรือกระทั่งเกมอยู่บ่อยครั้ง และ DECA-DENCE เองก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่นำเสนอเรื่องราวดังกล่าว ทว่าสิ่งที่ DECA-DENCE แตกต่างจากคนอื่นนั้นกลับเป็นเรื่องราวที่เหมือนจะเหนือจิตสามัญสำนึกของผู้ชมอยู่นิดหน่อย ไม่ได้รับประกันว่าโลกอนาคตข้างหน้ามนุษย์จะเป็นฝ่ายควบคุมหรือเป็นฝ่ายปกป้องโลก แต่เป็นอะไรที่หลงเหลือจากอารยธรรมของมนุษย์นั้นมากกว่า และ DECA-DENCE ก็ถือว่าเป็นอนิเมะที่เสนอแนวคิดแบบนั้นออกมาได้เป็นอย่างดี ซึ่งไม่ค่อยมีเรื่องไหนทำกันเท่าไหร่นัก เพราะส่วนใหญ่มนุษยชาติไม่ล่มสลายเลยก็ต้องเป็นฝ่าย AI ที่เข้าครอบครองโลกอนาคต ซึ่งแนวคิดนี้ก็ไม่ผิดหรือถูกไปเสียทีเดียว
DECA-DENCE เป็นอนิเมะออริจินัลจากสตูดิโอน้องใหม่มากฝีมืออย่าง Nut ที่เคยสร้างผลงานอย่าง Youjo Senki คุณลุงกลับชาติมาเกิดเป็นทหารโลลิสุดโหด หรือ FLCL Alternative โดยเรื่องนี้ได้ผู้กำกับมากฝีมืออย่าง Tachikawa Yuzuru เขียนบทโดย Pettini Emmanuel และออกแบบตัวละคร Taniguchi Hiromi ฉายตอนแรกเป็นรูปแบบทีวีซีรีส์เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2020 จำนวนทั้งสิ้น 12 ตอนด้วยกัน แม้กระแสจะไม่ได้มาแรงมากแต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ได้รับคะแนนค่อนข้างสูงเลยทีเดียว
ตัวละคร
Natsume พากย์เสียงโดย คุณ Kusunoki Tomori
Kaburagi พากย์เสียงโดย คุณ Konishi Katsuyuki
เรื่องย่อ
ในโลกอนาคต ที่ไม่รู้เมื่อไหร่จู่ ๆ ก็มี Gadoll สิ่งมีชีวิตปริศนาเข้ามาจู่โจมทำลายโลก ทำให้มนุษยชาติสูญเสียเป็นจำนวนมาก พวกเขาเหลือเพียงแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ของประชากรโลกเท่านั้น และค่อย ๆ อพยพเข้าไปอาศัยอยู่ Deca-Dence เกราะกำบังคล้ายเมืองเคลื่อนที่แห่งเดียวของโลก Natsume ในวัยเด็กแอบติดตามพ่อของเธอไปยังจุดสำรวจต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับ Gadoll แต่ทว่ากลุ่มนักสำรวจกลับถูกโจมตี สิ่งที่ Natsume เกี่ยวกับพ่อเป็นครั้งสุดท้ายคือคำพูดที่เขาบอกว่าจะกลับมาหา และออกไปต่อสู้กับ Gadoll จนไม่ได้กลับมาอีกเลย
Natsume เติบโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เธอสูญเสียแขนข้างหนึ่งและมีชีวิตอยู่ด้วยแขนเทียมที่แทบจะเป็นเศษเหล็ก ทำให้เธอมักโดนหัวเราะเยาะและปฏิบัติอย่างด้อยค่าอยู่บ่อยครั้ง และเมื่ออายุโตพอที่จะช่วยเหลือสนับสนับพวกข้างบนต่อสู้กับ Gadoll ในฐานะของ Tanker นั้นกลับไม่มีหน่วยแนวหน้าหน่วยไหนให้เธอเข้าสังกัดเลยแม้แต่น้อย ทุกคนในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ากลับได้ทำงานหน้าที่ของตนตามปรารถนา แม้จะอยากเป็น Tanker ที่คอยสนับสนุนเบื้องหลังอย่าง Gears มากขนาดไหน แต่เธอกลับถูกโยนไปยังหน่วยทำความสะอาดเกราะซะนี่ แล้วแบบนี้จะสามารถกำจัด Gadoll อย่างยั่งยืนได้อย่างไร
Natsume ได้เข้าอยู่หน่วยทำความสะอาดของ Kaburagi หัวหน้าผู้เงียบขรึม ไม่ยอมพูดจาสุงสิงกับใคร แต่แล้ววันหนึ่งเธอก็ได้พบกับความลับของอีกฝ่ายเข้าจึงค่อย ๆ ทำความรู้จักกัน Kaburagi ที่เห็นความสามารถบางอย่างของ Natsume ก็เริ่มใจอ่อนและช่วยสอนการต่อสู้ให้กับเด็กสาวที่ต้องการจะกำจัดศัตรูด้วยมือของตนเอง แม้ทุกอย่างจะดำเนินไปแบบนั้น แต่ Kaburagi กลับมาความลับอีกอย่างที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน นอกเหนือจากทำงานขัดเกราะตามที่ได้รับมอบหมายแล้ว ตกกลางคืนเลิกงานเขากลับมีอีกหนึ่งภารกิจที่ต้องคอยจัดการอยู่ทุกค่ำคืน พร้อมกับคำพูดที่ว่า “บั๊กทุกคนต้องถูกกำจัด”
ควรค่าแก่การดูหรือไม่ ?
เป็นแนวแอคชั่นไซไฟที่เนื้อหาเหนือความคาดหมายอย่างมาก มนุษย์ไม่ได้กลายเป็นจุดสูงสุดของสิ่งมีชีวิตบนโลกอีกต่อไป พวกเขาเป็นเพียงพลเมืองชั้นสองที่คอยสนับสนุบเหล่าพลเมืองชั้นหนึ่งในการออกล่า Gadoll แม้รูปลักษณ์ภายนอกของพวก Gears จะคล้ายกับมนุษย์ แต่เบื้องหลังแล้วกลับเป็นอะไรที่เซอร์ไพรส์กว่านั้น โดยช่วงแรกของเรื่องพลอตค่อนข้างคล้ายกับเรื่องอื่นทั่วไปที่เป็นการต่อสู้ของมนุษย์กลุ่มสุดท้ายที่กำลังหลงเหลืออยู่กับผู้รุกรานไม่ว่าจะทั้งจากต่างโลกหรือสิ่งมีชีวิตปริศนา แต่เมื่อพอถึงตอนสองเป็นต้นไปจะอธิบายถึงความเป็นมาว่าจริง ๆ แล้ว Deca-Dence คืออะไร เหตุใดจึงทำงานแบบนั้น และเหล่า Gears ที่คอยต่อสู้นั้นจริง ๆ แล้วคือใครกันแน่ รับรองว่าเป็นอะไรที่ไม่เหมือนใครและผิดคาดอย่างมากเลยทีเดียว
ในส่วนของงานภาพจัดได้ว่าอลังการงานสร้าง ไม่ว่าจะทั้งฝั่งมนุษย์เอง ฝั่ง Gadoll รวมไปถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ ในการสู้รบ ไม่มีตรงไหนที่ดูเป็นงานเผาแม้แต่น้อย ฉากเครื่องจักรในเรื่องเองก็มีความน่าสนใจ กลไกการทำงานที่เหมือนจะสามารถโต้ตอบกับศัตรูได้ การมีสาธารณูปโภคต่าง ๆ ที่เหมาะกับการใช้ชีวิต รวมไปถึงทำแหล่งอาศัยของผู้คนและ Gears ที่มีความแตกต่างกันออกไป สำหรับเรื่องนี้แล้ว มนุษย์คืออะไรกัน และอีกฝ่ายเป็นตัวอะไรกันแน่จะค่อย ๆ สืบได้คำตอบไปช้า ๆ แต่น่าเสียดายที่เรื่องนี้ไม่ค่อยถูกพูดถึงเท่าไหร่นัก
สรุป
แต่คะแนนสำหรับผู้ชมที่ให้กับ Deca-Dence ก็มีมาอย่างสมเหตุสมผลเลยทีเดียว อย่างเว็บไซต์ Myanimelist ให้อยู่ที่ 7.41 และ IMDb ให้อยู่ที่ 7.0 คะแนน ส่วนตัวมองว่ายังมีบางจุดที่ตัวเรื่องอธิบายไม่หมด หรือมีคำอธิบายสองทางโดยที่ยากจะฟันธงว่าฝั่งไหนกันแน่ที่เป็นข้อมูลเรื่องของจริง เพราะแม้จะพยายามทำความเข้าใจตัวตนของตัวละครในเรื่องแล้วก็ยังถือว่ามีศัพท์ใหม่ที่ดูง ๆ อยู่บางที อาจทำให้เรื่องแลดูเข้าถึงยาก และไม่รู้ว่าจะสื่อสารไปทิศทางไหนกันแน่ แล้วจุดประสงค์ใหญ่ของเรื่องคืออะไร นับว่าเป็นอีกเรื่องที่ต้องอาศัยการตีความอยู่ ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ