หลังจากสร้างความประทับใจอย่างถล่มทลายและทำให้มุมมองที่มีต่อสาวน้อยเวทมนตร์เปลี่ยนไปทั้งวงการอนิเมะอย่างเรื่อง Mahou Shoujo Madoka★Magica แล้ว จากนั้นก็ได้พัฒนาเรื่องราวของสาวน้อยเวทมนตร์คอนเซ็ปเดิมกับเรื่องราวใหม่ที่นอกเหนือจากภาคหลักออกมาในรูปแบบของเกมมือถือ แม้ผลตอบรับจะไม่เท่าต้นฉบับหลัก แต่ก็ยังได้รับความนิยมจนมีการแปลออกมาเป็นภาษาอังกฤษ ทำให้เรื่องราวของสาวน้อยเวทมนตร์บทใหม่ได้เริ่มต้นขึ้น ต่างสถานที่ ต่างเวลา และต่างเรื่องราว ในชื่อภาคว่า Magia Record หรือบันทึกมากิอา นั่นเอง
Magia Record: Mahou Shoujo Madoka☆Magica Gaiden เปิดตัวในฐานะเกมมือถือระบบเอนดรอยส์และ IOS ครั้งแรกเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ปี 2017 ซึ่งห่างจากภาคหลักถึง 6 ปีด้วยกัน พัฒนาเกมโดย f4samurai ภายใต้สังกัดของ Aniplex เป็นเกมแนวสวมบทบาท โดยมีตัวละครเอกใหม่ที่ชื่อ Tamaki Iroha กับเรื่องราวที่แยกออกมาจากภาคหลัก ก่อนจะถูกดัดแปลงเป็นมังงะตีพิมพ์ในนิตยสาร Manga Time Kirara Forward ภายใต้สำนักพิมพ์ Houbunsha วาดโดยอาจารย์ FUJI Fujino ปัจจุบันออกมาแล้ว 4 เล่ม
ในส่วนเวอร์ชั่นอนิเมะได้สตูดิโอเดิมผู้ที่เคยผลิตภาคหลักนั่นคือสตูดิโอ Shaft ที่มีผลงานมามากมายเช่น Monogatari Series และได้ Satou Yoshiki เป็นผู้กำกับหลัก ร่วมกับ Gekidan Inu Curry ผู้เขียนบทมือฉมัง โดย บันทึกมากิอา ฉายภาคแรกเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2020 จำนวน 13 ตอน และภาคสองเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2021 ซึ่งภาคสองนี้ยังไม่มีประกาศซื้อทำซับไทยลงแพลตฟอร์มไหน ซึ่งคงต้องรอดูกันต่อไป
ตัวละคร
Tamaki Iroha พากย์เสียงโดยคุณ Asakura Momo
Nanami Yachiyo พากย์เสียงโดยคุณ Amamiya Sora
Yui Tsuruno พากย์เสียงโดยคุณ Natsukawa Shiina
Futaba Sana พากย์เสียงโดยคุณ Ogura Yui
Mitsuki Felicia พากย์เสียงโดยคุณ Sakura Ayane
เรื่องย่อ
นี่เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนเส้นเรื่องหลักจะถูกดำเนินขึ้น เป็นเรื่องราวของสาวน้อยเวทมนตร์ที่ชื่อว่า Tamaki Iroha เธอมีอาวุธประจำตัวเป็นหน้าไม้พร้อมมีพลังในการรักษา แต่ทว่าในทุก ๆ วันที่ต้องเอาชีวิตเข้าเสี่ยงเพื่อกำจัดแม่มดนั้น Tamaki Iroha กลับได้หลงลืมความปรารถนาของตนที่ทำให้ต้องกลายเป็นสาวน้อยเวทมนตร์เพื่อแลกกับพรนั้น จนกระทั่งอยู่มาวันหนึ่ง Tamaki Iroha ได้ยินข่าวลือบางอย่างว่าถ้าหากต้องการมีชีวิตรอดปลอดภัยให้ไปที่เมือง Kamihama แต่ทว่าหลังจากที่ Tamaki Iroha กลับพบกับแม่มดที่มีแข็งแกร่งกว่าที่เคยเจอ Tamaki Iroha รอดชีวิตจากการช่วยเหลือที่ไม่ค่อยเต็มใจนักจาก Nanami Yachiyo ที่บอกให้เธอรีบไปจากเมือง Kamihama เสีย เพราะแม่มดของที่นี่แข็งแกร่งและเก่งกาจกว่าแม่มดของที่อื่น ซึ่งไม่ใช่ที่ ๆ สาวน้อยเวทมนตร์อ่อนประสบการณ์อย่าง Tamaki Iroha จะกำจัดได้
Tamaki Iroha ได้พบกับ Kyuubey ตัวน้อย สิ่งมีชีวิตประหลาดที่เคยเชื้อเชิญให้เธอกลายมาเป็นสาวน้อยเวทมนตร์เพื่อแลกกับพรหนึ่งประการ ทำให้ Tamaki Iroha ที่เคยหลงลืมพรของตนกลับขึ้นภาพจำของน้องที่ที่ชื่อว่า Ui ทำให้ Tamaki Iroha เริ่มออกตามหาน้องสาวของตนที่หายตัวไปในเมือง Kamihama ด้วยความช่วยเหลือของเหล่าสาวน้อยเวทมนตร์ที่เธอได้พบเจอ ในขณะเดียวกันข่าวลือแปลก ๆ ของเมือง Kamihama ก็ค่อย ๆ คืบคลานเข้ามาพร้อมกับเหตุการณ์คนหายไปอย่างน่าประหลาดต่อเนื่อง Tamaki Iroha กับพรรคพวกจึงออกตามหาต้นตอของปัญหานั้นและสันนิษฐานว่าน้องสาวของเธออาจจะถูกทำให้หายไปเพราะเหตุการณ์ประหลาดเหล่านี้
ควรค่าแก่การดูหรือไม่ ?
เรื่องนี้ดูทรงแล้วน่าจะเป็นไทม์ไลน์ก่อนเกิดเรื่องราวของ Madoka แน่นอนเมื่อบอกว่าเป็น Side Story ของเรื่องหลักก็มักจะทำให้ถูกคาดหวังจากแฟน ๆ อยู่พอสมควร ดังนั้นเมื่อถูกปล่อยฉายออกมาอดไม่ได้ที่จะนำเอามาเทียบกับต้นฉบับดั้งเดิม ซึ่งเอาจริง ๆ แล้วทั้งบันทึกมากิอา และสาวน้อยเวทมนตร์มาโดกะ ต่างมีกลิ่นอายเฉพาะเป็นของตัวเอง โดยเฉพาะต้นฉบับที่ได้ Urobuchi Gen เป็นผู้เขียนบท จึงทำให้ธีมเรื่องทวีความดาร์กมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะความพีคตั้งแต่กลางเรื่องไปจนถึงช่วงท้าย ในขณะที่ บันทึกมากิอานั้นอาจจะมีความดาร์กน้อยกว่านั้น และมีความเป็นมิตรภาพสูงกว่าฉบับเดิม ส่วนตัวจึงรู้สึกว่าแม้จะเป็นสาวน้อยเวทมนตร์โลกเดียวกัน แต่บรรยากาศแตกต่างกันค่อนข้างมาก
ดังนั้นแล้ว บันทึกมากิอาจึงเป็นเรื่องราวที่เต็มไปด้วยปริศนาลึกลับ พร้อมพลังมิตรภาพของผองเพื่อน ซึ่งมีความสดใสกว่าฉบับ Urobuchi Gen เล็กน้อย แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งความน่าติดตาม เรื่องงานภาพความอาร์ตบอกเลยว่า Shaft ไม่เคยทำให้ผิดหวังอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังนำ ClariS และ Kalafina นักร้องเพลงประกอบจากสาวน้อยเวทมนตร์มาโดกะมาทำเพลงประกอบในภาคนี้ด้วย ทำให้แฟน ๆ ที่คิดถึงกลิ่นอายเก่า ๆ ได้หายคิดถึงกันบ้าง ลองเปิดใจดูก็จะรู้สึกว่ามันไม่ได้แย่ ซ้ำยังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนภาคหลักอีกด้วย
สรุป
แม้จะไม่ได้รับความนิยมเท่าฉบับดั้งเดิม แต่เรื่องนี้คะแนนก็ไม่ได้แย่นัก เว็บไซต์ Myanimelist ให้คะแนนเรื่องนี้ภาคแรกอยู่ที่ 6.51 และภาคสองอยู่ที่ 7.06 ส่วน IMDb ให้ที่ 6.3 แสดงให้เห็นว่าจุดพีคของเรื่องน่าจะอยู่ที่ภาคสองเป็นสำคัญ ดังนั้นแล้วลองเปิดใจหารับชมภาคแรกได้ที่ Netflix คาดว่าอีกไม่นานน่าจะลงภาคสองให้ได้รับชมกันเร็ว ๆ นี้
Credit ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ